ผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ปี 2566 INERTEIT
ที่มา: บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
[ INETREIT ] ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไอเน็ต
-
- Posts: 3145
- Joined: Mon Apr 17, 2023 1:05 pm
Oppday Q1/2024 INETREIT ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไอเน็ต
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://listed-company-presentation.set ... h/vdo/7882
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://listed-company-presentation.set ... h/vdo/7882
-
- Posts: 3145
- Joined: Mon Apr 17, 2023 1:05 pm
สรุปคลิป Oppday Q1/2024 INETREIT ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไอเน็ต
ภาพรวมของกองทรัสต์
- ประกอบไปด้วยส่วนของผู้ถือหน่วยทรัสต์ซึ่งในส่วนของผู้ถือหน่วยทรัสต์จะมีทางสปอนเซอร์ หรือทางบริษัทอินเทอร์เน็ตประเทศไทยเข้ามาถืออยู่ 25% และอีกส่วนหนึ่งจะเป็นส่วนของเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน
- ตัวทรัพย์สินที่อยู่ในกองทรัสต์ จะเป็นตัวโครงการ INET-IDC 3 เฟส 1 และ โครงการ INET-IDC 3 เฟส 2.1
- ทรัสตี ธนาคารกสิกรไทย
- ผู้จัดการกองทรัสต์ INETREIT MANAGEMENT
- เจ้าของทรัพย์สินคือ บริษัทอินเทอร์เน็ตประเทศไทยจํากัด เป็นเจ้าของทรัพย์สิน และเป็นผู้เช่ากลับของทรัพย์สินทั้งสองส่วนตลอดอายุสัญญา
- อัตราค่าเช่าทรัพย์สินเฟสที่หนึ่ง จะเป็นอัตราค่าเช่าคงที่และมีการปรับค่าเช่าขึ้นทุกปี ในอัตราส่วน 2%ต่อปี ระยะเวลาของเฟสที่หนึ่งมีอายุ 24 ปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม ปี 2588 และทรัพย์สินในส่วนเฟส 2.1 อัตราค่าเช่าจะเป็นอัตราคงที่ มีการปรับเพิ่มทุกปี ปีละ 2% ระยะเวลาสัญญาคือ 30 ปีสิ้นสุดวันที่ 24/03/2597
- 10 รายชื่อผู้ถือหน่วยทรัสต์สูงสุดของกอง INETREIT
- อย่างที่ทราบกันว่าในครั้งนี้ในการเพิ่มทุนเรามีการ Aquire ทรัพย์ที่เป็นที่ดินเข้ามา
- รายได้ค่าเช่าที่กองทรัสต์ได้รับต่อปี ปัจจุบันกองทรัสต์มีการลงทุนทั้งหมดสองโครงการ โดยทั้งสองโครงการจะได้รับรายได้ค่าเช่าแบบคงที่และ โตทุก ปี 2% ซึ่งเป็นไปตามสัญญาเช่าที่ตกลงกับผู้เช่าทรัพย์สิน
- ซึ่งจากกราฟจะสังเกตได้ว่าในปี 2588 เป็นปีที่เฟสหนึ่งสิ้นสุด ลงทําให้กองทรัสต์จะมีรายได้สูงสุดอยู่ที่ 955 ล้านบาทต่อปี
- แต่ทั้งนี้กองทรัสต์ยังคงมีรายได้ต่อเนื่อง ในส่วนของโครงการเฟสสองจนถึงปี 2597 ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากองทรัสต์มีรายได้เติบโตอย่างมั่นคง
