Oppday Q1/2024 ADVICE บมจ. แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://listed-company-presentation.set ... h/vdo/7880
[ ADVICE ] บริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด (มหาชน)
-
- Posts: 3145
- Joined: Mon Apr 17, 2023 1:05 pm
สรุปคลิป Oppday Q1/2024 ADVICE บมจ. แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท
Q1’2024 Business Update
- รายได้ 3,567 +13.2% YoY สัดส่วนของ Product IT ลดลง 1.7% YoY เป็นไปตามตลาด ส่วนที่เติบโตขึ้นมาเป็นโมบาย +242% YoY และ Apple 56%YoY
- Gross Profit 9.37% เพิ่มจากปีที่แล้ว ที่ 8.43% สาเหตุที่Gross Profitเติบโตขึ้นมา อันแรกเลยคือเกิดจากที่ระดมทุนมา แล้วไปซื้อสินค้าเป็นเงินสดแล้วได้ส่วนลดมา สองการสั่งซื้อซื้อพรินเตอร์จาก Distributor โดยตรง และ ที่ทําให้Gross Profitสูงขึ้นแน่นอนคือลดสัดส่วนการขายส่งไปขายปลีกมากขึ้นขายองค์กรมากขึ้นซึ่ง ตรงนี Gross Profit จะสูงขึ้นเป็นไปตามสิ่งที่คาดไว้แล้วทิศทางที่จะเติบโตไปในอนาคต
- Net Profit 1.58% เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ 1.36%
- ค่าใช้จ่ายในการขายการบริหาร ปีนีสูงขึ้น จาก E-Market Place ค่าธรรมเนียมปรับสูงกว่าปีที่แล้วอย่างชัดเจน สองคือ ค่าเช่าร้านซึ่งมีการเปิดร้านเพิ่มในในกรุงเทพฯแล้วมีการขยายสาขาให้ใหญ่ขึ้น สุดท้ายคือค่าพนักงานที่เติบโตขึ้น เนื่องจากว่าเริ่มทําAppleแล้วสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมาในส่วนของพนักงาน เรามีพร้อมที่จะทำให้ยอดขายโตได้ได้อีก15-20% เลยโดยที่ไม่ต้องเพิ่มพนักงานแล้ว และมีค่าใช้จ่ายอีกหนึ่งที่เป็นExtraคือค่าใช้จ่ายในการ IPO
- ลดลงไปเพราะว่าส่วนหนึ่งคือขายในงานราชการเยอะ ตรงนี้ส่วนใหญ่จะเป็นออเดอร์ของราชการ ดังนั้นงบราชการไม่ออก ส่วน Desktop เลยหายลงไป 2%
- D.I.Y ที่หายไป 3% เนื่องจากว่าเทรนด์เกมเมอร์ลดลงไป แล้วรอบของการเปลี่ยนเครื่อง ยังไม่ถึงรอบ
- สมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นมา 3%
- อื่น ๆ เพิ่ม 2% ซึ่งจะเป็นแอคทีฟบอร์ด เป็นสินค้าที่เริ่มโฟกัส จํานวนไม่ได้เยอะแต่มูลค่าสูง
- ขายส่ง ลดลง ซึ่งทำให้ GP เพิ่มขึ้น
- ในส่วนออนไลน์ ขายผ่าน WWW ของเรา 80% ส่วน 20% ขายผ่าน Market Place
- ส่วนการขายส่ง แฟรนไชส์ของเราเอง 37%ดีลเลอร์ทั่วไป 63%
- ADVICE ตอนนี้รวมกันทั้งหมด 339
