Page 1 of 1
[ CPAXT ] บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน)
Posted: Sat Aug 19, 2023 1:49 pm
by thanonlongtun_p
ผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ปี 2566 หุ้น CPAXT
ที่มา: บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
Re: [ CPAXT ] บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน)
Posted: Tue Aug 22, 2023 5:10 pm
by thanonlongtun_p
Oppday Q2/2023 CPAXT บมจ. ซีพี แอ็กซ์ตร้า
VIDEO
ดาวน์โหลดเอกสารการบรรยาย
https://listed-company-presentation.set ... h/vdo/5907
Re: [ CPAXT ] บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน)
Posted: Thu Nov 16, 2023 3:53 pm
by thanonlongtun_p
Oppday Q3/2023 CPAXT บมจ. ซีพี แอ็กซ์ตร้า
VIDEO
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://listed-company-presentation.set ... h/vdo/6272
Re: [ CPAXT ] บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน)
Posted: Wed Dec 13, 2023 1:44 pm
by thanonlongtun_p
ผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2566 หุ้น CPAXT
ที่มา: Globlex Research
Re: [ CPAXT ] บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน)
Posted: Tue Feb 27, 2024 5:30 pm
by thanonlongtun_p
Oppday Year End 2023 CPAXT บมจ. ซีพี แอ็กซ์ตร้า
VIDEO
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://listed-company-presentation.set ... h/vdo/6395
Re: [ CPAXT ] บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน)
Posted: Sun Mar 03, 2024 1:48 pm
by thanonlongtun_p
CPAXT-01.jpg (313.94 KiB) Viewed 905 times
CPAXT-01.jpg (313.94 KiB) Viewed 905 times
สรุปคลิป Oppday year-end 2023 CPAXT บมจ. ซีพี แอ็กซ์ตร้า
Financial Highlights 4Q23
รายได้รวม 128,613 ล้านบาท +4% YoY -> จากการปรับตัวได้ดีของธุรกิจค้าปลีก
ยอดขาย Omni Channel 1.8 หมื่นล้าน +38% YoY
อาหารสด +6% -> มาจากการเติบโตของธุรกิจค้าปลีก จากการผนึกกำลังกับ Makro ทำให้สัดส่วนยอดขายอาหารสดขึ้นมาเป็น 26%
รายได้ค่าเช่า GP เติบโตกว่า 40 bps.
ค่าใช้จ่าย SG&A ยังบริหารจัดการได้ดี
กำไรสุทธิ 3,282 ล้านบาท +33% YoY
SSSG
Q4/23 GDP ในประเทศ 1.7%
การเติบโตของธุรกิจค้าส่งอยู่ที่ 1.7% เช่นกัน
การเติบโตของธุรกิจค้าปลีกอยู่ที่ 5.5% -> ในประเทศไทย โต 5.8% และ มาเลเซียโต 3.6%
Financial Highlights 2023
ยอดขายรวม 466,234 ล้านบาท +4% YoY -> อาหารสด +6% YoY สัดส่วนปรับขึ้นมาเป็น 34% หนุนจากธุรกิจค้าปลีกที่เติบโตได้ดีในไตรมาส 4 / OCS ยังเติบโตดีต่อเนื่อง +30% YoY หลัก ๆ มาจากการเติบโตจาก Platform ที่เติบโตดีมาก / ธุรกิจค้าส่ง ยอดขายโต 7.2% ยอดขายในร้านเติบโต 2.4% นอกร้านเติบโต 4.6%
รายได้ค่าเช่า Mall 14,303 +6% YoY หลัก ๆมาจากอัตราค่าเช่าที่ดี และ Occupancy Rate แข็งแกร่งเกือบ 94%
รายได้อื่น ๆ 9,412 ล้านบาท +11% YoY จากการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายและกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน
กำไรสุทธิ 8,640 ล้านบาท +12% YoY
ทั้งปีมีการเปิดตัวสาขารูปแบบใหม่ ‘Hybrid’ ผนึกกำลังความแข็งแกร่งของ 2 กลุ่มธุรกิจเพื่อใช้ประโยชน์ทรัพย์สินที่มีอยู่เดิมให้เกิดประโยชน์สูงสุด
2023 Reflection
ยกระดับอุตสาหกรรม มุ่งสู่การเป็นผู้นำเทคโนโลยีค้าปลีก ค้าส่ง -> จำนวนสาขา 2,690 สาขา 75 จังหวัดในประเทศ
อันดับหนึ่งด้านพื้นที่เช่า -> พื้นที่เช่ากว่า 1.2 ล้านตารางเมตร และมีอัตราการเช่าสูง 94% (เทียบกับอุตาหกรรมที่ 80% ปลาย ๆ)
Omni-Channel หรือการขายนอกร้าน สัดส่วน 15% ยอดขายรวม 6.1 หมื่นล้านบาท
แข็งแกร่งมากด้านอาหารสด ยอดการขายปีที่ผ่าน 1.6 แสนล้านบาท
ทำไม Omni Channel (OCS) เติบโตดี
Lotus Online เติบโตแข็งแกร่ง โดยเฉพาะในไตรมาส 4 -> เพิ่มการส่งสินค้า on demand จากร้าน
ค้าขนาดใหญ่ หรือ Hypermarket ทำให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า
Makro Pro เติบโตแข็งแกร่ง -> มี Demand จากกลุ่มร้านอาหาร เรามีการเพิ่มความหลากหลายของสินค้า ความสะดวกสบายในการชำระเงิน พัฒนา features ให้ตอบโจทย์ผู้ใช้
มีทีมนักขายไปจด order
ความแข็งแกร่งด้านการเงิน
IBD/Equity 0.33 เท่า ถือว่าต่ำ
Net IBD/Equity 0.22 เท่า อยู่ในระดับที่ดีมาก
มติการจ่ายปันผล
งวดสุดท้ายที่ 0.39 บาท กำหนด Record Date วันที่ 9 เม.ย. และจ่ายวันที่ 29 เม.ย.