- กองทรัสต์จะจ่ายชําระเงินต้นเท่ากันในทุกทุกปี โดยโครงการเฟสสองนี้ที่ลงทุนเพิ่มเติมจะมี Grace Period 1 ปี โดยจะเริ่มชําระเงินต้นในกลางปี 2568
- โดยภาพรวมรายได้และค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกัน
- แต่กําไรจากเงินลงทุนลดลงเล็กน้อย เนื่องจากรายได้เข้ามาไม่เต็มไตรมาส เนื่องจากเราเพิ่มทุน มีรายได้เข้ามาแค่ 5 วัน และมีค่าใช้จ่ายการเพิ่มทุนของกองทรัสต์ที่เป็นแบบ one time
- แต่ไตรมาสถัดไปจะทําให้กําไรการลงทุนสุทธิ กลับมาใกล้เคียงเดิม
- ส่วนของสินทรัพย์ที่มีการเติบโตอย่างมาก เนื่องจากมีการเพิ่มทุนของของกองทรัสต์ในปีนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากองทรัสต์มีความมั่นคงและมีสภาพคล่องมากยิ่งขึ้
- แต่ในส่วนของสินทรัพย์สุทธิที่ลดลง เป็นผลมาจากรายได้ของเฟสสองที่มีรายได้เข้ามาแค่ 5 วัน และจํานวนหน่วยที่เพิ่มขึ้นด้วย
- กองทรัสต์ได้มีการจ่ายปันผลตั้งแต่จัดตั้งจนถึงปัจจุบันไปแล้ว 11 ครั้ง โดยจ่ายไปแล้วทั้งหมด 2.2019 บาทต่อหน่วย คิดเป็นเงิน 764 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงกองมีประสิทธิภาพในการจ่ายผลตอบแทนให้นักลงทุนอย่างสม่ำเสมอในทุก ๆ ปี
- ในส่วนของเกี่ยวกับเรื่องงบการเงินที่ผ่านมาไตรมาสหนึ่ง ภายหลังจากที่มีการเพิ่มทุน อยากจะขอให้ท่านนักลงทุนลองสังเกตดูจุดที่เป็น financial highlight หรือจุดเด่นตัวของตัวสินทรัพย์รวมของมูลค่าเงินลงทุนของกองทรัสต์ ตอนนี้ปัจจุบันขึ้นไปถึง 7,000 กว่าล้าน ถือว่าเป็นกองทรัสต์ที่ค่อนข้างมีเสถียรภาพ แล้วอาจจะสร้างสภาพคล่องในการซื้อขายของกองทรัสต์ได้ดีขึ้นมากกว่าไซส์กองเดิม
- ตัว NAV ต่อหน่วย เมื่อรายได้ของแต่ละไตรมาสเข้ามาเดี๋ยวจะกลับมาอยู่ในจุดที่สมดุล
- และอีกส่วนนึงที่อยากให้ท่านนักลงทุนดูคือตัวการจ่ายประโยชน์ตอบแทนของกองทรัสต์ตั้งแต่เริ่ม IPO มาเลยตั้งแต่ปี 64 จนถึงปัจจุบันจ่ายไปแล้วกว่า 11 ครั้งจ่ายเป็นเงินกว่า 2.2109 บาทต่อหน่วยเรียกได้ว่าค่อนข้างสม่ำาเสมอแล้วค่อนข้างมั่นคง ล่าสุดครั้งสุดท้ายถ้าดูจากกราฟขวาเลย เดี๋ยววันที่ 10 มิถุนายน จะจ่ายอีกประมาณ 20 สตางค์ต่อหน่วย ตีว่า 2% ถ้าเมื่อเทียบกับราคาตลาดของกองทรัสต์ในวันนี้คิดว่าการจ่ายประโยชน์ตอบแทนของกองทรัสต์ INETREIT ถือว่าอยู่ในอัตราที่ค่อนข้างสูงแล้วมั่นคง แล้วคาดว่าตามแผนงานคิดว่าการจ่ายประโยชน์ตอบแทนลักษณะนี้จะจ่ายไปได้ตลอดเรื่อย ๆ อยากจะให้ท่านลงทุน ได้สังเกตดูเรื่องของการจ่ายประโยชน์ตอบแทนของกอง