- สาขาของเราเอง 110 สาขา จากตอน IPO มี 112 สาขาเนื่องจากบางแห่งเรามีการยุบรวม
- Franchise 229 สาขา
- Apple CE 71 สาขา ครบทุกจังหวัดแล้ว พร้อมทำ marketing
- Android CE 97 สาขา ครบทุกจังหวัดเช่นกัน
- CE คือการเป็น Corner อยู่ในร้านเรา
- ทางขวามือเป็นสัดส่วนว่าร้านที่มีอยู่ ส่วนใหญ่จะต่างจังหวัด 85% แล้วอยู่ในกรุงเทพฯและปริมณฑล 15%
- ส่วนลักษณะของร้านคือที่ตั้งของร้านเป็น Stand Alone 68% และ 32% อยู่ตามห้าง
- D/E Ratio ลดลงจาก 7.5 เท่าเป็นเหลือที่ 2.42 เท่า เนื่องจากว่าระดมทุนมาไปใช้ชําระหนี้
- IBD/E Ratio ลดจาก 1.2 เหลือ 0.45
- Current Ratio 1.09
- Cash Cycle ค่อนข้างจะทําได้ดีมาตลอด การเก็บเงิน เมื่อก่อนเฉลี่ยอยู่2 วันตอนนี้เป็น 3 วัน เพราะเราขายCorporate มากขึ้น มีการปล่อยเครดิตมากขึ้นถือว่า บริหารลูกหนี้ได้ได้ค่อนข้างจะดี
- Inventory Day ต้องบอกว่าที่ผ่านมา เราทําได้ดีกว่านี้ แต่ช่วงตั้งแต่Q4 ปีที่แล้ว จนมาถึง Q1 ปีนี้ เราเริ่มโฟกัสที่จะทํา สมาร์ทโฟน Apple แล้ว ทําให้ต้องมี demo สินค้าส่วนหนึ่ง แล้วอีกส่วนหนึ่งแน่นอนต้องมี Stock ซึ่งเวลามี Stock กว่าจะทําให้ลูกค้ารับรู้ แล้วStockหมุนได้เหมือน IT คงต้องใช้เวลา แม้จะขึ้นมา 42 แต่ยังดีที่สุดในอุตสาหกรรมเดียวกัน เชื่อว่า Q2 คิดว่าน่าจะลดลงเหลือ 30 กว่าวัน เข้าสู่ภาวะปกติ เนื่องจากเห็นว่าขายสมาร์ทโฟนมากขึ้นแล้วเริ่มหมุนสินค้าได้ดีขึ้นแล้วคิดว่าอนาคตคงกลับไปหมุนให้ได้เหมือนแบบไอที คืออยู่ 30 วันในระยะยาว
- การชําระหนี้ ลดเหลือ 41 วันเนื่องจากว่าไปว่าใช้เงินใช้เงินที่ระดมมาไปชําระหนี้บางส่วนที่เป็นสถาบันแล้วอีกส่วนหนึ่งที่เป็น Working Cap เอาไปชําระหนี้กับซัพพลายเออร์แล้วรวมถึงซื้อเงินสดด้วย เลยทําใหจํานวนวันของเจ้าหนี้ลดลงเหลือ 41
- อันแรกเป็น Apple ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เปิดโมโน คือเป็นร้านAppleเลย สิ่งที่ได้มาคือตั้งเป็น Stand Alone ไม่อยู่บนห้าง ตอนนี้ได้อนุมัติมาแล้วทั้งหมด 10 จังหวัด ซึ่งคาดว่าจะเปิดได้ภายในปีนี้ 8 ที่เป็นต่ำ 3 สาขาแรกจะเปิดภายในเดือน 9 จะทันกับการเปิดตัว iPhone16
- ส่วนแพลนของปีหน้า จะเปิดให้ได้รวม 30-45 ขึ้นอยู่กับความรวดเร็วในการหาพื้นที่ การตกแต่ง
- คาดหวังว่าเปิดตัวไอโฟนใหม่ในปีหน้า เราน่าจะมีได้สักครึ่งประเทศแล้ว
- แล้วปี 2026 คงเปิดให้ได้ครบ 50-70 จังหวัด ทั่วทั้งประเทศ