การขยายสาขา -> เปิดสาขาใหม่ทั้งหมด +63 สาขา
เปิดสาขาธุรกิจค้าส่ง +10 สาขา
เปิดสาขาธุรกิจค้าปลีก +53 สาขา (รวมในมาเลเซียด้วย)
กลยุทธ์การเปิดสาขาปี 2024
กลุ่มธุรกิจค้าส่ง เปิด 6-8 สาขาในไทย และอีก 1 สาขา ในต่างประเทศ
กลุ่มธุรกิจค้าปลีก เปิดสาขาขนาดใหญ่ในไทย 2 สาขา / Super Market 8-10 สาขา ในไทยและมาเลเซีย / Mini stores 100+ สาขา โฟกัสการขยายระดับอำเภอ
การพัฒนาพื้นที่เช่า (Mall Development) และเป้าหมายปี 2024
ปี 2023 -> ปรับโฉมกว่า 60 สาขา ปรับพื้นที่เช่า 20 สาขา เพิ่มร้านค้าอาหารกว่า 1,000 ร้านค้า เปิด Lotus’s Eatery ที่มีความพรีเมียมขึ้น
ปี 2024 -> Localization ทำเข้าใจว่าแต่ละท้องถิ่นต้องการอะไร / อยากเป็น Food Destination เอา chain ร้านค้าชื่อดังไปเปิดต่างจังหวัด และจะสนับสนุนร้าน SME ในพื้นที่ มาเปิดสาขาใน Lotus ให้มีโอากสเติบโต / ตั้งเป้าเปิดLotus’s Eateryอีก 10 สาขา / ขยายพื้นที่เช่าอีก 35,000 ตารางเมตร และมีเป้าหมายอยากเห็นปริมาณพื้นที่เช่าในอีก 5 ปี เป็น 200,000 ตารางเมตร
การปรับโครงสร้าง และ ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
เพิ่มศักยภาพการแข่งขันทั้งในประเทศและในระดับภูมิภาค เพิ่มความหลากหลายสินค้าและบริการในราคาคุ้มค่าฃ ใช้เทคโนโลยีวิเคราะห์เชิงลึกเพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้า
เพิ่มประสิทธิภาพและการคล่องตัวการดำเนินงานของกลุ่มบริษัท
สร้างมูลค่าเพิ่มจากการผนึกกำลังทั้งในด้านสินค้า บริการ กิจกรรมทางการตลาด
เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทางการเงิน การวางแผนการลงทุน จัดหาเงิน
สนับสนุนเกษตรท้องถิ่น ผู้ผลิตรายย่อย ธุรกิจขนาดกลางขนาดย่อม โดยมุ่งมั่นเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ
Q&A
การเติบโตธุรกิจค้าปลีกและค้าส่ง ปี 2024
ค้าส่ง YTD ยังเติบโตได้ดี mid single digit growth
ค้าปลีก ภาพ Q1 ยังรักษาการเติบโตต่อเนื่องจาก Q4 mid single digit growth เช่นกัน ขับเคลื่อนโดยอาหารสดและการส่งของนอกร้าน
กลยุทธ์การแข่งขัน ของ Lotus’s go fresh
การแข่งขัน แบ่งเป็นระดับ Corporate และ Local Store
ระดับ Local เราอาจมีการปรับราคาสินค้าให้สู้ได้ในระดับท้องถิ่น
ตัวขับเคลื่อนสำคัญ Lotus’s go fresh คืออาหารสด ที่ผ่านมาโต double digit มาตลอด เป็นตัวดึงลูกค้าเข้ามาในร้าน ด้วยคุณภาพสินค้า ที่ผ่านมาได้รับการตอบรับดี
บางท้องถิ่น คู่แข่งบางเจ้าอาจได้เปรียบ เช่น มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ช่วงต้นเดือนได้รับผลกระทบ แต่ภาพรวมยังแข่งขันได้
ในเกาหลีมีการซื้อ grocery ผ่านออนไลน์ 15-20% ในประเทศไทยอยู่ 5-10% จะเยอะขึ้นไหม และจะกระทบเราไหม
ที่เกาหลีมีการแข่งขันราคาสูง ทำราคาถูกกว่าห้าง ยอดจึงโต
ในไทย เราเป็นห้างค้าส่ง พอมาทำออนไลน์ สิ่งที่เราดีกว่าค่ายอื่นคือเราส่งของภายในวันรุ่งขึ้น
ออนไลน์ ออฟไลน์ ช่องทางไหน NP ดีกว่า ต่างกันประมาณเท่าไหร่
ค้าส่ง ออฟไลน์เกิดมานานแล้ว ต้นทุนเสื่อมราคาอาคารเริ่มน้อยลง เมื่อ fix cost น้อยลง NP สูงกว่า ออนไลน์มาใหม่ จะมีเรื่องการลงทุนใน platform การส่งของนอกร้าน ทำให้ NP ต่ำกว่า ต่างกันประมาณ 1%
ส่วนฝั่งค้าปลีก ไม่ต่างกัน เพราะ net work กว้างมาก ต้นทุนขนส่งค่อนข้างต่ำมากเทียบกับคู่แข่ง
การรวม Lotus มีผลกระทบเชิงลบงบการเงินอย่างไรบ้าง
GP อาหารสด อาหารแห้ง แผนปรับ product mixed
สินค้าอาหารสด มีกำไรมากกว่าอาหารแห้ง
Product mixed ของทั้ง CPAXT อาหารสดตั้งเป้ามีสัดส่วน 40% ปัจจุบันค้าส่งถึงแล้ว ค้าปลีกยังไม่ถึง
แนวโน้มต้นทุนการเงิน
หลัก ๆ เงินกู้เราเป็นเงินกู้ระยะยาว ในรูปแบบ bond
แนวโน้มจะใช้คืนเงิน
จำนวนเงินบาท ดอกเบี้ยมีเทรนด์ลดลง
Makro สาขาต่างประเทศขาดทุนไหม
2 ประเทศเพื่อนบ้านกำลังจะ break even แล้ว คือ กัมพูชา เมียนมา ทำยอดได้ดี
อินเดีย รูปแบบการขายของเราเรื่องการขายอาหารสด กฎหมายคือต้องมีชาวอินเดียเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เรากำลังศึกษาอยู่เรื่องการร่วมทุนกับนักลงทุนท้องถิ่น
