[ BIS ] บริษัท ไบโอซายน์ แอนิมัล เฮลธ์ จำกัด (มหาชน)
Posted: Wed Jan 25, 2023 9:44 am
- 20230122_BIS(ไม่มีภาพ).png (1018.63 KiB) Viewed 1978 times
- 20230122_BIS(ไม่มีภาพ).png (1018.63 KiB) Viewed 1978 times
Thanonlongtun
ถนนลงทุน
https://thanonlongtun.com/
[ BIS ] บริษัท ไบโอซายน์ แอนิมัล เฮลธ์ จำกัด (มหาชน)
Page 1 of 1
Re: [ BIS ] บริษัท ไบโอซายน์ แอนิมัล เฮลธ์ จำกัด (มหาชน)
Posted: Wed Aug 30, 2023 2:45 pm
- 20230830_BIS-01.jpg (481.57 KiB) Viewed 1963 times
- 20230830_BIS-01.jpg (481.57 KiB) Viewed 1963 times
Re: [ BIS ] บริษัท ไบโอซายน์ แอนิมัล เฮลธ์ จำกัด (มหาชน)
Posted: Mon Nov 13, 2023 3:21 pm
- 20231103_BGT-01.jpg (510.45 KiB) Viewed 1956 times
- 20231103_BGT-01.jpg (510.45 KiB) Viewed 1956 times
Re: [ BIS ] บริษัท ไบโอซายน์ แอนิมัล เฮลธ์ จำกัด (มหาชน)
Posted: Tue Dec 19, 2023 2:47 pm
Oppday Q3/2023 BIS บมจ. ไบโอซายน์ แอนิมัล เฮลธ์
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://listed-company-presentation.set ... h/vdo/6233
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://listed-company-presentation.set ... h/vdo/6233
Re: [ BIS ] บริษัท ไบโอซายน์ แอนิมัล เฮลธ์ จำกัด (มหาชน)
Posted: Mon Mar 18, 2024 3:16 pm
Oppday year-end 2023 BIS บมจ. ไบโอซายน์ แอนิมัล เฮลธ์
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://listed-company-presentation.set ... h/vdo/6849
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://listed-company-presentation.set ... h/vdo/6849
Re: [ BIS ] บริษัท ไบโอซายน์ แอนิมัล เฮลธ์ จำกัด (มหาชน)
Posted: Tue May 28, 2024 8:14 pm
Oppday Q1/2024 BIS บมจ. ไบโอซายน์ แอนิมัล เฮลธ์
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://listed-company-presentation.set ... h/vdo/6961
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://listed-company-presentation.set ... h/vdo/6961
Re: [ BIS ] บริษัท ไบโอซายน์ แอนิมัล เฮลธ์ จำกัด (มหาชน)
Posted: Wed Jun 19, 2024 9:47 pm
- 20240611 BIS-01.jpg (302.68 KiB) Viewed 1540 times
- 20240611 BIS-01.jpg (302.68 KiB) Viewed 1540 times
สรุปคลิป Oppday Q1/2024 BIS บมจ. ไบโอซายน์ แอนิมัล เฮลธ์
ภาพรวมบริษัท
- ก่อตั้งมาเป็นเวลา 20 ปีแล้ว เริ่มต้นจากกลุ่มสัตวแพทย์ทั้งหมด 7 ท่าน ต้องการที่จะผลักดันวงการปศุสัตว์และสัตว์เลี้ยงไทยให้ก้าวหน้าขึ้น
- สร้างเครือข่ายสัตวแพทย์ทั้งในส่วนของสัตว์เลี้ยงและปศุสัตว์ มีเน็ตเวิร์กทางด้านสัตว์เลี้ยงแล้วปศุสัตว์กว้างขวาง
- บริษัทเป็นผู้นําเข้าสินค้าจากต่างประเทศและจัดจําหน่ายสินค้าไปยังประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน CLMV ซึ่งสินค้าต่างต่างที่นําเข้ามาจะเป็นสินค้าที่คัดเลือกแล้วว่าเป็น Top ของกลุ่มสินค้านั้น เพื่อจะให้ตอบโจทย์กับลูกค้าที่มีการพัฒนาทางด้านการเลี้ยงสัตว์แล้วการผลิตอาหารเพิ่มขึ้นทุกวัน
- นอกจากนั้นยังมีทีมงานสัตวแพทย์ ที่คอยเพิ่ม Valueให้กับสินค้า การทําสูตรอาหาร วางโปรแกรมวัคซีนเพื่อให้สินค้าเหล่านั้นตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น
- นอกจากสินค้าที่นําเข้าแล้ว ยังมีสินค้าที่ผลิตขึ้นเองที่โรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร ที่พระรามสอง เป็นกลุ่มสารเสริมคุณค่าอาหารสัตว์
- นอกเหนือจากสินค้าที่ผลิตเองแล้ว ยังมีสินค้าที่วิจัยและพัฒนา กับนักวิจัยในประเทศต่าง ๆ เพื่อผลิตสินค้าภายใต้สูตรที่คิดค้น
- ผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ที่จดลิขสิทธิ์ไว้ พยายามสร้างแบรนด์ของตัวเอง
- ทําให้ปัจจุบันมีฝ่ายขาย ที่เป็นสัตวแพทย์ สัตวบาล รวมกันถึง 65 ท่าน ครอบคลุมพื้นที่การขายทั่วประเทศ รวมไปถึงประเทศเพื่อนบ้านด้วย
BIS เป็นใครใน Value Chain นี้
- เป็นผู้จัดจําหน่ายสินค้า พร้อมให้คําปรึกษาทางด้านวิชาการ
- กลุ่มที่หนึ่งสินค้าที่เกี่ยวกับสุขภาพสัตว์ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนป้องกันโรคสําหรับสัตว์ ยารักษาโรค ยาปฏิชีวนะผสมอาหาร ยาฉีด
- กลุ่มที่สองกลุ่มสารเสริมคุณค่าอาหารสัตว์
- กลุ่มที่สามเป็นอุปกรณ์เครื่องมือ ชุดตรวจ ที่ใช้ในการวินิจฉัยโรคต่าง ๆ โดยการเจาะเลือด ไม่ว่าจะเป็นน้องหมาน้องแมว หรือว่ากลุ่มปศุสัตว์จะสามารถตรวจระดับภูมิคุ้มกันและตรวจวัดโรคต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้
- กลุ่มที่สี่ กลุ่มอาหารเม็ดสําเร็จรูปสําหรับสัตว์
- กลุ่มที่ห้า จะเป็นกลุ่มวัตถุดิบอาหารสัตว์ สําหรับผู้ผลิตหรือว่าฟาร์มที่ต้องการจะผลิตอาหารที่ฟาร์มเอง
- กลุ่มสุดท้ายเป็นกลุ่มสินค้าที่เกี่ยวกับนโยบายการส่งเสริม ESG ของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นเตาเผาซากสําหรับสัตว์ หรือจุลินทรีย์เพื่อบําบัดน้ําเสียที่ออกจากฟาร์มสุกรหรือว่าฟาร์มไก่
- ซึ่งสินค้าทั้งหมด 6 กลุ่ม จะจัดจําหน่ายไปทั้งในส่วนของปศุสัตว์ ฟาร์มหมู ฟาร์มวัว ฟาร์มไก่ ฟาร์มสัตว์น้ํา อีกช่องทางที่สําคัญในส่วนของสัตว์เลี้ยง