- 1.)หลังจากที่มีการเพิ่มทุนครั้งที่หนึ่งไปเมื่อเดือนมีนาคม ลักษณะของการเข้าลงทุนในครั้งนี้ จะเป็นกรรมสิทธิ์ เพราะเรามีการนำทรัพย์ที่เป็นที่ดินเข้ามา คือตัวสปอนเซอร์มีการซื้อที่ดินที่เป็นที่ตั้งของโครงการ INET-IDC 3 แล้วทั้งหมด เพราะฉะนั้นหลังจากเฟส 2.1 ไปเรื่อย ๆ กองทรัสต์เองสามารถเข้าระดมทุนที่เป็นกรรมสิทธิ์ได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ตอน IPO เรายังเป็นการระดมทุนที่เป็นสิทธิการเช่าอยู่เดิมสัดส่วนสิทธิการเช่าจะเป็นอยู่ที่ 100% แต่ณปัจจุบันเราสามารถเพิ่มสัดส่วนที่เป็นกรรมสิทธิ์มาที่ 43% แล้วเป็นสิทธิการเช่าอยู่ที่ 57% ซึ่งจะทําให้อายุเถัวเฉลี่ยถ่วงน้ําหนักคงเหลือของกองทรัสต์จะอยู่ที่ 55 ปี ถ้าจะดูจากกราฟอันล่างสุดการทําประโยชน์เชิงเศรษฐกิจในอนาคตของกองทรัสต์จากรายได้ค่าเช่าจะเพิ่มขึ้น จากกราฟที่เป็นเส้นสีเขียวเข้มจากกองเฟส 2.1 สามารถได้ยาวนานขึ้นกว่าเดิมที่จบในปี 2588 เราสามารถทําประโยชน์ได้ไปถึงปี 2597 ถือว่าจุดเด่นของกองคือจะเป็นกองที่เป็นกรรมสิทธิ์แล้วแล้วหลังจากนี้จะเป็นกรรมสิทธิ์ต่อไป
- 2.) ถือว่าเป็นกองที่เข้าลงทุนเป็นกองแรกและกองเดียวที่ลงทุนในทรัพย์สินที่เป็น data center ของประเทศไทยทั้งหมด แล้วทรัพย์สินที่เป็น data center อย่างที่ทราบกันว่าได้รับมาตรฐานที่เป็น uptime tier 3 design จากสถาบัน uptime ซึ่งสามารถเป็นเครื่องการันตีได้ว่า data center ดังกล่าวจะสามารถ generate ตัว service ได้ดี การรองรับมาตรฐานของ ISO ต่าง ๆ ของ data center รวมถึงการได้รับ iso ที่เกี่ยวกับ cloud ซึ่งในเฟสที่ 2.1 จะเริ่มเดินไปสู่cloudที่เป็น platform as a service ซึ่งเป็นไปตาม derection ของทาง INET ที่เค้าจะต้องเดินไปทางแพลตฟอร์ม service ซึ่งถือว่าเป็นcloudที่สามารถสร้างประโยชน์ให้กับทั้งผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการสามารถทําประโยชน์จากการใช้งานได้มากขึ้น ถือว่าเป็น data center ที่รองรับเทคโนโลยี แล้วเป็นทรัพย์สินแห่งอนาคตเพราะฉะนั้นกองทรัสต์INETREITถือว่าได้ครอบครองทรัพย์สินที่มีประโยชน์เชิงเศรษฐกิจในอนาคต
- 3.)ทรัพย์สินหรือหมวดธุรกิจของตัว data center นี้ เติบโตอย่างต่อเนื่อง อยู่ในหมวดที่เติบโตเนื่องจากการเติบโตของการใช้ข้อมูล ทั้งการประมวลผลและการจัดเก็บข้อมูลที่มีความซับซ้อนและหลากหลายมากขึ้น อย่างที่เราทราบว่าcloud ทุกวันนี้พัฒนาไปเป็น big data IoT 5G AI หรือการทําวิดีโอสตรีมมิ่ง อีคอมเมิร์ซ ต่าง ๆ หรือโซเชียลมีเดีย ที่จะต้องการการรองรับที่สูงขึ้น ถือว่ามีการใช้ data ที่มากขึ้นร วมถึงการเพิ่มขึ้นของประชากรหรือการเข้าถึงของประชากรที่มีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่มากขึ้น จากการที่มีสัญญาณ 5G หรือการที่ประชากรต่าง ๆ ได้รับeducateการใช้งานทางด้าน