ผลขาดทุนในจีน
แผนการใช้เทคโนโลยีชำระเงิน RFID ให้ระบบการชำระเงินเร็วขึ้น และลด cost การจ้างงาน
เรากำลังศึกษาอยู่ เพราะนโยบายหลักต้องเอาเรื่อง Automation มาใช้ให้มากที่สุด
การชำระเงินของ Makro ยังเป็น Pain Point ที่เราต้องแก้ไข
สัดส่วน Private Label ของ Makro และ Lotus
อีก 5 ปี คาดมีสัดส่วนยอดขายจาก Private Label ทั้งหมด 25%
การควบรวมบริษัทเข้ามา ทำให้ภาระต้นทุนทางการเงินดีขึ้นกี่% และ D/E เท่าไหร่
งบใหญ่ขึ้น และ ภาระต้นทุนทางการเงินลดลง เหลือ D/E 0.22
แผนการใช้เงินสด
เรามีแผนลดเงินกู้รายไตรมาส แต่ต้องดูสถานากรณ์
กระแสเงินสดเหลือ ถ้าไปลงทุนแล้วไม่ได้ผลตอบแทนดีกว่าการจ่ายดอกเบี้ย ก็จะเอาไปจ่ายดอกเบี้ย เอามาจ่ายคืนเงินกู้
กลยุทธ์เติบโตในมาเลเซีย
ตลาดมาเลเซียมีอนาคต ผู้บริโภคนิยมบริโภคสินค้าคล้าย ๆ บ้านเรา
ยอดปีนี้เติบโตขึ้นอย่างมีนัยยะสคัญ
นอกจากนี้ income per capita มาเลเซีย มากกว่าไทยเกือบหนึ่งเท่า
มองว่าเราน่าจะสร้างการเติบโตได้ดี
เทรนด์การเติบโตรายได้ makro / lotus มีช่วง low season ไหม
ฤดูฝน Q3 ไม่มีเทศกาล มักเป็น low season
การดูกำไรสุทธิ ค้าปลีกและค้าส่ง
ค้าปลีก เราขายให้ End user ทำให้ Margin ดีกว่าค้าส่งประมาณ 10%
ที่มา: https://www.youtube.com/watch?v=-mBGt_ORLZ8
Re: [ CPAXT ] บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน)
Posted: Tue May 21, 2024 8:47 pm
by thanonlongtun_p
Oppday Q1/2024 CPAXT บมจ. ซีพี แอ็กซ์ตร้า
VIDEO
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://listed-company-presentation.set ... h/vdo/6480
Re: [ CPAXT ] บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน)
Posted: Fri Aug 16, 2024 10:09 pm
by thanonlongtun_p
Oppday Q2/2024 CPAXT บมจ. ซีพี แอ็กซ์ตร้า
VIDEO
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://www.set.or.th/th/market/product ... y-snapshot
Re: [ CPAXT ] บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน)
Posted: Fri Aug 30, 2024 4:41 pm
by thanonlongtun_p
20240830 CPAXT-01.jpg (302.18 KiB) Viewed 135 times
20240830 CPAXT-01.jpg (302.18 KiB) Viewed 135 times
สรุปคลิป Oppday Q2/2024 CPAXT บมจ. ซีพี แอ็กซ์ตร้า
Key Highlights & Performance Analysis
ในครึ่งปีแรก ยอดขายจากสาขาเดิมของกรุ๊ปCPAXTเติบโตถึง4%ค่อนข้างจะเติบโตดีกว่าอุตสาหกรรม
Omni Channe lหรือ การขายนอกร้านปิดตัวเลขครึ่งปีแรกที่ 41,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 17% ของยอดขาย โดยหลัก ๆ มาจากกลยุทธ์การทํา Multifulfilment คือลูกค้าสามารถเลือกได้ จะส่งวันนี้ส่งพรุ่งนี้ ในขณะที่เราเพิ่มประสิทธิผลของทีมงานนักขายนอกร้านของเรา
การบริหารพื้นที่เช่า ปัจจุบันมีพื้นที่เช่าประมาณ 1.2 ล้านตารางเมตร ทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศ โดยรวมอัตราการเช่าพื้นที่อยู่ที่ 93% ซึ่งถือว่าเป็นอัตราส่วนที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง
ฐานะทางการเงินเ รายได้รวมถึงกําไรเติบโตอย่างต่อเนื่องใ นขณะที่g Gearing Ratio ต่ำกว่า loan covenant
ผลการดําเนินงานในไตรมาสที่สอง
รายได้รวมปิดที่ 127,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 4% หลัก ๆ มาจากยอดขายที่เติบโตถึง 4.7% จากยอดขายจากสาขาเดิม หรือ SSSG ในขณะที่กลุ่มธุรกิจทุกทุกกลุ่มธุรกิจไม่ว่าจะในประเทศไทย และในต่างประเทศเติบโตต่อเนื่อง
ยอดขายOmni Channelในไตรมาสสองเติบโตถึง45% หรือคิดเป็น21,000 ล้านบาทแล้วมีสัดส่วนขึ้นเป็น 17.2%
ไลน์สินค้า อาหารสินค้าอุปโภคและบริโภคเติบโตได้ดีในไตรมาสสอง ใกล้เคียงกันเกือบ 6% หลัก ๆ มาจากการผนึกกําลังของสองกลุ่มธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นMAKROที่มีความสามารถทางด้านอาหารสด แล้วส่งต่อเลเวอเรจความสามารถไปให้กลุ่มธุรกิจค้าปลีก Lotus's อีกทางหนึ่งเรามีสินค้าที่แตกต่างจากคู่แข่ง ส่งผลทําให้กําไรขั้นต้นเติบโตถึง 9.5% ทําให้อัตรากําไรขั้นต้น หรือ GP Margin ปิดที่ 14.1% หรือเพิ่มขึ้น 60 bps หลัก ๆ มาจากอาหารสด และอีกส่วนหนึ่งมาจากสินค้าที่มีมาร์จิ้นหรืออัตรากําไรขั้นต้นที่สูง