- ถ้าเป็นกลุ่มปศุสัตว์ ขายไปที่โรงงานอาหารสัตว์แล้วโรงงานอาหารสัตว์ที่มีฟาร์มเลี้ยงสัตว์ด้วย แปรรูปเนื้อสัตว์ด้วยแล้ว รวมไปถึงที่มีธุรกิจช็อปเรียกว่าธุรกิจครบวงจรหรือ Integrate ไม่ว่าจะเป็น ห้างร้านใหญ่ ๆ
- ในส่วนของสัตว์เลี้ยง ลูกค้าปลายทางโรงพยาบาลสัตว์ คลินิกรักษาโรคสําหรับสัตว์ Pet Shop รวมไปถึง E-Commerce ซึ่งเรากําลังจะไป
- ส่วนสุดท้ายลูกค้าปลายทาง Export ไปยังต่างประเทศ
- การจัดจําหน่ายใช้วิธีการขายตรงผ่านบุคลากรทางด้านสัตวแพทย์ที่มีความรู้เฉพาะทางแล้วให้บริการทางด้านวิชาการ
- นําเข้าสินค้าจากต่างประเทศกว่า 16 ประเทศทั่วโลก
- สินค้าที่ถือสูตร แล้วพัฒนาสูตรเหล่านั้นเอง แล้วไปจ้างโรงงานที่อยู่ในเมืองไทยผลิตสินค้านั้น ต่อมาภายใต้แบรนด์เลยของเรา เรียกว่าเป็น OEM Product
- กลุ่มสุดท้าย สินค้าที่ผลิตขึ้นภายใต้โรงงานที่พระรามสอง
- กลุ่มที่ 1 ยารักษาโรควัคซีน กลุ่มที่ 2 สารเสริมคุณค่าอาหารสําหรับสัตว์ กลุ่มที่ 3 ชุดตรวจโรค เป็นกลุ่มที่ทําอัตรากําไรขั้นต้นได้สูง 20% เป็นกลุ่มที่ตั้งใจจะโฟกัส
- กลุ่มที่ 4 กับกลุ่มที่ 5 จะเป็นสินค้าที่จัดจําหน่ายเพื่อตอบโจทย์ให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าที่ต้องการอาหารสําเร็จรูป หรือลูกค้าที่ต้องการวัตถุดิบ
- Key Business Driver ท่านนักลงทุนสามารถติดตามได้จากจํานวนประชากร ไม่ว่าจะเป็นประชากรหมู ไก่หรือว่าเทรนด์การเลี้ยงสัตว์ จํานวนน้องหมาน้องแมวที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลต่อยอดขาย และ สังเกตได้จาก โรคระบาด โรคระบาดในสัตว์ถ้าเกิดขึ้นมาจะส่งผลต่อการเพิ่มยอดขายในส่วนของชุดตรวจและยารักษัตรโรค
- บางสินค้าเราเป็นตัวแทนจําหน่ายแบบ Exclusive
- กลุ่มที่อยากจะให้ท่านนักลงทุนติดตามจะเป็น กลุ่มสินค้าที่ผลิตที่โรงงานเรา และสินค้าที่เราถือสูตร ถือลิขสิทธิ์ แล้วจ้างโรงงานอื่นผลิตอยู่เช่น ยาปฏิชีวนะ สารเสริมมูลค่าอาหารสัตว์ แล้วชุดตรวจที่ใช้คัดกรองโรคอาหิวาต์สุกรที่เป็นโรคระบาดที่สําคัญมากในช่วง2-3 ปีที่ผ่านมา
- สัดส่วนกลุ่มสินค้าที่เป็นที่มีอัตรากําไรขั้นต้นค่อนข้างสูง สามกลุ่มแรกคือ ปฏิชีวนะ สารเสริม ชุดตรวจรวมกัน 65% ของยอดขายทั้งหมด
- ถัดมาถ้าดูในส่วนของพอร์ตโฟลิโอของลูกค้า
- ธุรกิจปศุสัตว์ในประเทศ 74% สัตว์เลี้ยง 23% ธุรกิจต่างประเทศเรากำลังผลักดันให้เกิดขึ้นตอนนี้ประมาณ 3% ตรงนี้จะไปที่กัมพูชา พม่า มาเลเซีย ลาว
- มีทั้งขายตรงไปที่ลูกค้าที่เป็นโรงงานอาหารสัตว์ในต่างประเทศ แล้วผ่าน Local Distributir
- รายได้จากการดําเนินงาน 568 ล้านบาท +6.2% YoY
- กําไรสุทธิ 14 ล้าน +97.3% YoY
- การสร้างฐานลูกค้า ปศุสัตว์ครบวงจร จากปีที่ผ่านมามีการขยายในกลุ่มสินค้าและบริการเข้าส่วนของตลาดนี้ ทําให้ Q1 สามารถรับรู้รายได้ส่วนนี้
- การรับรู้ผลประกอบการที่เกิดขึ้นใน CLMV สามารถรับรู้รายได้ กําไรที่เป็นสินค้า High Margin ในเมียนมาและ รับรู้รายได้ในกัมพูชา
- ให้ความสําคัญกับสินค้าภายใต้แบรนด์ เป็นสินค้า B2C ให้ความสำคัญกับสินค้าภายใต้แบรนด์ในทุก ๆ BU
- มีความตั้งใจที่จะทําใรายได้ให้เติบโต 10 - 15% ในทุกปี
- มุ่งเน้นในส่วนของสินค้าแล้วบริการที่สร้าง High GP
- ปี 2024 มุ่งเน้นสินค้า high margin 3 ส่วน
- มุ่งขยายตลาดปศุสัตว์ครบวงจร เนื่องจากลูกค้ากลุ่มนี้จะเป็นลูกค้าที่มีการขยายตัวต่อเนื่องทั้งภายในประเทศและใน CLMV
- ให้ความสําคัญกับสินค้าเกี่ยวกับไบโอเทคโนโลยี วัคซีนชุดตรวจ เอนไซม์ โพรไบโอติก เหล่านี้สร้าง high margin ให้กับกลุ่มสินค้าที่เราขาย
- สร้างฐานลูกค้าที่เติบโตใน CLMV ปีนี้มีการเติบโตที่รับรู้แล้วจากเมียนมา และกัมพูชา กำลังจะรับรู้รายได้จากเวียดนาม
- มองหาโอกาสความร่วมมือกับผู้ค้าในธุรกิจใหม่ ๆ
- ในปี 2025 ยังมุ่งเน้นการเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยที่อยากจะเพิ่มสัดส่วนของการเติบโตในธุรกิจสัตว์เลี้ยง ปัจจุบันนี้มีสัดส่วน 22% มุ่งหวังว่าอย่าเพิ่มสัดส่วนในธุรกิจสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้น
- อยากจะขยายในสัดส่วนของสินค้าที่เป็นกลุ่มใน Margin อย่างต่อเนื่องในปี 2025
- แล้วยังรักษาการเติบโตในธุรกิจในประเทศเพื่อนบ้านใน CLMV
- ในปี 2026 อยากจะครอบคลุมในส่วนของธุรกิจทั้งสามและสัตว์เลี้ยงกับครบวงจร มีสินค้าและบริการให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสินค้าด้วย งานบริการด้วย และอุปกรณ์ด้วย อันนี้จะเป็นความมุ่งหวังในปี 2026
- ในขณะเดียวกันอยากจะขยายตลาดไปในภูมิภาคอาเซียนเพิ่มเติม โดยเฉพาะในอินโดนีเซีย
- เพิ่มสินค้าในกลุ่ม High Margin โดยสร้างสินค้าภายใต้แบรนด์ จะมีสินค้าปศุสัตว์ออกมาด้วย เพิ่มการนําเข้าสินค้าที่เป็นสินค้านําเข้าโดยตรงสู่ลูกค้ารายใหญ่ ตัดวงจรของคนกลางออกเพื่อเพิ่ม Margin โฟกัสในส่วนของ biotechnology เพิ่มในส่วนของ Pet Business ทําให้ Ecosystem ครบโดยในปีนี้จะเริ่มมีการ launch สินค้าหลายตัวในไตรมาสถัดเ ช่นอุปกรณ์การแพทย์ ขณะเดียวกันเริ่มออกข่าวในส่วนของการตั้งบริษัท เป็นบริษัทใหม่ที่ให้บริการเกี่ยวกับน้องหมาน้องแมวซึ่งคงจะมีข่าวในไตรมาสต่อไป
- เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โฟกัสในส่วนของลูกค้าหรือขยายตัวในส่วนของลูกค้าที่มีการเติบโตอย่างกลุ่มปศุสัตว์ครบวงจร เพิ่มช่องทางการขายในส่วนของB2Cให้มากขึ้น