data มากขึ้น ทําให้ตอนนี้เทรนด์ของคนที่ใช้ data มีส่วนที่มากขึ้น แล้วเรื่องของการรณรงค์ กฎระเบียบหรือข้อกฎหมายต่าง ๆ ของการใช้ data หรือการประมวลผลให้อยู่ภายใต้ประเทศไทย เป็นส่วนสําคัญที่ทําให้data centerที่ขึ้นอยู่ที่ประเทศไทยมีความสําคัญ และมีความนิยมในการใช้งานมากขึ้น รวมถึงเหตุผลสุดท้ายที่เป็นเหตุผลแรก ๆ เลยคือองค์กรต่างต่างไม่นิยมที่จะสร้างศูนย์ข้อมูลมิเตอร์หรือห้องเซิร์ฟเวอร์เอง เนื่องจากมันมีการลงทุนครั้งแรกที่ค่อนข้างสูง ไม่เกิดการประหยัดต่อหน่วยและรวมถึงจะต้องมีการหาบุคลากรหรือคนดูแลและการซ่อมบํารุงรักษาในอัตราที่ค่อนข้างสูง ทุกวันนี้เลยเปลี่ยนเทรนด์มาเป็นให้ผู้ให้บริการมืออาชีพเป็นคนดูแล ซึ่งจะสอดรับกับผลสํารวจที่มีการสํารวจตั้งแต่ปี 66-70 ตัว data center เองในประเทศไทยจะมีอัตราการเติบโต 66-70 4.8% ต่อปี และรวมมูลค่าของ cloud ทั้งหมดในประเทศไทย จะมีการเติบโตตั้งแต่ปี 66-70 กว่า 19.5% สอดรับว่าการทํา data center ที่รองรับการทํา cloud service ที่พัฒนาไปในทางแพลตฟอร์ม จะมีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้น แล้วมีความมั่นคงยาวนานและต่อเนื่อง
- ปัจจุบันกองทรัสต์ลงทุนใน INET-IDC3 ที่แก่งคอย สระบุรี ในเฟสที่ 1 และเฟสที่ 2.1 พื้นที่ให้บริการกว่า 8,000 ตารางเมตร ซึ่งกองทรัสต์เองมีโอกาสเติบโตจากการลงทุนจากการที่ได้รับสิทธิ์ในการปฏิเสธก่อนจากทางสปอนเซอร์ เพราะฉะนั้นเมื่อมีการเติบโตในการลงทุนในทรัพย์สินของทางสปอนเซอร์ กองมีสิทธิในการที่จะเลือกทรัพย์สินที่เหมาะสมและสามารถสร้างประโยชน์เชิงเศรษฐกิจให้กองทรัสต์ได้ในอนาคต ถือว่าได้สิทธิ์ Right of First Refusal แล้วยังได้รับสิทธิการลงทุนในอุปกรณ์ของแต่ละพื้นที่กองทรัสต์ได้มาเป็นเจ้าของ ถือว่าเป็นสิทธิ์ที่กองทรัสต์ได้ประโยชน์ แล้วสามารถเติบ พร้อมกับสิ่งที่ Direction ของ INET จะเติบโตไป
- โครงการในอนาคตที่เราวางแผนไว้หลังจากนี้ มีการวางแผนในการสร้างศูนย์ INET-IDC4 ที่จังหวัดขอนแก่น แต่ตอนนี้ยังเป็นแผนอยู่ พื้นที่ที่คาดการณ์ไว้น่าจะไม่ต่ำากว่า 100 ไร่ แล้วอาจจะมีเรื่องของพลังงานทางเลือกหรือพลังงานสะอาดคือจะเป็นโซลาร์ฟาร์มด้วย ซึ่งอันนี้ยังเป็นอยู่ในแผนการ แต่ถ้าเกิดแผนการเมื่อมีการสร้างสําเร็จในเร็ววันนี้ กองทรัสต์เองมีสิทธิ์ที่จะเอาทรัพย์ตัวนี้เข้ามาเพื่อขยายกองต่อไปได้