พื้นที่เช่า รายได้จากพื้นที่เช่ายังเติบโตเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขึ้นที่ 2.6% หลัก ๆ มาจากอัตราการเช่าที่ค่อนข้างแข็งแกร่งที่ 93% แล้วมีพื้นที่เช่าที่เพิ่มขึ้นจากการทําการพัฒนาพื้นที่เช่าเรียกว่า mall improvement & extension ในสาขา ขนาดเล็ก
EBITDAเติบโตถึง 6.9% หลัก ๆ มาจากผลการดําเนินงานของกลุ่มธุรกิจค้าปลีกทั้งในประเทศไทยและมาเลเซีย
ส่งผลทําให้กําไรสุทธิปิดที่ 2,176 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 43.5% หลัก ๆ มาจากยอดขาย กําไรขั้นต้นที่เติบโต รวมถึงการบริหารจัดการเรื่องต้นทุนค่าใช้จ่าย เรื่องเกี่ยวกับดอกเบี้ยได้ดี
ยอดขาย SSSG ของกลุ่มธุรกิจค้าส่งอยู่ประมาณ 1.8% ถือว่าเติบโตได้ดีกว่าเศรษฐกิจในประเทศ
ในขณะที่รีเทลคือกลุ่มค้าปลีกโดยรวมอยู่ที่ 3.5% ถ้าแยกเป็นประเทศที่ประเทศไทยเติบโตถึง 3.6% มาเลเซียเติบโตถึง 3.1%
ยอดขายนอกร้าน Omni Channel
เป็นเทรนด์ที่ผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ชอบการให้บริการส่งถึงที่ เราตั้งเป้าว่าเราอยากจะมียอดขายนอกร้านหรือ Omni Channel คิดเป็น17% ซึ่งไตรมาสสองเติบโตได้ 45% แล้วถึงเป้าที่มากกว่า 17% แล้ว
ถ้าครึ่งปีแรกเติบโตถึง 48% ปิดที่ 41,000 ล้านบาท
ถ้าแยกเป็นตัว Online Business ที่ Lotus Online แล้วรวมถึง Makro Pro เติบโตเป็นไปตามกลยุทธ์ที่เราวางไว้เกือบ 70%
ในขณะที่เราพยายามเพิ่มประสิทธิผลของทีมนักขาย หลัก ๆ เพื่อเน้นผู้ประกอบการ เติบโตได้ดีกว่า 37%
นำAIมาใช้ในการเพิ่มยอดขายนอกร้าน
หลัก ๆ เราแบ่งการทํา AI Analyticเป็น 3 ส่วน
ส่วนแรกเกี่ยวกับ การย้ายข้อมูลในระบบมาอยู่ในระบบCloudหรือการตั้งหน่วยงาน BIC เช่นเรา ระบบดูว่าสิทธิ์ลูกค้าคนนี้สั่งสินค้าอะไรเป็นประจํา เราป๊อปอัพสินค้าประเภทนี้ขึ้นมา เมื่อไหร่ที่มีโปรโมชั่นลูกค้าจะมาใช้จ่ายหรือซื้อสินค้ากับเรา หรือเราดูว่าลูกค้าเสิร์ชหาอะไร เราจะต้องดูว่าแสดงว่านี่เป็นสินค้าที่เป็นเริ่มมีความนิยมและลูกค้าต้องการ ก็พยายามจะหาโปรดักต์นี้มาตอบโจทย์ลูกค้า
ส่วนที่สอง เอาAIเข้าไปในพัฒนาเกี่ยวกับการพัฒนา เจาะจงโปรโมชั่นหรือเจาะจงสินค้าหาลูกค้าแต่ละรายเพิ่มขึ้น รวมถึง Backbone Supply Chain
ส่วนที่ 3 Fully Integrated ใช้ AI ในการดําเนินกิจการ
ยอดขาย CPAXT
ในครึ่งปีแรกยอดขายเติบโตได้ดีในภูมิภาคที่เป็นภูมิภาคท่องเที่ยว จะเป็นภาคใต้ภาคตะวันออกและกรุงเทพฯและปริมณฑล
จะเห็นว่าเติบโตได้ดี จากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่ทางรัฐบาลคาดการณ์ไว้ว่าจะมี 36 ล้านคน ตัวเลขครึ่งปีแรกออกมาเกือบจะ 50% แล้ว เราเชื่อว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวทั้งปีน่าจะเป็นไปตามที่รัฐบาลตั้งไว้
ในขณะเดียวกันยอดขายHoReCa คือ โรงแรม ร้านอาหาร รวมถึงผู้บริการจัดเลี้ยงอาหาร ปัจจุบันนี้ยอดขายของเรามากกว่าก่อนโควิดเป็นที่ระดับประมาณ 134% ถ้าเทียบกับพี่โควิดแล้วเติบโตประมาณ 9% YoY
Product Mix
กลุ่มธุรกิจค้าส่ง สัดส่วนไม่แตกต่างจากไตรมาสที่แล้วหรือปีที่แล้ว
แต่หากดูตัวเลขการเติบโตจะเห็นได้ว่า เติบโตได้ดีที่สินค้าอุปโภค รองมาเป็นอาหารสด
สําหรับPrivate Label ปัจจุบันนี้คิดเป็น 17% ของยอดขายในกลุ่มธุรกิจค้าส่ง
ก็เติบโตดีกว่าปีที่แล้วที่อยู่ที่ประมาณ 16% หลัก ๆ เติบโตจากอาหารสด ไม่ว่าจะเป็นไข่ อาหารแช่แข็ง น้ํามันปาล์มหรือว่าน้ํายาล้างจาน
สําหรับกลุ่มธุรกิจค้าปลีก สัดส่วน ค่อนข้างเติบโตได้ดีในอาหารสด ปัจจุบันนี้มีสัดส่วนประมาณ 26% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนที่ 25% แล้วปีก่อนที่ 25% เช่นเดียวกัน หลัก ๆ ถ้าดูแล้วเติบโตที่ High Single Digit Growth รองลงมาจะเติบโตที่สินค้าอุปโภค บริโภค คือDry Food