- เพิ่มทักษะความรู้ความสามารถให้กับสัตวแพทย์แล้วทีมงาน ขยายไปในธุรกิจต่างประเทศ มีการโฟกัสที่ชัดเจนโดยที่เวียดนามขยายไปในส่วนของตลาดที่เป็นหนึ่งสุกร เมียนมา มีความตั้งใจว่าอยากจะจัดตั้งบริษัทลูกถ้าเป็นไปได้ภายในปีนี้แล้วเน้นโฟกัสในส่วนของธุรกิจสัตว์ปีก ซึ่งมีการเติบโตอยู่ กัมพูชาส่งสินค้าผ่านช่องทางชายแดนแล้วมุ่งเน้นไปที่ลูกค้าขนาดใหญ่ ส่วนอินโดนีเซียจะโฟกัสในส่วนของตลาดของสัตว์ปีกเพราะว่าตลาดใหญ่มาก และ ตลาดแมว
- ไม่ละเลยในการเติบโตสร้างการเติบโตแบบยั่งยืนและมั่นคง ดังนั้นให้ความสําคัญกับการทํา R&D ในปีถัดคงจะเพิ่มงบประมาณในเรื่องของการทําR&D เพื่อพัฒนาสินค้าภายใต้แบรนด์ของตัวเองมากขึ้น ESG มีทั้งในส่วนที่เซิร์ฟความต้องการของลูกค้าที่เป็นลูกค้าขนาดใหญ่ที่จะต้องทําเรื่องของ ESG ขณะเดียวกันยังทํา ESG ในส่วนของบริษัทเองด้วย เพื่อตอบโจทย์ความยั่งยืนของบริษัท ท้ายที่สุด ให้ความสําคัญกับการทํา Digital Transformation ในองค์กรเพื่อขยับขยายการทําธุรกิจต่อไปให้ยั่งยืนในอนาคต
- รายได้เติบโตถ้าเทียบใน YoY
- และเติบโตในส่วนไม่ว่าจะเป็น รายได้ กําไรขั้นต้น EBITDA Net Profit
- รายได้เติบโตเพิ่มขึ้นจากกลุ่ม Nutrition และ กลุ่มอาหารเม็ด ตัวของอาหารเม็ดสําเร็จรูปมีศักยภาพในการแข่งขันและเจาะตลาดลูกค้ามากยิ่งขึ้นตรงนี้จะช่วยเพิ่มโดยการยอดขายใน Capture ของลูกค้าได้มากขึ้นเช่นกัน
- รายได้ครึ่งปีหลังมักจะมากกว่าครึ่งปีแรกจากเรื่องของกิจกรรมทางการตลาด รวมถึงโรคประจําถิ่น
- กําไรขั้นต้น เทรนด์เดียวกับรายได้ YoY ดีขึ้นแต่ว่าถ้าเกิด QoQ จะปรับตัวลดลงเช่นกัน Gross Margin เพิ่มขึ้น
- ค่าใช้จ่าย ควบคุมสัดส่วนต่อรายได้ให้ใกล้เคียงกับที่ผ่านมา
- กําไรสุทธิ ปรับตัวเพิ่มขึ้น อยู่จะเพิ่มขึ้น +97.3% YoY จาก 7.1 อัตรากําไรสุทธินี่เพิ่มขึ้นจาก 1.3% เป็น 2.4%
- ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะสําคัญ
- Cash ลูกหนี้การค้ามีการปรับตัวลดลงน้อย
- สินค้าคงเหลือ ควบคุมให้อยู่ในสต็อกที่ระดับเหมาะสม
- ในส่วนของฝั่งด้านขวานี่จะเป็นหนี้สินในส่วนของผู้ถือหุ้นไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง สิ่งที่เปลี่ยนแปลงเป็นพวก Trading Asset หมด
- Current Ratio D/E Ratio Cash Cycle แสดงถึงว่าบริษัทยังมีอัตราการเงินที่แข็งแกร่ง
- D/E Ratio 0.4 เท่า แสดงให้เห็นถึงบริษัทยังมีรูมในการเงินลงทุนกับกู้เงินค่อนข้างมากในการลงทุนในอนาคต รวมถึงเสริมสภาพคล่องในสูง
- ROE ROA จะเห็นความสภาพในการทํากําไรที่เพิ่มขึ้น
- ปศุสัตว์
- ประชากรของสุกรจากปี 2020 มีจํานวนประชากรประมาณ 22 ล้านตัว หลังจากที่มีโรคระบาดเกิดขึ้น ประชากรสุกรลดลงอย่างมีนัยยะสําคัญปี 2022 เหลือเพียง 15 ล้านกว่าตัว ลดลงประมาณ 15.3% แต่หลังจากนั้นมีการควบคุมโรค ทําให้สถานการณ์เริ่มคลี่คลายขึ้นในปี 2023 คาดปี 2024 เป็นปีจะมีจํานวนประชากรสุกรสูงขึ้นถึง 19 ล้านตัวซึ่งจะกลับไปใกล้เคียงกับจํานวนสุกรก่อนก่อนที่จะเกิดภาวะโรคระบาดซึ่งเป็นแนวโน้มที่ดีขึ้น
- ราคาสุกร ราคาของสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มที่ขายกัน จากเดิมในมกราคมปี 2023 ราคาหน้าฟาร์มอยู่ประมาณร้อยบาท หลังจากนั้นมีการนําเข้าหมูมา ทําให้ราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มลดลงตามลําดับ อย่างไรตามปัจจุบันภาครัฐได้มีการออกนโยบายมาเพื่อป้องกันแล้วรัดกุมในการ ห้ามการนําเข้าหมูเถื่อน ส่งผลให้ราคาสุกรหน้าฟาร์มมีแนวโน้มที่ดีขึ้นปรับตัวขึ้นจาก 67 มา 72 บาทหรือประมาณ 6% ล่าสุดเป็นสัญญาณที่ดีที่ผู้เลี้ยงเจ้าของธุรกิจเลี้ยงปศุสัตว์จะมีสภาพคล่องมากขึ้น แล้วพิจารณาใช้สินค้าที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของความได้ดีขึ้น
- ปริมาณการบริโภคเนื้อสุกรของประเทศไทยช่วงระบาดยังมีมีแนวโน้มที่ลดลง ตอนนี้กลับมาฟื้น แล้วมีนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น ฉะนั้นปริมาณการผู้บริโภคต่อเพิ่มขึ้น 1.38 ล้านตัน
- ส่วนเรื่องอื่นที่ยังต้องเฝ้าระวังเรื่องของการระบาดของโรค American Swine Fever ในประเทศเพื่อนบ้าน โรคนี้ไม่มีวัคซีน
- สัตว์เลี้ยง
- ปริมาณของสัตว์เลี้ยงในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2023 - 2026 จะมีประชากรสุนัข แมว อื่น ๆ เติบโตขึ้น 2.4% ต่อปี
- มูลค่าธุรกิจ ปกติแล้วในธุรกิจนี้จะเป็นเรื่องของการรักษาโรคอยู่ประมาณ 50,000 กว่าล้าน เรื่องของอาหารสัตว์ อยู่ประมาณ 74,000 ล้าน ซึ่งตรงนี้ทางเรามีสินค้าที่จะจําหน่าย ไม่ว่าจะเป็นอาหารจากวัคซีนจาก Accessory และ Pet Shop ทั้งหลาย
- เทรนด์ของผู้เลี้ยงสัตว์ ตอนนี้มีความต้องการที่จะรักษาสิ่งแวดล้อม และเลือกสินค้าที่มีความ Premium มากขึ้น
- ด้านตลาดออนไลน์หรือว่าช่องทางในการจัดจําหน่ายที่เป็น Retail Shop เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสําคัญต่อเนื่อง
- รักษาการเติบโตของรายได้ 10 -15%
- ทําในสินค้าต่าง ๆ เป็นสินค้าภายใต้แบรนด์ของBIS รวมถึงสินค้าของโรงงาน
- พยายามขยายสินค้า High Margin รวมถึงพยายามนําเข้าสินค้าโดยตรงส่งถึงลูกค้ารายใหญ่