- ส่วนอีกด้านนึงที่อยู่ใน pipeline อยู่แล้ว คือศูนย์INET-IDC3 ซึ่งยังเหลือเฟสที่สามและเฟสที่ 4 อยู่ที่จังหวัดสระบุรี ซึ่งพื้นที่การให้บริการ 8,000 ตารางเมตร จะเท่ากันกับเฟสที่หนึ่งและเฟสที่สอง รวมถึงที่แก่งคอยสระบุรี ทางINETเค้าได้สร้าง โซลาร์ฟาร์ม ไว้แล้วซึ่งมีการให้บริการแล้ว โซลาร์ฟาร์มเป็นจํานวนกําลังไฟประมาณ 2 เมกะวัตต์ เพื่อการเติบโตของการใช้พลังงานทางเลือก และการเติบโตอย่างยั่งยืนเกี่ยวกับเรื่อง การใช้พลังงานสะอาด กองทรัสต์เองจะมีเรื่องของ environment social governance ด้วยคือ ESG เราจะสามารถเลือกทรัพย์สินที่จะสามารถ Generateรายได้รวมถึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้วสามารถสร้างประโยชน์ให้กับพื้นที่ข้างเคียงได้ถือเป็น Direction ของกองทรัสต์เราเอง
- อยากฝากท่านนักลงทุน ตอนนี้กองทรัสต์ INETREIT เอง มีราคาตลาดที่ค่อนข้างเหมาะสมไม่ได้สูงจนเกินไป แต่การจ่ายประโยชน์ตอบแทนยังถือว่าจ่ายอยู่ในอัตราที่ไม่ต่ำกว่าเดิม ถือว่าจ่ายค่อนข้างสม่ำเสมอและใกล้เคียงเดิม แล้วอัตราการทํารายได้คงที่แล้วมองเห็นภาพว่ากองท่านเองจะสามารถจ่ายประโยชน์ตอบแทนได้ในอัตราเดียวกันไปเรื่อย ๆ แล้วยังมี Direction หรืออนาคตที่จะสามารถขยายการลงทุนจากสิทธิ์ต่าง ๆ ที่ได้รับ หรือสิทธิ์ในการปฏิเสธก่อน หรือการลงทุนในเฟสต่าง ๆ ที่ทางทางบริษัทแม่หรือทางอินเตอร์เน็ตประเทศไทยมีแผนที่จะลงทุน ทําให้กองทรัสต์เองมีโอกาสเติบโต จะมีไซส์กองที่ดีขึ้นต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ แล้วอาจจะทําประโยชน์ให้กับนักลงทุนมากขึ้น อยากจะฝากท่านนักลงทุนกอง INETREIT
เกี่ยวกับ Data Center ระดับโลก ที่จะมาลงทุนในประเทศไทย จะมีผลกระทบกับสปอนเซอร์ของ INETREIT อย่างไรบ้าง
- การเข้ามาของดData Center ขนาดใหญ่ มองว่ามันเป็นการลดการใช้ต้นทุนต่อขนาดของเค้าว่าพื้นที่ที่เค้าใช้อยู่เดิมมันอาจจะมีต้นทุนที่ค่อนข้างสูง การที่มามองหา location ที่เหมาะสมอย่างในประเทศไทย ซึ่งราคาต้นทุนต่อหน่วย ขนาดต่อหน่วยอาจจะถูกกว่าในเชิงเศรษฐกิจแล้ว ความสามารถในการให้บริการของประเทศไทยตอนนี้มีค่อนข้างสูง เลยอาจจะเป็นที่เค้าเรียกว่าเป็นการย้ายฐานหรือย้ายโนดของการที่จะต้องมารองรับกับฐานลูกค้าของเค้าที่มีมากขึ้น ซึ่งหลัก ๆ เข้าใจว่าการมาลงทุนอาจจะต้องใช้เงินทุนที่ค่อนข้างสูงรวมถึงการที่จะต้องมีฐานลูกค้าที่ติดตัวมาด้วย นอกจากฐานลูกค้าในประเทศ
- คาดว่าสิ่งที่จะกระทบกับเราอาจจะเป็นเรื่องของการกระตุ้นตลาดทําให้ตลาดในการใช้งานในประเทศมีความตื่นตัวมากขึ้น แล้วอาจจะโตไปด้วยกัน รวมถึงเค้าอาจจะต้องย้ายฐานของลูกค้าเข้ามาใช้ในประเทศ น่าจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศเรามากขึ้น ทําให้คนหันมาใช้cloudหรือใช้data centerมากขึ้น