Private Label คิดเป็น 11% ของยอดขายของกลุ่มค้าปลีก เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ 10% หลัก ๆ มาจากอาหารสดเช่นเดียวกัน
ไตรมาสสอง เรามีการจัด บุฟเฟ่ต์ทุเรียนตามสาขาของLotus'sอันนี้เป็นส่วนหนึ่งที่เพิ่ม Private label ได้ รวมถึง ผลไม้ bekery ผัก ไข่
พิจารณาโดยรวม ของกลุ่ม CPAXT จะเห็นว่าPrivate Label ค่อนข้างเติบโตได้ดีถึง 10% ในขณะที่ Fresh Food ก็เป็นจุดเด่นของเรา แล้วเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของเราที่อยากจะผลักดันเรื่องการเติบโตยอดขายอาหารสด
ฐานะการเงินของบริษัท
ฐานะการเงินของบริษัทในไตรมาสสองปิดที่ 534,000 ล้านบาท หลัก ๆ ที่ลดลงจากสิ้นงวด มาจากเงินสดที่ลดลง เพื่อการขยายสาขาและการลงทุนในอนาคต
แต่สําหรับภาระหนี้ เพิ่มขึ้นจากสิ้นงวดประมาณ 8, 000 ล้านบาทหลัก ๆ เป็นเงินกู้ระยะสั้นเพื่อการบริหารเงินทุนหมุนเวียนหรือ Working cap
อย่างไรก็ตาม ภาระหนี้สินที่มีดอกเบี้ยต่อผู้ถือหุ้นยังอยู่ในระดับที่ต่ำ 0.35 ถ้าเทียบกับ loan covenant ของเราที่ 2.25 ถือว่า ยังดี ยังแข็งแรงอยู่
Net IBD/E อยู่ในระดับที่ 0.28 ค่อนข้างดี ต่ำกว่า covenant ที่ 2.5
สําหรับ breakdown by currency แยกเป็น เงินตราต่างประเทศ 84%จะเป็นไทยบาทแล้วประมาณ 16% จะเป็นมาเลเซียริงกิต เนื่องจากว่าเรามีโอเปอเรชันมีการดําเนินงานที่ Lotus's มาเลเซีย เราเลยมีการบริหารแล้วแมตช์กับรายได้กับค่าใช้จ่ายให้เป็นเรียกว่า local currency หรือ natural hedge
ส่วน Interest Rate Breakdown 84% เป็น fix 16% float
เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ที่ผ่านมาบอร์ดได้แจ้งอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลที่ 0.18 บาทต่อหุ้น ซึ่งจะมีการ XD วันที่ 22 สิงหา แล้วจ่ายเงินปันผลวันที่ 6 กันยายน
การปรับโครงสร้างหนี้ภายในกิจการของ CPAXT
ซึ่งเราเริ่มตั้งแต่ตั้งแต่วันวาเลนไทน์เราจัดประชุมผู้ถือหุ้นไปแล้วเมื่อวันที่ 29 มีนาคม
แล้วได้ดําเนินมาถึงจุดที่เมื่อวันที่ 8 สิงหาที่ผ่านมา เรามีการเรียกประชุม มีการเรียกประชุมระหว่างผู้ถือหุ้น ถือหุ้นคือ CPAXT กับผู้ถือหุ้นเอกชัย
โดยกระบวนการเพื่อทําการ amalgamation จะมีการระงับการขายหุ้น CPAXT ประมาณ 9 วัน หลังจากนั้นเราจะปิดสมุดทะเบียน ประมาณวันที่ 24 กันยายนเ พื่อโอนรายชื่อของผู้ถือหุ้นไปยัง บริษัทใหม่เรียกว่า new co แล้ว new co จะจดทะเบียนแล้วเสร็จในต้นไตรมาส 4 แล้วหุ้น CPAXT จะกลับเข้าไปลิสต์ใหม่ในต้นไตรมาส 4 เช่นเดียวกัน
Major Development -> ขยายสาขา
ปีนี้ในประเทศไทย สําหรับกลุ่มธุรกิจค้าส่ง เรามีแพลนที่จะเปิดทั้งหมด 8 สาขาปัจจุบันจนถึงเดือนสิงหาคม เราเปิดไปแล้ว 4 สาขา
สําหรับในต่างประเทศเรามีแพลนที่จะเปิด 2 สาขา ปัจจุบันเปิดไปแล้วหนึ่งสาขา แล้วจะมีไตรมาส 4 อีกหนึ่งสาขา
สําหรับกลุ่มธุรกิจค้าปลีกเราจะมีสาขาขนาดใหญ่ในภาคใต้ น่าจะเป็นจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้สักหนึ่ง
สําหรับซุปเปอร์มาร์เก็ตแพลนปีนี้ประมาณ 4 สาขาเราเปิดไปแล้วหนึ่งสาขาที่มาเลเซียจะเหลือ 3 สาขาที่อยู่ในประเทศไทย
สุดท้ายLotus's Go Fresh เป็นตัวหนึ่งที่เราแพลนที่จะเปิดอย่างต่อเนื่องในไตรมาสสองเราเปิดไปแล้ว 14 สาขา
Recapในไตรมาสสองเรามีเปิด Eco plus ที่อมตะนคร ซึ่งมีพื้นที่ขายประมาณ 4,200 ตารางเมตรในขณะเดียวกันเราเปิด Lotus's Go Fresh ประมาณ 14 สาขารวมพื้นที่ประมาณ 4,100 ตารางเมตร
เราพัฒนาของตัว Go Fresh เราอยากจะเป็นเหมือนนตู้เย็นที่ใกล้บ้านคุณ เพราะฉะนั้นหลักๆเรามองว่าเวลาคิดถึงCPAXTไม่ว่าจะเป็นMAKRO Lotus's นึกถึงอาหารและอาหารสด
ประมาณ 35% จะเป็น fresh food อาหารสด โดยเฉลี่ยยอดขายต่อวันของ Go Fresh อยู่ประมาณ 80,000 บาท
แต่ว่าด้วยโมเดลใหม่ที่เราจะเปิดไซส์ขนาด 300 ตารางเมตรเพิ่มมีที่จอดรถแล้วมีคีออสเล็ก ๆ ทําให้ยอดขายต่อวันเพิ่มขึ้นเป็น 100,000 บาทต่อวันได้เลย
แล้วทุกสาขาที่เป็นGo Freshเราเปิด on-demand delivery แปลว่า สามารถเปิดแอพพลิเคชั่น แล้วกดสั่งสินค้าแล้วเราส่งสินค้าภายในหนึ่งชั่วโมงจาก Go Fresh