- เพิ่มช่องทางการจัดจําหน่ายในสินค้าปศุสัตว์ครบวงจรและช่องทางการจัดจําหน่ายของB2Cเพิ่มเติมจากเดิมที่ทําB2B
- มุ่งมั่นในการลดความเสี่ยงในการขยายตลาด CLMV เชื่อว่า Q3-Q4
เริ่มรับรู้รายได้จากทางเวียดนาม
Q&A
Q1/2024 Product ที่สร้างการเติบโตให้กับบริษัทอะไร
- ชุดเครื่องตรวจทั้งปศุสัตว์และสัตว์เลี้ยง
- กลุ่มที่มีการเจาะตลาดเข้ากับลูกค้า Integrate รายใหญ่
- กลุ่มที่มีการปรับสูตรอาหาร
- เทรนด์ของปศุสัตว์โดยเฉพาะสุกร ประชากรเพิ่มขึ้นแล้วยอดขายเราสอดคล้องกับจํานวนสุกรที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มที่มีอัตรากําไรขั้นต้นสูงเช่น ยาปฏิชีวนะสําหรับสัตว์ สารเสริมคุณค่าอาหารสัตว์ รวมถึงชุดตรวจโรคที่ยังต้องซื้อเพื่อเฝ้าระวังFรคระบาดที่อาจจะกลับมาเกิดอีกครั้งนึงได้ ส่งผลบวกกั
- ธุรกิจเราอิงกับประชากรของปศุสัตว์ ประชากรสุกรเริ่มกลับกักตัวในทิศทางที่เป็นเชิงบวก เพียงแต่ในแนวโน้มในสัดส่วนของรูปแบบของธุรกิจอาจจะปรับเปลี่ยนไปบ้าง อาจจะเป็นลูกค้าขนาดใหญ่ที่เติบโตมากขึ้น แนวโน้มในอนาคตจะมีประชากรสัตว์มากขึ้นแต่ว่าสัดส่วนของการที่เติบโตอาจจะไปอยู่ในบริษัทที่เป็นบริษัทครบวงจรมากขึ้น ซึ่งมีการรองรับในส่วนของสินค้าบริการเอาไว้แล้ว ขีดความสามารถของพนักงานที่ขายเพื่อปรับตัวในการขยายตัวเข้าสู่ตลาดปศุสัตว์ครบวงจร
- ดังนั้นแนวโน้มมันส่งผลบวกแน่ ๆ สําหรับปีนี้ เพราะว่าประชากรของปศุสัตว์น่าจะเป็นแรงเสริมให้กับบริษัท
- 80% ของยอดซื้อส่วนใหญ่เป็นเงินบาท เนื่องจากในส่วนของสินค้าเวลาจะซื้อจาก Supplier ส่วนใหญ่แล้ว Supplier จะอาจจะมีสํานักงานรองที่ไทย เช่นมีสาขาที่ประเทศไทย
- อีก 20% ที่เหลือสินค้าที่ซื้อส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มวัตถุดิบที่เป็นอย่างพวกสินค้าอย่างเช่นโปรตีน กรดอะมิโน พวกนี้อาจจะมีการสั่งซื้อจากต่างประเทศ มีบ้าง เรื่องของเงินบาทนี่กระทบยังมีมาตรการล้อค forward ค่าสินค้า โดยไม่ได้หวังการเก็งกําไร แต่หวังเพิ่งควบคุมต้นทุนให้สามารถแข่งขันได้
- ตอนนี้สถานการณ์ในพม่า ตอนนี้เป็นปัจจัยบวก เนื่องจากว่าการนําเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ที่มาทางเรือ เครื่องบิน แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
- ทําให้สินค้ามีความต้องการสูงผ่านการค้าชายแดน ซึ่งคือประเทศไทย
- อย่างไรตามช่วงก่อนมันมีปัญหาที่เมวดี ซึ่งทําให้การส่งสินค้าต้องชะงักไประยะนึงเพราะว่าต้องประเมินความเสี่ยงว่าสินค้าจะไปถึงอย่างสมบูรณ์หรือไม่ ถ้ามีความเสี่ยงจะต้องพักการส่งก่อน
- ซึ่งตรงนี้จะประเมินกับลูกค้าทางนั้นร่วมกันว่าเค้าจะต้องสั่งสินค้าไปสต็อกบางส่วนก่อนรึเปล่า
- อย่างไรตามตอนนี้การส่งสินค้ากลับมาเป็นปกติแล้ว แต่ยังไงยังมีการเฝ้าระวังอยู่ตลอดเวลา
- ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งสําคัญที่สุด ต้องอยู่ที่การประมาณการล่วงหน้าในการสั่งสินค้าของลูกค้า
- คิดว่าน่าจะน่าจะมีแนวโน้มที่กลับมาได้ปกติ เพราะว่าตอนนี้ส่งสินค้าได้ตามปกติ
- อยากเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นอย่างน้อย 1%
- ตอนนี้มีทิศทางที่บวกขึ้น จากผลประกอบการไตรมาสหนึ่งที่ออกมา
- โดยบริษัทจะมุ่งเน้นในการเพิ่ม GP ในสินค้า มุ่งเน้นสินค้าโรงงานที่เป็นสินค้า GP สูง
- ไม่เป็น Seasonal ขนาดนั้น แต่ว่ามีปัจจัยบวกที่ส่งผล
- โดยปกติแล้วในเรื่องของยอดขาย Q3-Q4 จะเป็นช่วงที่มีการจัดกิจกรรมทางการตลาด และอาจจะมีโรคประจําถิ่นที่มาในช่วงของปลายฝนต้นหนาวที่จะมีกระตุ้นการใช้เรื่องของวัคซีนยาปฏิชีวนะมีการยอดขายเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจจะไปปัจจัยเสริมทําให้ยอดขายช่วงของ Q3-Q4 ดีกว่าไตรมาสหนึ่งในไตรมาสสองเล็กน้อย
- มียอดขายเพิ่มขึ้นต่อเนื่องแล้วอยู่ในขั้นตอนของการนําเสนอลูกค้ารายใหญ่เนื่องจากว่าลูกค้ารายใหญ่ต้องมีการทําการทดลองแล้วขอข้อมูลมากพอสมควร แต่อย่างไรตามยังติดตามอยู่ตรงนั้นแล้ว มาตรฐานที่ได้รับล่าสุดเพิ่มศักยภาพในการนําเสนอสินค้าของเราเป็นรูปแบบมากขึ้น
Re: [ BIS ] บริษัท ไบโอซายน์ แอนิมัล เฮลธ์ จำกัด (มหาชน)
Posted: Wed Aug 28, 2024 8:52 pm
Oppday Q2/2024 BIS บมจ. ไบโอซายน์ แอนิมัล เฮลธ์
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://www.set.or.th/th/market/product ... y-snapshot
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://www.set.or.th/th/market/product ... y-snapshot
Re: [ BIS ] บริษัท ไบโอซายน์ แอนิมัล เฮลธ์ จำกัด (มหาชน)
Posted: Thu Oct 03, 2024 10:14 pm
- 20241005 BIS-01.jpg (302.56 KiB) Viewed 216 times
- 20241005 BIS-01.jpg (302.56 KiB) Viewed 216 times
สรุปคลิป Oppday Q2/2024 BIS บมจ. ไบโอซายน์ แอนิมัล เฮลธ์
รู้จักธุรกิจ BIS
- BIS ปัจจุบัน BIS ทําธุรกิจมา 22 ปีแล้ว เริ่มต้นจากกลุ่มสัตวแพทย์ 7 ท่านที่รวมตัวกันแล้วก็พยายามสร้างเครือข่ายทางด้านปศุสัตว์และ สัตว์เลี้ยง และ นําสินค้าเข้าจากต่างประเทศ ปัจจุบันนําสินค้าจาก 16 ประเทศทั่วโลก ซึ่งสินค้าที่นําเข้ามาจะเป็น ท็อปท็อปของกลุ่มสินค้าแต่ละกลุ่ม