- Break even point ของสาขาโมโนคือ 6,000,000 บาทต่อเดือน วันละ 200,000 บาท ส่วนเป้าที่คุยกับทาง Apple ไว้ ตกลงกันที่ 12 ล้าน
- สินค้า Apple ราคาต่อชิ้นคือ 20,000 กว่า ๆ วันหนึ่งก็ขาย 10 ตัว พนักงาน 3 คน เราลงทุนเรื่องคนไปรองรับตรงนี้ระดับหนึ่งแล้ว
- คาดว่าในเดือน 6 คิดว่าน่าจะได้ EPSON เรียบร้อย
- ที่ดำเนินการอยู่มี 5 แบรนด์ ปีนี้น่าจะทําได้มากกว่าเป้าที่ตั้งไว้ทําให้มีรายได้เพิ่มขึ้นบางส่วน และสามารถ Service ลูกค้าได้ได้ครบวงจรจริง ๆ
- รายได้ โต 4.6% YoY
- จำนวนราย บริษัทจำกัด เติบโต 20% YoY มหาชนเติบโต 18% YpY
- ส่วนมากเป็นบริษัทเอกชน และ บริษัทจำกัด ขนาดใหญ่ ๆ
- ชําระหนี้สถาบันการเงิน 250 ล้านหมด
- Working Cap 117.3 ล้าน อันนี้เช่นกันใช้ไปหมดแล้วซื้อเงินสด
- รีโนเวทและแล้วเพิ่มสาขา ใช้ไป 5.7 ล้าน แพลนไว้ 110 ล้าน
- การพัฒนาระบบไอที 50 ล้าน ตอนนี้ยังไม่ได้ใช้ แต่คิดว่าน่าจะใช้เริ่มใช้เดือนเดือนนี้ ซึ่งจะตัดค่าเสื่อมคิดว่ายังใช้ไม่ถึง 50 ในช่วงแร กคงเอาเงินก้อนโยกไปไปเป็น working cap ในการที่จะไปไปซื้อของเป็นเงินสดก่อน
- เข้าสู่ ESG100 หวังว่าจะเป็นบริษัทที่มีธรรมาภิบาลแล้วมี Good Governance ที่ดีที่สุด
เป้าหมายรายได้ปีนี้ ตั้งเป้าไว้อย่างไร แล้วปัจจัยที่ทําให้รายได้เติบโตตามที่วางแผนไว้
- โตไม่ต่ำกว่า 10% คิดว่าปีนี้คงทําได้ตามเป้า Q1 อาจจะไม่ค่อยดี ทุกอย่างยังไม่มาน่ะคือไม่ว่าจะเป็นงบรัฐบาล ความไม่แน่นอนทางสังคมแล้ สงคราม ยังเติบโตเต็มที่ แต่เติบโตมาแล้ว 3% กว่า คิดว่าจะโตก้าวกระโดดอีกทีหนึ่งคงเป็นครึ่งปีหลังที่ที่จะเติบโตขึ้นมา
- เพราะฉะนั้นปัจจัยที่จะทําให้เติบโตให้ได้ 10% ที่ที่จะต้องทําชดชดเชยกับครึ่งปีแรก ครึ่งปีหลังจะเป็นเรื่องของ AI PC และเรื่องที่จะเปิดโมโนแล้วทํามาร์เตติ้งเกี่ยวกับโมบายทั้งหมดที่เป็น Andriod และ Apple
- เราเอาสินค้าใหม่เ ข้ามาขายให้กับลูกค้าเก่า ซึ่งไม่ได้ยาก ถ้าคนทําธุรกิจจะรู้ว่าตรงนี้ทําไม่ได้ยากเลย เพราะว่าคนที่ใช้ไอทีส่วนใหญ่ต้องใช้มือถืออยู่แล้ว แล้วมีครบทั้ง ios และ andriod
- รวมไปถึงงบของรัฐบาลที่จะออกมา10,000 บาท ซึ่งไม่รู้ว่าถ้า คือจะซื้อของADVICEได้รึเปล่า แต่ต่อให้ซื้อได้ซื้อไม่ได้ ก็มองว่ามีผล คนอาจจะมีเงินเหลือเพิ่มขึ้นที่จะมาอัพเกรดเครื่อง เพราะว่าถึงเวลาจริง ๆ ที่ครบรอบอะที่ที่จะต้องเปลี่ยนเครื่องแล้ว AI มาทําให้คนจําเป็นต้องเปลี่ยนในบางคน ต้องใช้คําว่าบางคนก่อน เพราะว่าวันนี้แอปพลิเคชันที่จะทําให้ Product ที่เป็นเป็น AI PC ขายแบบก้าวกระโดด ต้องรอไมโครซอฟท์ ที่เค้าจะออกตัวใหม่ออกมา ซึ่งจะเป็นการมีแอปพลิเคชันที่อยู่ในเครื่อง ไม่ต้องใช้ Cloud