80%ของสาขาเรา cover พื้นที่ที่ได้รับ Digital Wallet
มีการปรับปรุงปรับโฉมสาขาไม่ว่าจะเป็น MAKRO และ Lotus's
MAKRO เราจะเพิ่มอาหารพร้อมทาน ไก่อบ ซูชิ แล้วมี high margin product คือเป็นเนื้อเพิ่มขึ้นมา หรือเบเกอรี่ที่เป็นown brandอันนี้พื่อตอบโจทย์กลยุทธ์ของเราที่เราแพลนไว้อยู่แล้ว
Lotus's เราเริ่มมุ่งเน้นที่อาหารสดแล้วมีโซนเซคชั่นอาหารสดอยู่ด้านหน้า เราโฟกัสที่ตัว Health&Beauty ในขณะเดียวกัน หลาย ๆ สาขาของเรา ตั้งอยู่ในเมืองท่องเที่ยวเราเริ่มเพิ่มโซนสําหรับนักท่องที่จะสามารถมาซื้อของฝาก ขนม กลับประเทศ หลาย ๆจังหวัดเรามีการร่วมมือกับการท่องเที่ยวประเทศไทย
การพัฒนาของเรานอกจากพัฒนาเรื่องเกี่ยวกับ experience เรื่องการพื้นที่ขายแล้ว เรายังพัฒนาพื้นที่เช่า
โดยภาพระยะไกล เราอยากจะเห็นพื้นที่เช่าที่เป็น new space เพิ่มขึ้นประมาณ 200,000 ตารางเมตรภายในปี 2028 หลัก ๆ มาจาก 4 เรื่อง
เรื่องแรก คือการเพิ่มพื้นที่ขนาดใหญ่ในทําเลศักยภาพหลาย ๆ สาขาของMAKROและLotus'sตั้งอยู่ใน Prime Areaหรือทําเลที่มีศักยภาพ เราพยายามจะเพิ่มพื้นที่เช่าในส่วนนั้น
แล้วบาง area เราอาจจะพิจารณาพื้นที่เช่าเป็นขนาดเล็ก แล้วปรับให้ตอบโจทย์ลูกค้าหรือกลุ่มลูกค้าในแต่ area นั้น ๆ เพราะแต่ละท้องถิ่นอาจจะมีความต้องการไม่เหมือนกัน และพื้นที่เช่าอีกส่วนนึงส่วนที่สามมาจากพื้นที่เช่าของสาขาใหม่ รวมถึงการเพิ่มพื้นที่เช่าสาขาของMAKROเอง ซึ่งมีหลายสาขาที่อยู่ใน Prime Area
สำหรับกลยุทธ์ของการพัฒนาพื้นที่เช่า หลัก ๆ เราพยายามจะเป็น localization แล้วทําให้ทันสมัย เราต้องรู้ว่าในแต่ละที่ที่เราไปเปิดสาขา ลูกค้าเป็ อย่างไ รต้องการอะไรแล้วปรับ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ขาย หรือผู้เช่าให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในกลุ่มนั้น ๆ เราอยากจะเป็น Food Destination สําหรับอาหารและอาหารสด เราพยายามเอาทั้งร้านค้าท้องถิ่น หรือร้านค้าดัง ๆ ในกรุงเทพฯไปเปิดในต่างจังหวัด
รวมถึงเรามีตัวLotus's Eatery คล้ายเป็น Premium Food Court ที่เอาแบรนด์ดัง ๆ ที่อยู่ในมิชลินไก่หรือว่าเป็นที่นิยมของคนกรุงเทพ ไปรวมกันอยู่ที่ Lotus's Eatery
ในขณะเดียวกันเราเชื่อว่าเทรนด์เรื่องเกี่ยวกับ Health Wellness และ Family ยังเป็นจุดขายของกลุ่มLotus's จะเพิ่ม Platland หรือเพิ่มพวก Learning Center หรือว่า Fitness เข้าไป มีแพลนที่จะพัฒนากว่า 60 สาขาเช่นเดียวกัน
สุดท้ายพอเราได้ Quality ของผู้เช่าที่ดี Return in Space คือ รายได้ต่อพื้นที่เช่าจะดีขึ้นโดยรวมปัจจุบันนี้เราพยายามปรับมิกซ์ของ Food Destination ปัจจุบันนี้ 34%ซึ่งแต่ก่อนพรีโควิดมีอยู่แค่ 25% แล้วเรามีทั้งหมดภัตตาคารมาร่วมเป็นพาร์ตเนอร์กับเราถึง 1,600 ภัตตาคาร แล้วมีแบรนด์ที่เข้ามาร่วมกับเราถึง 260 แบรนด์
ตัวอย่างพื้นที่ที่เราจะเพิ่มรายได้ต่อพื้นที่ให้มากขึ้นได้
ตัวอย่าง Parter ของเรา
เริ่มมี BEAUTRIUM ไปเปิดที่Lotus'sสงขลา SO GRILL ในบางแค เเล้วที่Lotus'sเชียงใหม่หางดงแล้วเริ่มมีเหมือนเป็น Learning Center ให้เด็กเข้าไปเล่นได้ เป็นหนึ่งในการตอบโจทย์ว่าเราจะเป็นพื้นที่ที่เล่นเกี่ยวกับ Health คือเรื่องสุขภาพ wellness ความสวย
Look Forward
อย่างที่เราสื่อสารมาตั้งแต่ต้นปี ยังยืนยันว่ากลยุทธ์ของเรายังดําเนินงานตามกลยุทธ์ที่วางไว้
สิ่งแรกเลย อาหารและอาหารสดยังเป็นจุดเด่นขององค์กรแล้วพยายามต่อยอดอาหารแปรรูปอาหารแช่แข็งไม่ว่าจะเป็น Ready to eat / Ready to cook รวมถึงอาหาร Bakery มาตอบโจทย์ผู้บริโภค
ในขณะเดียวกันเราจะนําเข้าสินค้าจากหลากหลายทั่วโลกเพื่อมาตอบโจทย์ความต้องการของความต้องการของลูกค้าในในประเทศ แล้วในประเทศที่เราลงทุนเรื่องที่สองเรา เราจะเติบโตจากการขายนอกร้านโดยการที่เรามีโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งแล้วการเพิ่มประสิทธิผลของทีมงานนักขายนอกร้าน จะสามารถทําให้เรา deliver ตัวเป้ายอดขายนอกร้านไม่ต่ำกว่า 17%