- นอกจากนั้น เรานําเข้ามาจัดจําหน่ายในประเทศไทยแล้วประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะ CLMV ซึ่งเพื่อลดความเสี่ยงในการนําเข้าสินค้า เราพัฒนาสินค้าที่เป็นสินค้าของเราเองขึ้นมาด้วย โดยที่พัฒนาในสองรูปแบบ คือผลิตที่โรงงานของเราเองที่นิคมอุตสาหกรรมสินสาคร และอีกทางนึง เราคิดค้นสูตรเฉพาะสําหรับสินค้าแต่ละชนิดเราจ้างผลิตในโรงงานที่เป็นท็อปท็อปของประเทศไทย เลยเรียกสินค้านั้นว่า OEM
- ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีสัตวแพทย์อยู่ประมาณ 60-70 ท่าน ซึ่งทําการจัดจําหน่ายสินค้าควบคุมพื้นที่ทั่วประเทศ ทั้งในปศุสัตว์และสัตว์เลี้ยง
- BIS อยู่ในส่วนของการจัดจําหน่าย ตรงกลางภาพสีเหลือง ซึ่งบริษัทนําเข้าแล้วจะจําหน่ายสินค้าอยู่ทั้งหมด 6 กลุ่มด้วยกัน ซึ่งสินค้าทั้ง 6 กลุ่ม ครอบคลุมทั้งปศุสัตว์และสัตว์เลี้ยง เป็นตัวแทนจําหน่ายในประเทศไทยและ CLMV ทางด้านซ้ายส่วนของต้นน้ําของเรา มีการนําเข้าสินค้าจาก 16 ประเทศหลักหลัก
- แล้วส่วนที่สองคิดค้นสูตรแล้วจ้างโรงงานในประเทศไทยผลิตหรือเรียกว่าOEM
- ส่วนที่สามคือสินค้าที่เป็นกลุ่มสารเสริมคุณค่าสารอาหารสัตว์อยู่ในโรงงานของเราเองที่นิคมอุตสาหกรรมสินสาคร
- ส่วนปลายน้ําลูกค้าของเป็นใครบ้างคือ ในส่วนปศุสัตว์จะประกอบไปด้วยโรงงานอาหารสัตว์ที่ผลิตอาหารเม็ดสําเร็จรูปจัดจําหน่ายให้กับฟาร์ม ส่วนที่สองคือปศุสัตว์ครบวงจรจะเป็นธุรกิจที่มีโรงงานอาหารสัตว์ มีการเลี้ยงสัตว์ แล้วมีธุรกิจจัดจําหน่ายเนื้อสัตว์ของตัวเอง ซึ่งกลุ่มนี้มีการขยายธุรกิจเข้าไปในลูกค้ารายสําคัญของประเทศไทยได้อีกเยอะพอสมควรตามกลยุทธ์ของที่วางไว้
- ถ้ามาในส่วนของสัตว์เลี้ยง ธุรกิจสัตว์เลี้ยงลูกค้าของได้แก่ โรงพยาบาลสัตว์ หรือว่าคลินิก ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ ประมาณ 1,200-1,500 ราย มี Pet Shop Modern Trade และ E-Commerce แล้วส่วนสุดท้าย คือตลาดส่งออก
- ซึ่งทั้งหมดทั้งสิ้น เราจัดจําหน่ายเป็นช่องหลักของคือผ่านทีมงานสัตวแพทย์ประมาณ 60 ท่านที่จัดจําหน่ายตรงเข้าไปที่ลูกค้าของเรา โดยการที่ให้ความรู้ ให้ข้อมูลแล้วก็บริการหลังการขายทางด้านวิชาการ อันนี้คือ Value chain
- กลุ่มที่หนึ่งคือกลุ่มเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพสัตว์ได้แก่ วัคซีนแล้วยาปฏิชีวนะสําหรับสัตว์
- กลุ่มที่สองคือสารเสริมคุณค่าอาหารสําหรับสัตว์
- กลุ่มที่สาม คือเครื่องมือหรือว่าชุดตรวจที่ใช้ในการวินิจฉัยโรค ทั้งปศุสัตว์และสัตว์เลี้ยง
- ซึ่งทั้ง 3 กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ทําอัตรากําไรขั้นต้นได้สูง เราจะโฟกัสที่ 3 กลุ่มนี้
- ส่วนกลุ่มที่สี่ คือ อาหารเม็ดสําเร็จรูปสําหรับลูกค้าที่ต้องการที่จะเลี้ยงสัตว์เพียงอย่างเดียวไม่ต้องการผสมอาหารเอง ในขณะเดียวกันอ่ากลุ่มลูกค้าที่เป็นโรงงานอาหารสัตว์จะซื้อวัตถุดิบอาหารสัตว์จากเราไปผสมอาหาร
- นอกเหนือจากนั้นยังมีกลุ่มที่เป็นกลุ่มสินค้าอื่น ๆ ซึ่งเป็นสินค้าที่จัดจําหน่ายเพื่อสนับสนุนนโยบาย ESG ของบริษัทเพื่อธุรกิจที่ยั่งยืน
- ส่วนทางด้านขวาเป็นตัวอย่างของสินค้าที่จัดจําหน่ายอยู่
- จะมีกลุ่มปศุสัตว์มีครอบคลุมทั้ง 6 กลุ่ม ส่วนทางด้านขวาสีฟ้าจะเป็นกลุ่มสําหรับสัตว์เลี้ยง
- ซึ่งได้ทําตรงกลางทําเส้นประเอาไว้เพื่อจะแสดงให้เห็นว่า สินค้าที่เราผลิตภายใต้ แบรนด์ของเอง รวมถึงสินค้าที่ผลิตที่โรงงานเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากว่ามีอัตรากําไรขั้นต้นที่ดี
- ปัจจุบันมีครอบคลุมทั้ง 6 กลุ่มโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มของสัตว์เลี้ยง ตอนนี้มีทั้งในส่วนของแชมพู ครีมอาบน้ํา ชุดตรวจ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ สําหรับสัตว์เลี้ยง
- นอกจากนั้นตอนนี้มีเครื่องอัลตร้าซาวด์ มีเลเซอร์ สําหรับการรักษา มีเครื่องจับสัญญาณชีพสําหรับสัตว์เพิ่มขึ้นมาเป็นสินค้าใหม่
- เรื่องแรกคือเรื่องของผลประกอบการ เราทําผลประกอบการในส่วนของรายได้ที่ 603.9 ล้าน เติบโตมากกว่าไตรมาสสองปีที่แล้วถึง 6.3% ในขณะเดียวกัน Net Profit ของ ค่อนข้างทำได้ดีคือ 17.3 ล้าน เพิ่มขึ้น 54.6% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสสองปีที่แล้ว
- เรื่องที่สองคือการที่ยังคงสามารถขายลูกค้าที่เรียกว่า Integrated Feed Mill อย่างต่อเนื่อง คาดหวังว่ายังเติบโตกับ Integrated Feed Mill ได้เพิ่มขึ้นโดยการเพิ่มลิสต์ของสินค้า
- เรื่องที่สาม เราพยายามผลิตสินค้าภายใต้ Own Brand ซึ่งเป็นกลยุทธ์ของเรา งมีทั้งในส่วนของปศุสัตว์และมีทั้งส่วนของสัตว์เลี้ยง
- สุดท้ายคือการที่เราเปิดบริษัทใหม่ที่ชื่อว่า PADI ขณะเดียวกันสามารถขายสินค้าเพิ่มเติมเป็น Medical equipment ของสัตว์เลี้ยงเพิ่มเติมคือเครื่อง ultrasound และยังมีออเดอร์ที่รอส่งในไตรมาส 3
- บริษัทมีความมุ่งหวังในการเติบโตในส่วนของรายได้ไม่ต่ำกว่า 10-15% ค่าเฉลี่ยหลังจากนี้ไป คือตั้งแต่ปี 2024
- แผนตั้งแต่ปี 2024 ถึง 2027 มีความมุ่งมั่นในการที่จะพัฒนาสินค้าและบริการ จริง ๆ แล้วเราขายสินค้าเกี่ยวกับ BioTech อยู่แล้วแต่อยากจะมี direction ของการขายสินค้าที่เป็น Non BioTech ไปสู่สินค้าที่เป็น BioTech และสินค้าและบริการที่มีมูลค่าสูง