- แต่การใช้งาน ถ้าเกิดเป็นของต่างชาติ เค้าจะมีฐานลูกค้าเค้าอยู่แล้ว ที่จะเป็นองค์กรใหญ่ ๆ หรือคนที่จะต้อง ใช้งานในระดับที่ค่อนข้างสูงรวมถึงต้นทุนในการใช้งานอาจจะไม่ได้มาเป็นเรื่องของการแข่งขันในเรื่องราคา เพราะการลงทุนนี่ค่อนข้างสูงจะต้องมีเรื่องของการคืนทุนหรือระยะเวลาในการลงทุนที่จะต้องให้คุ้มในสเกล คาดว่าถือว่าน่าจะเป็นส่วนที่กระตุ้นให้ตลาดเติบโตไปด้วยกัน น่าจะเป็นส่วนดีต่อประเทศเรา
- จริง ๆ แล้วการจ่ายคืนเงินกู้ในปี 68 ที่เป็นของเฟสที่สองอยู่ในแผนอยู่แล้ว เพราะว่าตอนนั้นทําเรื่องของการกู้เงินเพื่อระดมทุน ถือว่าวางแผนกับจํานวนเงินกู้และการจ่ายชําระคืนเงินกู้รวมถึงดอกเบี้ยไว้ใน Pipeline อยู่แล้ว DPU คาดว่าจะพยายามทําให้ไม่ต่ำไปกว่าเดิมมากนัก ถ้าจะต่ำจริงจริงอยู่ที่สถานการณ์ของอัตราดอกเบี้ยนโยบายด้วยว่าหลังจากนี้ดอกเบี้ยไม่ได้เพิ่มขึ้นไปกว่านี้แล้ว น่าจะคงDPUของการจ่ายปันผลได้ในระดับเดียวกัน แต่ถ้าเกิดมีความไม่แน่นอนของปัจจัยภายนอก เรื่องเศรษฐกิจ หรือภาพรวมของดอกเบี้ยหรือของเฟดที่เค้ามีการปรับเพิ่ม อาจจะมีกระทบเราบ้าง แต่อยู่ในแผนที่เราวางไว้ เราจะมีแผนที่เป็นแผนสํารองอยู่แล้ว าดว่าจะอยู่ได้ในระดับเดียวกับระดับเดิมที่เคยจ่าย
- ครั้งนี้เป็น Oppday ครั้งแรกของเราหลังจากการเพิ่มทุนแล้ว ตัวเลขผลประกอบการไตรมาสหนึ่ง เมื่อเราเพิ่มทุนในวันที่ 25 มีนาคม ตัวรายได้จะเข้าได้แค่ 5 วัน แต่ตัวค่าใช้จ่ายหลัก ๆ ป็น one time อาจจะเทคเข้าไปเต็มหมดแล้ว หลังจากนี้ที่รายได้จะเดินในแต่ละไตรมาสเต็มจํานวน น่าจะมีมูลค่าผลประกอบการที่ดีขึ้น
- แต่อยากให้ท่านนักลงทุนดูเรื่องฐานะการเงินมากกว่าว่ าตัวสินทรัพย์รวมของกองขึ้นไปถึงระดับ 7,000 กว่าล้านแล้ว มูลค่ายุติธรรมสุทธิของเงินลงทุนอาจจะมีการปรับตามการประเมินของผู้ประเมินในช่วงสิ้นปี ถือว่าเป็นกองที่เริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น สภาพคล่องในการซื้อขายในตลาดเท่าที่เห็นเริ่มมีการเคลื่อนไหว เริ่มมีคนมาสนใจซื้อแล้ว
- ตอนนี้ราคาของหน่วยทัศน์เราถือว่าไม่ค่อยสูงมากนัก อยู่ในจุดที่เหมาะสมเพราะเป็นไปตามสภาพตลาดตอนนี้ที่ว่ายังไม่ได้ถึงกับฟูลมาก เพราะฉะนั้นการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนในระดับอย่างที่ผ่านมาจ่ายปีละ 8% เมื่อเทียบกับราคาหน่วยตอนนี้ที่ 8 บาทต้นต้น ถือว่าน่าสนใจสำหรับท่านนักลงทุนสำหรับธุรกิจที่เป็นธุรกิจแห่งเทคโนโลยีในอนาคตแล้วยังมีทิศทางจะเติบโตไปในแต่ละเฟสได้อีกเรื่อย ๆ แล้วกองจะนํามีเสถียรภาพที่สูงขึ้น การจ่ายประโยชน์ตอบแทนน่าจะมั่นคงและยาวนานขึ้น จะฝากท่านนักลงทุนกอง INETREIT ที่เป็นกอง Data Center กองเดียวในประเทศไทย
ที่มา: https://www.youtube.com/watch?v=HooFFbZa-kA&t=96s