เรื่องที่ 3 เป็นการเลือกรูปแบบที่เหมาะสมต่อความต้องการของคนในแต่ละท้องถิ่นโดยการเพิ่มพื้นที่เช่า แล้วสรรหาผู้เช่าให้ตอบโจทย์ลูกค้า และเป็นศูนย์กลางของชุมชนของคนทุกวัย
เรื่องที่ 4 คือการขยายสาขายังไงเราก็ยังโตต่อเนื่องเติบโตจากการขยายสาขาต่อเนื่อง ที่ขาดไม่ได้คือเราต้องเพิ่มประสบการณ์การใช้จ่ายของลูกค้าในสาขาของเราไม่ว่าจะในพื้นที่ขาย และพื้นที่เช่ารวมถึงขยายฐานลูกค้า จะเป็นตั้งแต่กลุ่มไหนแล้วพยายามจะตอบโจทย์ทุกกลุ่ม สุดท้าย โมเดลที่ประสบความสําเร็จประเทศไทยเราจะreplicateเอาไปใช้ในประเทศที่เรามีการลงทุน
เรื่องที่ 5 การผนึกกําลังของเราจะนํามาสู่ซึ่งการเพิ่มประสิทธิภาพแล้วเพิ่มความคล่องตัว ไม่ว่าจะเป็นระบบการขนส่ง ระบบสารสนเทศ
สุดท้าย บริษัทมุ่งมั่นขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืนในทุกมิติ โดยผนวกเรื่องเกี่ยวกับความยั่งยืนเป็นส่วนหนึ่งของการดําเนินงานในทุก ๆ วัน
ทั้งนี้เพื่อเพิ่ม Positive Impact ต่อเรื่องเกี่ยวกับสังคม เศรษฐกิจในขณะเดียวกันแล้วจะลดผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อม
Q&A
แนวโน้มของครึ่งปีหลังเป็นอย่างไร และจะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรกหรือไม่ ปัจจัยอะไรเป็นปัจจัยอะไรเป็นตัวหนุน
ปกติครึ่งปีหลังจะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรกอยู่แล้ว ปัจจัยที่หนุนต่อการเติบโตของครึ่งปีหลัง จะเป็นเรื่องจะเข้าสู่เทศกาลท่องเที่ยวในช่วงไตรมาส 4 อันนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยหนุนการเติบโตของบริษัทได้
โดยรวมมองภาพรายได้ของบริษัท ยังเติบโตตามกลยุทธ์ที่กล่าวไปเราจะใช้ Direction ของกลยุทธ์ทั้ง 6 พายที่สื่อสารไปในการเติบโตองค์กร ไม่ว่าจะเป็นรายได้และกําไร
แนวโน้มไตรมาส 3 มองว่า ถ้าพูดถึง SSSG ยอดขายจากสาขาเดิม ต้องบอกว่าของธุรกิจ Wholesale อยู่ในเกณฑ์ที่ดีอยู่ประมาณ Low Single Digit ขณะที่ Lotus's ประเทศไทยน่าจะอยู่ได้ที่Low-Mid Single Digit แล้วที่มาเลเซียอยู่ประมาณMid Single Digit ขึ้นไป การเติบโตของ QTD ในไตรมาส 3 นี้เป็นไปตามที่เราคาดการณ์อยู่
อัตราภาษี CPAXT มีอัตราภาษีสูงกว่า 20%
คือโดยปกติในประเทศไทยอัตราภาษีจะอยู่ประมาณ 20% แต่ว่าในต่างประเทศที่เรามีการลงทุนจะมีอัตราภาษีสูงกว่า 20% เพราะฉะนั้น รวมกันแล้วจะมีอัตราภาษประมาณ 23 -24%
การเติบโตของ Private Label ค่อนข้างดีจากการเพิ่มการจําหน่ายPrivate Label หรือมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภค ปัจจุบัน Private Label คิดเป็นเท่าไหร่
Private Label ถ้าแยกรายกลุ่มธุรกิจค้าส่งจะมีอยู่ประมาณ 17% แล้วค้าปลีกจะอยู่ประมาณ 11% ภาพรวมทั้งหมดจะอยู่ประมาณ 14%
โดยรวม Private Label ที่เติบโตได้ดีคือหนึ่งเรามีการรีแพ็คเกจจิ้งเรามีการแพ็คสินค้าให้ดูหยิบง่าย พยายามพัฒนาสินค้าเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า
แล้วเรามีการพัฒนาไปอีกระดับคือเพิ่มเอเวอร์โกเอลโกเป็นสินค้าที่เป็นออร์แกนิกหรือว่าสินค้าพรีเมียม วากิว แซลมอน จะแพ็คอยู่ในแอโรโกลด์ เป็นสินค้าที่ค่อนข้างจะมี มาร์จิ้นที่ดี
อีกอันนึงที่เราพยายามทําคือสินค้าที่ขายที่เฉพาะMAKROกับLotus'sคือสินค้าประเภทนี้จะทําโคกับแบรนด์แล้วขายเฉพาะในMAKRO และ Lotus's สิ่งนี้เป็นสิ่งนึงที่ทําให้ยอดขายเราเติบโตได้ดี
การปรับโครงสร้างหนี้จะมีผลอย่างไรต่อสัดส่วนหนี้และผู้ถือหุ้นต้อง
จะเห็นว่าตัวเลขไม่เปลี่ยนเลย สิ่งที่เราปรับโครงสร้างจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทํางานและเพิ่มความคล่องตัวในการทําธุรกิจ
การมาของ TEMU จะกระทบกับCPAXT หรือไม่
ดูจากสัดส่วนสินค้าของเรา หลัก ๆ เราขาย Fresh Food สินค้าอุปโภคบริโภค ลูกค้าคนไทยหรือลูกค้าในประเทศที่เราไปลงทุนยังซื้อผ่านแพลตฟอร์มของเราเอง คือไม่ว่าจะเป็น Makro Pro หรือ My Lotus's หรือซื้อผ่านที่สโตร์โดยรวมเรามองว่าไม่ได้เป็นผลกระทบทางตรงสําหรับกลุ่ม CPAXT เพราะหลัก ๆ เราขายอาหารสดกับสินค้าอุปโภคบริโภคเป็นหลักทั้งสองกลุ่มธุรกิจ