- ทุกวันนี้ทุกท่านคงทราบว่า AI ที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้รันอยู่บน Cloud ซึ่งถ้าใช้ไม่หนักจริงๆ ใช้ PC ธรรมดาที่ไม่ใช่ AI ได้
- แต่ถ้าใช้เยอะ ๆ จะเริ่มมีผล เริ่มใช้เวลาต่างกันอย่างเห็นชัด
- อนาคตคือแน่นอนเนื่องจากว่าข้อมูลที่ที่จะอัพขึ้นไปอยู่บนCloud บางครั้งเป็นความลับในของบริษัทจําเป็นต้องใช้การประมวลผลในเครื่องตัวเอง ซึ่งเดี๋ยวไมโครซอฟท์จะออกมา แล้วแอปพลิเคชันจะไหลตามออกมาว่า อันนี้เป็นเอไอที่ใช้ติดตั้งอยู่ในเครื่องไม่ต้องวิ่งไปที่Cloudเพราะฉะนั้นข้อมูลยังเป็นความลับอยู่
- ถึงเวลานั้น ตลาดPCจะถูกเปลี่ยนจะถูกเปลี่ยน 60-80% ต้องเปลี่ยนมาใช้มาใช้มาใช้เป็น PC AI คาดว่าครึ่งปีหลังจะเติบโตขึ้นตามตามนี้
- ใช้คําว่าโดยปกติ Q2 ยอดขายน้อยกว่า Q1 เริ่มมาจาก ช้อปดีมีคืน หรือ easy receipt ทําให้ครึ่งQแรกเร่งดีมานด์เยอะมาก เรียกว่า เปลี่ยน seasonal ของวงการไอทีไปแล้ว Q2 ยังเป็นเทรนด์แบบปีที่แล้วอยู่มีร่วงเล็กน้อย วิ่งไปตามเทรนด์ แต่ Q2 YoY ยังเติบโตอยู่
- ในสปปลาวมีคุยกัน เค้าเริ่มก้าแรกไปแล้ว ที่บอกว่าจะไปตั้งบริษัทย่อย ต้องบอกว่าต้องอาศัยเค้าก่อนที่เป็นแฟรนไชส์ที่นั่น
- ตอนนี้กําลังเตรียมกันอยู่ เพราะฉะนั้นตอนนี้เค้าเริ่มก้าวที่หนึ่งไปแล้วสําหรับของเค้า
- กว่าจะเข้าไปไปจัดการคงน่าจะเป็นช่วงปลายปีหน้า
- และต้องบอกว่าตอนนี้ทางลาวก็สะดุดเรื่องค่าเงิน
- เรื่องยาวเลยถ้าบอกว่ามีรุ่นอะไรบ้าง ตอนนี้โน๊ตบุ๊คมาแล้ว Roadmap มีมาเรื่อย ๆ เริ่มเข้ามาแล้ว
- พอ ๆ กับ Q1 อาจจะดีขึ้นเล็กน้อย แต่ ไม่ได้เยอะมาก
- ตอบยาก เลยเพราะว่า ถ้าเป็น End User เขาใช้ E Tax เกือบหมด แต่เค้าเอาไปใช้จริงรึเปล่าอันนั้นไม่รู้แล้ว ด้วยระบบเราเปิดE Tax เกือบหมดเลย 100%
- แต่ถ้าบอกว่ายอดเติบโตเทียบปีที่แล้วก็โต 3%
- Player ตอนนี้ เท่าเดิมอยู่ ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง การแข่งขันคงคล้ายเดิม
- อาจจะเริ่มลดลงกว่าเดิม เพราะว่าทุกคนเริ่มไปทํามือถือส่วนหนึ่งด้วยมีมีการเติบโตจากตรงอื่นเพราะฉะนั้นนีอาจจะไม่ได้แข่งขันกันรุนแรงเพราะทุกคนไปทํามือถือเพิ่มเอาได้