- ปี 2024 เรามุ่งมั่นที่จะสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ งไม่ว่าจะเป็นการปรับพื้นฐานของลูกค้าเพิ่มสัดส่วนในการขายกับลูกค้าปศุสัตว์ครบวงจรให้มากขึ้น ปรับพอร์ตสินค้าที่มีกําไรสูง เช่น สินค้าที่ผลิตภายใต้แบรนด์ของเราเอง หรือสินค้า 3 กลุ่มหลักหลักที่สร้างกําไรให้กับเรา แล้วยังขยายในส่วนของตลาดของสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้น อันนี้เป็นการสร้างพื้นฐานในปี 2024
- ปี 2025 ยังมุ่งหวังในการเติบโตในส่วนของสัตว์เลี้ยงให้มากขึ้น และอยากจะรับรู้รายได้ที่ได้จากตลาดของอาเซียน ซึ่งตอนนี้ขยายไปแล้วทั้ง 3 ประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเวียดนาม กัมพูชา เมียนมา ทั้ง 3 ประเทศ
- ปี 2027 ที่วางแผนไว้ ตั้งใจจะเป็นผู้นําทั้งสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับไบโอเทคแล้วครอบคลุมในส่วนของ Ecosystem ทั้งหมดของปศุสัตว์และ สัตว์เลี้ยง รวมถึงอยากจะมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งที่เริ่มรับรู้รายได้จากภูมิภาคอาเซียน
- ทั้งนี้ทั้งนั้น การเติบโตประมาณ 10 - 15% ที่ตั้งใจไป เป็นสัดส่วนของปศุสัตว์ประมาณ 70% และสัตว์เลี้ยงประมาณ 30%
- เป็นกลยุทธ์ที่ตั้งใจที่จะทําหลังจากนี้ไป 4 ปี จะมีการขับเคลื่อนผ่านใบพัดทั้ง 4 ที่สร้างกําไรและรายได้ให้กับเราในขณะที่มีแกนกลางอยู่ตรงกลางคือในเรื่องของ Operation
- ข้อหนึ่งคือเรื่องของผลิตและจัดจําหน่ายสินค้าภายใต้ Own Brand ของเรา ปัจจุบันตัวเลขสินค้าภายใต้แบรนด์ตอนนี้ ไม่ถึง 20% เราตั้งใจว่าจะขายเพิ่มไปถึงปี 2027 ไม่น้อยกว่า 30% ทั้งนี้ทั้งนั้น สินค้าภายใต้ Own Brand จะสร้างกําไรที่เห็นในส่วนของ GP เพิ่มขึ้นประมาณสัก 5% เป็นตัวเลขกลม ๆที่เราเห็น ดังนั้นการที่อยากจะขยับในส่วนตรงนี้นอกจากจะเพิ่มยอดขายแล้วยังจะเพิ่มในเรื่องของเปอร์เซ็นต์ GP ด้วยถ้ และยังเป็นการลดความเสี่ยงของการที่จะถูกถอนจากซัพพลายเออร์ เพิ่มความยั่งยืนให้กับบริษัท
- ส่วนที่สองคือการการขยายในส่วนของตลาดสัตว์เลี้ยง ตลาดสัตว์เลี้ยงมีการเติบโตต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 10% ทุกปี เราจะเพิ่มในส่วนของสินค้าและช่องทางการจัดจําหน่ายในตลาดสัตว์เลี้ยง
- ส่วนที่สาม เราพบว่าการขายสินค้านอกประเทศ มีสัดส่วนแค่ 6% เท่านั้นเองดังนั้นตรงนี้มีรูมพอสมควรที่จะเติบโต ทั้งในทั้งนี้ทั้งนั้นอาเซียนเป็นตลาดที่ใหญ่มาก เราตั้งใจที่จะขยายไปในส่วนของตลาดภูมิภาคอาเซียน ไม่ว่าจะเป็นเวียดนาม เมียนมา กัมพูชา รวมถึงอินโดนีเซียด้วย
- ส่วนที่สี่ เพื่อตอบโจทย์ความยั่งยืน เป็นแผนที่มีการวางงบที่จะเพิ่มแล้วทําในส่วนของBiotech ให้มากขึ้น
- แล้วในส่วนของส่วนสุดท้ายไม่ละทิ้งในส่วนของสินค้าที่ตอบโจทย์ ESG ให้กับลูกค้าหรือลูกค้าของ
- ส่วนแกนกลางด้านล่าง คือการทําให้ Operation ของเรามีประสิทธิภาพสูงสุด และเป็นแกนกลางที่ขับเคลื่อน 4 ใบพัดนี้ให้หมุนไป
- กลยุทธ์ที่หนึ่งตั้งใจจะเติบโต แน่นอนนะว่าสัดส่วนจะเติบโตจากปศุสัตว์ถึง 70% ในส่วนของปศุสัตว์อยากจะเรียนนักลงทุนว่าจริง ๆ แล้ว เราเชื่อว่ายังมีโอกาสและการเติบโตที่ไปได้อย่างสม่ำเสมอ สาเหตุเป็นเพราะว่าปศุสัตว์คืออาหารของคนไม่ว่าวิกฤตเศรษฐกิจจะเกิดขึ้น หรือสงครามจะเกิดขึ้น ยังไงต้องต้องมีอาหารการกิน
- เราเป็นปัจจัยการผลิตที่สําคัญในห่วงโซ่ของการผลิตปศุสัตว์ ดังนั้น เชื่อว่าการเติบโตในบริษัทยังคงมีอย่างต่อเนื่อง
- ทั้งนี้ทั้งนั้น มี 3 ส่วนที่จะทํา ส่วนแรกคือปรับพอร์ตสินค้าที่มีกําไร มี %GP สูงกว่า 20% อันนี้จะปรับพอร์ตเพิ่มขึ้นส่วนที่สองผลิตสินค้าภายใต้ Own Brand ของเราเอง ส่วนที่สามคือการขยับขยายเข้าสู่ตลาด Integrated Feed Mill เนื่องจากว่าลูกค้าขนาดเล็กมีประชากรที่ลดลงเรื่อยเรื่อย ขณะที่ลูกค้ายังขนาดใหญ่เติบโตเพิ่มขึ้นจริงจริงลูกค้าทุกขนาดมีความสําคัญกับบริษัททั้งหมดให้ความสําคัญไม่แตกต่างเพียง แต่วันนี้เลือกในส่วนของความอยู่รอดและความยั่งยืน จําเป็นต้องขยายตลาดที่เรียกว่าปศุสัตว์ครบวงจร เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในอนาคต เพราะว่าเป็นเทรนด์ในอนาคตด้วย บริษัทครบวงจรเค้าขยายไปที่ต่างประเทศ CLMV เราจะไเ้สามารถขยายตลาดไปพร้อมพร้อมกับเขาได้ด้วย
- เราแบ่งการผลิตสินค้าภายใต้ Own Brand เป็น 3 ส่วน ส่วนที่หนึ่งคือขายสินค้า Own Brand ของเราเอง ส่วนที่สองจะเป็น Own Factory ผลิตจากโรงงานของเลย ซึ่งปัจจุบันโรงงานของได้มาตรฐาน FAMI Qs ซึ่งเปิดกว้างในการที่จะผลิตสินค้าไม่ว่าจะเป็นสารเสริมหลายตัววิตามิน แร่ธาตุ เราสามารถผลิตแล้วส่งในตลาด เป็นสารเสริมสําหรับไก่เนื้อเพื่อการส่งออกไปยุโรปได้ อันนี้จะเป็นช่องทางที่สามารถเปิดกว้างขึ้นในส่วนสุดท้ายอยากจะพัฒนาสู่ความยั่งยืนโดยการทํ R&D ของเราเอง เพื่อตอบโจทย์ความยั่งยืน ทั้งนี้ทั้งนั้น นอกจากการสร้างกําไรที่เพิ่มขึ้น ยังลดความเสี่ยงจากการถูกถอนจากซัพพลายเออร์ แล้วทําให้โรงงานของเรามีแคปที่เต็มด้วย
- การเพิ่มสินค้า ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้า Own Brand ขณะเดียว เดียวกันเพิ่มช่องทางการจัดจําหน่ายจากการจัดจําหน่ายจากเดิมเป็น B2B เราเพิ่ม B2C และ Online มากขึ้น สาเหตุที่เพิ่มในส่วนของการขายออนไลน์มากขึ้น เพราะ Onine มีการเติบโตที่รวดเร็วนับเป็นทิศทางที่โตขึ้นเรื่อย ๆ มากกว่า Offline เป็นทิศทางในอนาคต