ในปีที่ผ่านมามีแอปพลิเคชันออนไลน์จัดโปรโมชั่นหนักมาก แถมส่งฟรีถึงบ้าน บริษัทรับมืออย่างไร
อยากจะบอกให้เห็นสิ่งที่แตกต่างกัน เวลาซื้อสินค้า การซื้อสินค้าของเราเวลาเราซื้อหนึ่งบาสเกต เข้าไปใน แอป My Lotus's แน่นอนใน E-commerce ที่เป็นแอปส้มแอปฟ้า ส่วนใหญ่จะไม่มีอาหารสด แต่ถ้าซื้อMy Lotus's ในบาสเกตไซส์สามารถซื้อได้ทั้งแชมพู น้ํายาล้างจาน น้ํายาซักผ้า รวมถึงซื้อผักชี ซื้อต้นหอมเพราะฉะนั้นสิ่งนี้อาหารสดเป็นตัวดึงให้ลูกค้าอยู่กับเรา
ในขณะเดียวกันเรามีการให้ มา My Lotus's point หรือว่า Makro Pro Point เพื่อเกิดให้เกิด Stickiness แล้วลูกค้ากลับมาใช้ point กับเรา
อันนี้เป็นทําเป็นสิ่งที่ทําให้เรายังเติบโตได้จากเห็นที่ Omni Channel ต่อให้มีการแข่งขัน การเติบโตการขายนอกร้านเรายังเติบโตได้อย่างต่อเนื่องดูจาก online business platform ครึ่งปีแรกเราเติบโตถึง 70% ทีเดียว
การเพิ่มขึ้นของคู่แข่ง จะมีผลกระทบต่อการลงทุนหรือการขยายสาขาของเราบ้างไหม
คือการการแผนการลงทุนของเรา เป็นไปตามแพลนปัจจุบันนี้ที่เราเคยเสนอตั้งแต่ต้นปีโดยหลักยังอยู่ในแทรคอยู่
โดยรวมเรามีกลยุทธ์ในการขยายสาขา การขยายสาขาเราการเติบโตของในแต่ละภูมิภาค
ดูการเติบโตเศรษฐกิจ ดูคนดูสาขาที่เราเปิดว่าเป็นอย่างไร
ภาคตะวันออก บางจังหวัด อาจจะเปิดเป็นมากกว่าหนึ่งสองสาขาได้ อย่างเช่น ขอนแก่น เรามีมากกว่าสองสาขา และเราต้องดูศักยภาพในการเติบโตของแต่ละพื้นที่ ถ้าพื้นที่นั้นมีศักยภาพ เราก็ขยายสําหรับคู่แข่งมีผลไหมแล้วพิจารณาว่าคู่แข่งอยู่ในโซนไหน เราพยายามมอนิเตอร์ แต่โดยรวมแล้วการขยายสาขาเราเป็นไปตามกลยุทธ์ขององค์กรเป็นหลัก
แนวโน้มภาระหนี้ดอกเบี้ยจะลดลงตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไปไหม
ต้องแจ้งว่าหนี้ที่เกิดขึ้นในไตรมาสสองเป็นหนี้ระยะสั้น ต้นปีหน้า ก้อนนี้น่าจะหายไปโดยหลักเราไม่ได้อยากจะสร้างหนี้เพิ่ม โดยรวมคงจะอยู่ในระดับไม่เกินแสนล้าน แต่ถ้าเกิดเรื่องเกี่ยวกับ Financial Cost ของเราค่อนข้างจะอยู่ในเกณฑ์ดี ปัจจุบันนี้ Effective Interest Rate ต่ำกว่า 4% อยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยรวมแล้วไม่ได้อยากจะเพิ่มภาระหนี้ คิดว่าภาระหนี้ที่เห็นในไตรมาสสอง น่าจะหายไปในปีหน้า
ตั้งเป้าอัตราการเช่าพื้นที่ทั้งหมดกี่%ของพื้นที่ทั้งหมด
โดยรวมแล้วตั้งเป้าไว้ประมาณ ประมาณ 93-94% โดย track record
แต่โดยปกติแล้วบาลานซ์ซิ่ง พยายามจะดูว่าเรื่องเกี่ยวกับรายได้ค่าเช่า รวมถึงอัตรา อัตราการเช่าด้วย หลัก ๆ เราจะดูที่ total rental revenue เป็นหลักว่าเติบโตหรือไม่
ถ้าเราเพิ่มอัตราได้สูงมาก แต่ว่า Absoute Numberออก ไม่โต ไม่ได้โดยปกติเราจะบาลานซ์ซิ่งระหว่างอัตราการเช่ารวมถึงรายได้ต่อตารางเมตร
ผลการดําเนินงานในต่างประเทศทุกสาขาในต่างประเทศEBITDAเป็นอย่างไร
ใน Lotus's ทั้งในไทยและมาเลเซียผลการดําเนินงานเป็นบวก
ส่วนในต่างประเทศของ MAKRO มีเปิดอยู่ประมาณสามประเทศ ที่อินเดีย ที่กัมพูชาแล้วพม่า พม่ากับกัมพูชาผลการดําเนินงาน EBITDA เป็นบวกส่วนอินเดียเป็นเฟสซิ่งของการลงทุน เรายังมีผลขาดทุนที่อินเดียอยู่ แล้วกําลังหาพาร์ตเนอร์ที่เป็นLocal Partner เพื่อเราจะสามารถขายสินค้าให้กับกลุ่ม B2Cได้ ปัจจุบันนี้การลงทุนที่อินเดียเป็นการลงทุน 100% เป็นบริษัทไทย เพราะฉะนั้น เราจะขายได้เฉพาะกลุ่ม B2B สิ่งที่เราจะทําต่อไปคือ เราจะเพิ่มพยายามหาพาร์ทเนอร์ที่เป็น Local Partner เพื่อที่จะสามารถขาย B2C ได้ แต่โดยรวมผลการดําเนินงานของทุกกลุ่มธุรกิจดีขึ้น
แผนออกหุ้นกู้ในปีนี้
ไม่มีแผนออกหุ้นกู้ในปีนี้ น่าจะมีอีกทีเป็นปีหน้าแทน ทั้งหมดทั้งมวลในการจัดการการออกการออกหุ้นกู้หรือการกู้เงินจากธนาคาร จะพิจารณาจากต้นทุนทางการเงิน แล้วการบริหาร Cash Flow เป็นหลัก
Lotus's กับ 7-11
การ positioning ของ Lotus's Go Fresh กับ 7-11 เจาะกลุ่มไม่เหมือนกัน มิกซ์ของ Lotus's Go Fresh 35% เป็นอาหารสด ready to cook มากกว่าเพราะฉะนั้น positioning สําหรับLotus's Go Freshกับ 7-11
ที่มา: https://www.youtube.com/watch?v=3MV8TlUmDaE