- GPM คิดว่า Q2 ไม่ได้หนีกันมาก
- ตอนเจาะตลาดมือถือ ถ้าพูดถึง %GP ของ IT อาจจะดีขึ้นเพราะซื้อสด แต่สิ่งที่จะมาดึงลงไปคือ แน่นอน เข้าตลาดมือถือใหม่ต้องต้องทําราคาสู้แล้วต้องเป็นบางช่วงที่ที่เปิดตลาดอีกต้องมีบ้างเพราะฉะนั้น อาจจะทําให้Gross Profit%เท่าเดิม
- จนกว่ามือถือจะอยู่ตัว จนมองว่าค่าใช้จ่ายเริ่มควบคุมได้ เมื่อถึงจุดหนึ่ง เป็น Economy of Scale ถึงจุดนั้น Gross Profit จะดีขึ้น
- เราพร้อมอยู่แล้ว เป็นเบอร์หนึ่งในหลาย ๆ แบรนด์ เพราะการแบ่งของมาให้เรา เราได้รับการ Allocation ได้มากกว่า เพราะใครทํายอดเยอะ ก็ให้เยอะเพราะฉะนั้นเราก็พร้อม
- แต่ถ้าบอกว่าเกิดสงครามชิปขึ้นมา ราคาก็จะแพง แต่เรามีทั้ง2อย่าง มีทั้งโน้ตบุ๊กและPCซึ่งโดยประสบการณ์ ถ้าโน๊ตบุ๊คขาดตลาด PC ก็จะขายดีขึ้น
- จากประสบการณ์ 20 ปี จะเห็นวนอยู่แบบนี้ ADVICE พร้อมรับสถานการณ์
- ตัว macbook จะต่ำ แต่ปกติขายก็ต้องขาย accessories ด้วย ทาง Apple ก็เฉลี่ยมาให้ ถ้าขาย accessories
- การไปต่างจังหวัด ไปได้ จุดคุ้มทุนอยู่แค่ 6 ล้านต่อเดือน เอาอยู่สำหรับ 1 จังหวัด
- แล้วแน่นอนในความเป็นADVICEมีความต่างอยู่แล้วที่ที่จะทําให้รู้สึกว่าลูกค้าได้อะไรที่มากกว่า มีประสบการณ์ที่ดี
- ตั้งไว้ทั้งปี 6.9 ซึ่งยังสูงกว่าปีที่แล้ว แต่ว่าด้วยที่ Q1 ปิดที่ 7.44
- ถ้าทำยอดขายครึ่งปีหลังได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ คาดว่าจะลงมาอยู่ที่ 6 กว่า ๆ ได้
- ต่างกัน 5-6%
- สร้างความต่าง เป็น Stand Alone ซึ่งได้เห็นความเปลี่ยนแปลงแน่นอน ถ้าไม่ต่าง เราไม่ทํา
- ลดไปตามตลาด ระดับโลกก็ลด
- ถ้าไม่ตามเป้า 12 ล้าน กําไรน้อยลง แต่ถ้าทําต่ำกว่า 6 ล้านคือ ขาดทุน
- แต่คิดว่า ไม่ได้ยาก
- เร็ว ๆ นี้ยังไม่มี อนาคตต้องรอรอบบ้านให้มีเสถียรภาพก่อน ไม่ว่าจะเป็นพม่ากัมพูชา รอโอกาส
- คือเขาใช้ระบบเรา และ แบ่งGross Profitให้เรา ไม่มีค่าแฟรนไชส์ มีแค่ค่าติดตั้ง
- Franchise ตอนนี้ที่จะเข้ามาใหม่คือต้องทํางานซ่อม อันนี้เป็นเงื่อนไข
-
- Posts: 3145
- Joined: Mon Apr 17, 2023 1:05 pm
Oppday Q2/2024 ADVICE บมจ. แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://www.set.or.th/th/market/product ... y-snapshot
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://www.set.or.th/th/market/product ... y-snapshot