- ออกแบบโดยสัตวแพทย์ มีความเข้าใจของการที่จะต้องดูแลสุขภาพสัตว์อย่างไร ดังนั้น เราจึงสร้าง Platform นี้ขึ้นมา เป็นจุดแข็งของคือเป็นทีมสัตวแพทย์ที่ดีไซน์ Platform เอง
- ส่วนที่สองเชื่อว่าวันนี้ยังมีคนทํา Platform นี้ได้ไม่สมบูรณ์เท่าเรา แล้วเราน่าจะทําได้ดี คือการรวมพาร์ทเนอร์ซึ่งจะทําให้ Ecosystem ของแพลตฟอร์มสมบูรณ์ไม่มีใครรวมพาร์ตเนอร์ได้มากเท่ากับที่เราทําอยู่
- พาร์ทเนอร์ มี Pet Shop เกือบ 10 แบรนด์ เชนของโรงพยาบาลสัตว์เลี้ยงซึ่งเชื่อว่าเชนของโรงพยาบาลเหล่านี้เพียงแค่ 5-6 เจ้าครอบคลุมมากกว่าครึ่งนึงของกรุงเทพมหานคร มีสายพันธุ์ชั้นนํา 5-10 สายพันธุ์ที่เข้ามาในแพลตฟอร์มของเรา Pet Friendly Condominiums ตอนนี้กําลังคุยกันในส่วนตรงนี้ น่าจะมีความคืบหน้าในเร็ววันนี้ รับรู้รายได้จากค่าบริการในการแนะนําการทําประกันสัตว์เลี้ยงกับพาร์ทเนอร์คือ TQM ทั้ง 3 ส่วนเป็นที่มาของการที่เปิดแพลตฟอร์มที่ชื่อว่า PEDI เชื่อว่ามีจุดแข็งที่เหนือกว่า อยากให้ติดตามแล้วลองเข้าไปเปิดดูสําหรับผู้ที่มีมีการเลี้ยงสัตว์
- ปัจจุบันเราขายอยู่แค่ประมาณไม่เกิน 6% ดังนั้นเชื่อว่า CLMV ทั้งประชากรของคน ทั้งประชากรสัตว์ที่จะต้องเติบโตไปพร้อมพร้อมกัน ยังมีโอกาสอีกมาก
- เมียนมา ดูเหมือนอาจจะมีความเสี่ยงบ้าง แต่มีคู่แข่งที่น้อย ในวิกฤตจะมีโอกาส เรามีชายแดนที่ติดกับเมียนมาค่อนข้างยาว ซึ่งเป็นโอกาสของส่วนของ
- เวียดนาม ตอนนี้ประชากรของหมูของเวียดนามถือว่าเยอะมากเยอะกว่าบ้านประมาณ 2- 3 เท่าตัว ในขณะที่มีพาร์ตเนอร์ที่แข็งแกร่ง White Ocean มีโอกาสที่จะนําสินค้าภายใต้ Own Brand ของส่งไปให้
- กัมพูชา เลี้ยงสุกร แล้วบริษัทบริษัทครบวงจรหลายบริษัทขยายไปเลี้ยงสุกรที่นั้น ดังนั้นสามารถตามไปขายที่กัมพูชาได้
- ผลประกอบการในภาพรวมของ 6 เดือนที่ผ่านมา รายได้เพิ่มขึ้น 6.68% กําไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 15.89% EBITDA เพิ่มขึ้น 56.77% กําไรสุทธิ เพิ่มขึ้นประมาณ 71.25%
- หมวดสินค้าที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างเยอะคือ หมวด Nutrition ต่อมาคือหมวดชุดเครื่องตรวจ แล้วก็หมวดอาหารเม็ด สินค้า ESG ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
- Gross Profit Margin มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 14.72%
- Net Profit Margin เลยเพิ่มขึ้นตามเป็น 2.64%
- ROA ROE เพิ่มขึ้นเช่นกัน
- จะเห็นว่าหมวดที่เพิ่มขึ้นเยอะที่สุดคือหมวด Nutrition มีจากปัจจัยสนับสนุนสอง สาเหตุหลัก ๆ ปัจจัยแรกคือในเรื่องของสินค้า Own Brand ของบริษัทมีการพัฒนาและโฟกัสงานอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นในตัวโรงงาน และตัวที่เป็นOEM ปัจจัยที่สองมีการขาย ในการประมูล Integrated Feed Mill รายใหญ่ได้ ตัวนี้เป็น Volume ที่ค่อนข้างมาก เป็นปัจจัยสนับสนุนและทําให้รายได้ในเพิ่มขึ้น
- อีกหมวดที่เพิ่มขึ้นเยอะตามมาคือในหมวดอาหารเม็ดจะเห็นว่าเพิ่มขึ้นสาเหตุมาจากมีการว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญในการปรับปรุงสูตรอาหารของเรา เพื่อเจาะตลาดในลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นของลูกค้าสุกร ลูกค้าไก่ไข่ ไก่เนื้อ ทําให้ตัวรายได้เพิ่มมากขึ้นรวมถึงอัตรากําไรแล้วดีขึ้นด้วยเช่นกัน
- ในหมวดที่ 3 คือหมวด Service จะเห็นว่าในในปีนี้จะมีหมวดใหม่เพิ่มขึ้นคือหมวด Service ประกอบด้วยสองส่วน คือส่วนปศุสัตว์ มีการให้บริการที่ต่างประเทศคือประเทศพม่า เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการขายสินค้าการให้บริการทางการแพทย์ ส่วนที่สองสัตว์เลี้ยง คือจัดตั้งมาเพื่อรองรับในตัวของ PEDI
- อัตรากําไรขั้นต้น เพิ่มขึ้นจาก 13.55% ในครึ่งปีที่แล้ว มาเป็น 14.72% โดยสาเหตุหลักคือเพิ่มขึ้นจากหมวดสินค้าที่สอดคล้องกับรายได้ ไม่ว่าจะเป็น Nutrition Complete Feed และ Service
- ต้องบอกว่าไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสําคัญ มีการเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นรายได้ที่เพิ่มขึ้น ในภาพรวมถือว่ามีการควบคุมค่าใช้จ่ายได้ค่อนข้างดี เพราะเทียบเป็นสัดส่วนต่อรายได้จะลดลง
- ในภาพรวม 6 เดือนเพิ่มขึ้นประมาณ 71.25% YoY แล NPM เพิ่มขึ้นจาก 1.64% เป็น 2.64% ผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้และตัวกําไรขั้นต้นน แล้วภาพรวมมีการควบคุมค่าใช้จ่ายดีเลยส่งผลให้กําไรสุทธิเพิ่มขึ้น
- สินทรัพย์ ลูกหนี้การค้าไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสําคัญ ตัวที่มีการเปลี่ยนแปลงหน่อยคือสินค้าคงเหลือ เนื่องจากว่ามีการบริหารจัดการสต๊อกได้ดียิ่งขึ้นมีการควบคุมการสั่งสินค้า ซึ่งเป็นผลให้มีสินค้าที่ลดลงอะ ซึ่งส่งผลให้ในส่วนของกราฟด้านขวาอย่างเจ้าหนี้การค้าจะลดลงด้วยเช่นกัน แต่ว่าไม่ได้การลดตัวของสินค้าคงเหลือหรือเจ้าหนี้การค้าไม่ได้ส่งผลเสียต่อการทางบริษัทยิ่งส่งผลดีให้บริษัทมีการควบคุม Inventory Day ได้ดียิ่งขึ้น
- Current Ratio และ D/E Ratio บริษัทมีอัตราส่วนที่ค่อนข้างดี ทําให้บริษัทยังมีรูมในการกู้เงินหรือลงทุนต่าง ๆ อยู่ค่อนข้างมาก
- Cash Cycle อาจจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากในส่วนของลูกหนี้การค้าที่เพิ่มขึ้น และ Inventory ที่ลดลง
- ROE ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 8.34% จากตัวของกําไรสุทธิของบริษัทในภาพรวม 6 เดือนที่เพิ่มขึ้น ROA เพิ่มขึ้นเช่นกันเป็น 5.59%
- สําหรับแนวโน้ม ในครึ่งปีหลัง ตั้งแต่ปี 2024 จนถึง 2027 ทีมผู้บริหารมีความมุ่งมั่นที่จะทําในส่วนของรายได้ให้ได้ประมาณ 10 - 15% ในการเติบโต อันนี้เป็นความมุ่งมั่นที่อยากจะทํา ซึ่งในส่วนตรงนี้ยังรักษาในส่วนตรงนี้เอาไว้ ในขณะที่จะมีในส่วนของเหตุการณ์สําคัญ 3 ส่วน
- ส่วนแรกคือการออกตัว PADI ตั้งใจว่าจะทำให้เป็น Pet Wellness Platform ที่สมบูรณ์แบบทั้ง Ecosystemให้มากที่สุด วันนี้ก็มีพาร์ทเนอร์เข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ
- ส่วนที่สอง ในธุรกิจสัตว์เลี้ยงเพิ่มสินค้า Own Brand ของเราเองแล้ว ยังเพิ่มสินค้าในส่วนของงานทั้งงานบริการแล้วเกี่ยวกับ medical device เพิ่มเติมนอกจาก ultrasound มี project ที่กําลังศึกษาอย่าง พวก CT Scan แล้วมีอุปกรณ์เกี่ยวกับในส่วนของโรงพยบาลที่มากขึ้น
- ส่วนที่สาม ยังคงรักษาการเติบโตในส่วนของสินค้าที่เข้าลิสต์ใหม่ในลูกค้า Integrated Feed Mill ให้มากขึ้น
อาหารเม็ดสําเร็จรูปสําหรับสัตว์ที่ดีขึ้นจากการปรับสูตร จะเป็นแบบนี้ถาวรไหม หรือขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ ในครึ่งปีหลังด้วย
- ข้อนี้ต้องบอกว่าในตัวอาหารเม็ดสําเร็จรูปในช่วง 6 เดือนแรกเป็นตัวที่มีการปรับปรุงได้ดีขึ้นค่อนข้างเยอะในตัวของงบการเงิน เรียกว่าทางฝ่ายขายมีเจตนาและความตั้งใจที่ดีในการปรับปรุงตรงนี้ให้ดีขึ้นและอย่างแบบรักษาความสามารถในการแข่งขันตรงนี้ไว้ ะแต่อย่างไรตามมันจะมีปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจจะกระทบในหลายหลายด้านเนื่องจากว่าตัวสินค้าตัวนีเป็นสินค้าที่อาจจะมีการขายค่อนข้างสูงฉ ะนั้นในอนาคตอาจ มีการที่สูงมากยิ่งขึ้น อาจจะเป็นส่งผลต่อปัจจัยให้ในตัวของอัตรากําไรอาจจะปรับตัวเปลี่ยนแปลงได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ฝ่ายขายยังมีความตั้งใจในการพัฒนาสูตรใหม่ต่อเรื่อยเรื่อยเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันไว้และเจาะกลุ่มลูกค้าต่อไป
- ในส่วนของอาเซียนตอนนี้ที่ตั้งใจจะไปตลาดใหญ่อยู่ที่เวียดนาม เวียดนามมีประชากรเกือบร้อยล้านคน แล้วการบริโภคหมูเป็นหลักเลย ดังนั้น เข้าตลาดในส่วนของในส่วนของสุกรแน่ ๆ สินค้าและบริการที่ตั้งใจที่จะไปจะเป็นสินค้าown brandของโรงงานที่ผลิตแล้วจัดจําหน่ายไปที่นั้น ขณะที่กลยุทธ์ตอนนี้มีพาร์ทเนอร์ การเข้าสู่ตลาดที่เวียดนามจําเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมี Local วันนี้ได้เข้าไปถือหุ้น 15% ในบริษัทพาร์ตเนอร์ที่ชื่อว่า White Ocean Vet ซึ่งดําเนินธุรกิจคล้ายกับเรามาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ปีที่ มีความเชี่ยวชาญ อีกสองสองประเทศ กัมพูชา เนื่องจากว่ามีชายแดนที่ติดแล้วมีโอกาสที่จะส่งออกไป แล้วมีการส่งของข้ามผ่านทางชายแดน ส่วนเมียนมาในระยะยาวมีนโยบายที่อาจจะเปิดบริษัท
- สําหรับในส่วนของอินโดนีเซียมองว่าเป็นตลาดใหญ่เหมือนกันเพราะมีประชากรมากแต่อินโดนีเซียคงจะเน้นไปในส่วนของสัตว์เลี้ยงก่อน โดยเฉพาะในแมว
- ลูกค้าเหล่านี้เป็นผู้มีอุปลักษณ์คุณที่มีโอกาสเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ความเป็นครบวงจรเค้ามีความได้เปรียบในการที่จะขยายตัว วันนี้ เรามีการมีนโยบายในการขายกับเค้า 2-3 รูปแบบ แล้วคิดว่าจะดําเนินการไปอย่างต่อเนื่อง แล้วเดินไปด้วยกัน ส่วนหนึ่งคือ Supply ของเข้ามาโดยการนําเข้าของที่เค้าต้องการโดยไม่ผ่านคนกลาง ดูเหมือนการขายรูปแบบนี้เปอร์เซ็นต์กําไรอาจจะไม่มากแต่ค่าใช้จ่ายค่อนข้างต่ำเพราะเป็นการประมูลขาย
- ส่วนที่สองที่ตั้งใจจะทําเป็นการพัฒนา R&D ร่วมกัน ทั้งในประเทศและต่างประเทศเลย เพราะว่าส่วนหนึ่งจุดแข็งของคือมีงานวิจัย มีการปรับตัวได้รวดเร็ว เล็งเห็นแล้วว่าสินค้าประเภทไหนที่ Integrated Feed Mill มีความต้องการในอนาคตแล้วไปวิจัยและพัฒนาไว้ก่อนล่วงหน้า ดังนั้นจะเห็นได้ว่าเริ่มจะมีสินค้ากลุ่มที่เรียกว่า ESG เข้ามาแล้วเชื่อว่าสินค้ากลุ่มเหล่านี้เป็นสินค้าในอนาคต
- มีการรับรู้รายได้เริ่มตั้งแต่ไตรมาส 3 เป็นต้นไป แต่อย่างไรตามในเรื่องของธุรกิจดีด้วยได้ทุกไตรมาส 3 อาจจะค่อยค่อยรับรู้รายได้ละกัน เพราะว่าในเรื่องของจํานวน User ในการใช้งานคาดว่าจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้น ช่วงนี้จะเป็นเน้นในเรื่องของการทํา MArketing ในการโปรโมตเพื่อ เพิ่มจํานวนผู้ใช้งานให้เข้ามาในระบบในระบบมากยิ่งขึ้น
- คงจะตอบ 100% ไม่ได้ว่ามันจะเป็นในรูปแบบไหน เพียงแต่ว่าโดยเทรนด์ของการขาย ตลาดจะมีการเติบโตอยู่แล้วโดยเฉพาะในครึ่งปีหลังส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าทําธุรกิจเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพสัตว์ช่วงฝนต่อหนาว มีในส่วนของการที่จะใช้เวชภัณฑ์ยาเพิ่มขึ้น ดังนั้นมีแนวโน้มว่าโดยทั่วไปยอดขายครึ่งปีแรกและครึ่งปีหลังจะเป็น 45% - 55%