สรุปคลิป ฟังคลิปนี้แล้วเป้าหมายชีวิตคุณจะเปลี่ยนไป! กับบทสัมภาษณ์ที่ดีที่สุด ของคุณซัน กระทรวง จารุศิระ

Post Reply
thanonlongtun_p
Posts: 3145
Joined: Mon Apr 17, 2023 1:05 pm

ปัจจัยที่คนส่วนใหญ่ ‘ ไม่ success ’ ในตลาดทุน แล้วต้องออกไปก่อน

พี่ซันบอกว่าหลัก ๆ เลยคือ ‘ คนที่ลืมอดีตไม่ได้ ’ ✖️ 

▶️ ทางแรก : เคยซื้อหุ้นตัวนี้ ณ ราคาเท่านี้ ปรากฏว่ามันขึ้นแล้วก็ขาย ได้กำไร มีความสุขตอนแรก 
พอราคาขึ้นต่อ แต่ลืมอดีตว่ามันมาจากตรงไหนไม่ได้ ทำให้ใจติดกับทุนตอนแรกที่ซื้อไป
ถ้าไม่ใช่ระดับเม่า แต่เป็นระดับคนที่พอมีความรู้เรื่องการอ่านงบ เทคนิค เขาจะมีต้นทุนเปรียบเทียบในใจเสมอ

▶️ ทางที่ 2 : ลงไป 8 บาท แต่ลืมอดีตตอนที่ซื้อ 10 บาทไม่ได้ แล้วก็ปล่อยไปเรื่อยๆจนเหลือ 1 บาท 
ซึ่งพี่ซันบอกว่า..เราต้องยอมรับว่าเกณฑ์การเทรดมันเปลี่ยนเร็วมาก บางวัน Sector Rotation มันเปลี่ยนภายในวันเลย เพราะฉะนั้นคนที่ยึดติดกับ Pattern เดิมๆ หรือ ยึดติดกับ Success story ของคนที่เคยประสบความสำเร็จ จนลืมดูไปว่าบริบท ณ ปัจจุบันมันคนละแบบกัน 

✅เพราะฉะนั้น ก่อนที่จะปรับตัวแล้วมองอนาคต  เราต้องลืมอดีตให้ได้จริงๆซะก่อน

✅ อย่าไปคิดว่าตัวเองไม่เก่ง ความสามารถในการเรียนรู้ของมนุษย์ทุกคนเท่ากัน ถ้าคุณไม่ได้เป็นดาวน์ซินโดรม

พี่ซันยกตัวอย่างว่าเคยเจอ พอร์ต 100 ล้าน โดนไป 50 ล้าน หายไป 30% ลงภายในแค่ 3-4 วัน นี่ท้อนะ
แต่การเทรดของวันนี้คือวันนี้ ต้องจบ และ การเทรดของวันพรุ่งนี้ก็เป็นของวันพรุ่งนี้

การลืมอดีตให้เหมือนไม่เคยเกิดขึ้น เรื่องนี้พี่ซันบอกว่าพูดง่ายแต่ทำยาก เพราะมันต้องเจอกับความผิดหวังที่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า.. แต่คนที่ลุกขึ้นมาได้ มันจะผ่านความรู้สึกของ Bottom ทางจิตใจ แล้วมันจะกลับมาได้

มีน้อยคนมากที่ไม่เคยโดนกระทืบ ส่วนใหญ่ถ้าไม่เคยโดนกระทืบก็คือไปเรียนรู้จากความผิดพลาดของคนอื่น  แต่การเรียนรู้ความผิดพลาดจากตนเองมันจะตราตรึง ส่วนคนที่เรียนรู้ความผิดพลาดจากคนภายนอกจะมีต้นทุนการซื้อความรู้น้อยที่สุด

การลืมอดีตมันยาก เพราะความรู้สึกของมนุษย์ทุกคนมันดิ่งหาความทุกข์..

- พี่ซันปั้นคนมาเยอะมาก แล้วคนแบบไหนที่พี่ซันมองว่าปั้นได้❓

อย่างแรกเลย คือ สายตาของคนกลุ่มนี้จะไม่เหมือนคนทั่วไป ความมุ่งมั่นและความกระหายจะเยอะกว่า
‘ ปัจจัยที่คนหนึ่งจะ Success ขึ้นมาได้มันต้องมีความกระหายมากกว่าคนอื่น ’ คนที่ยืนแถวหน้าได้จะมีแรงผลักดันมากกว่าคนปกติ อยู่ที่ว่าจะใช้ในทางที่ถูกหรือทางที่ผิด

ความหิวไม่ใช่ไม่ดี แต่มันเป็นเรื่องของพลังภายใน คนที่ไปยืนแถวหน้าได้ทุกวงการ เขาจะมี motivation มี passion และเขาไม่จำกัดกรอบตัวเองให้อยู่ในจุดเดิม เขาไม่ได้พอใจในcomfort zone แต่เขาปรารถนาที่จะไป The Next Target ที่มันใหญ่กว่า

คนเราที่เข้ามาตอนแรกจะมี Motivation กันทุกคน
คนกลุ่มแรก.. จะท้อง่ายมาก เพราะอาจจะต้องการความสำเร็จในระยะเวลาอันรวดเร็ว 
แต่คนอีกกลุ่ม.. จะไม่เป็นไร เอาใหม่ ขาดทุนช่างมัน เดี๋ยวเอาใหม่
นี่คือ ความแตกต่างของคน 2 กลุ่ม

✅ Mindset และ วิธีการปั้นพอร์ต หลักแสนสู่หลัก 10 ล้าน VS หลัก 10 ล้านสู่หลัก 100 ล้าน

ปี 2545 พี่ซันเข้ามาเล่นตอนมีเงิน 2แสนบาท จากการอ่านหนังสือของดร.นิเวศน์ เลยซื้อตัวเดียวก่อน ปี2545-2546 ปีนั้นหุ้นขึ้น เลยได้ผลตอบแทนมา 50%   ทำให้พอร์ตมีเงิน 340,000 ไม่รู้ว่าตอนนั้น Market Timing มันดี แต่พอเทรดไปรู้สึกว่า Margin of Safety ของธุรกิจที่เราซื้อมันน้อยลง ก็ขายออกไป แล้วกว่าจะหาตัวที่ก็ยาก

เลยเปลี่ยน Mindset ใหม่ ว่าเราต้องเข้าใจว่าบางอย่างมันไม่มีเหตุผลหรอกในตลาดหุ้น เราจะเห็นหุ้นที่มันติด Top Gainer ทุกวัน หน้าที่ของเราคือเราจะเอาเงินไปใส่ก่อนที่มันจะเป็น Top Gainer ได้ไหม ? นี่คือโจทย์ ‼️
การที่พอร์ตเราน้อย เราต้องเกาะกระแสหุ้นซิ่งไปทุกๆวันให้มากที่สุด แล้วหมุนรอบให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และไม่ติดหุ้นเด็ดขาด เพราะถ้าติดหุ้นจะไม่มีกระสุนแล้ว

ซึ่งพี่ซันนั่งเฝ้าTicker และช่วง3ปีนั้นหุ้นซิ่งเยอะมาก ทำให้พอร์ตโตแตะถึง 5 ล้านบาทได้

📌 Tips💡 

ช่วงอายุ 20 ปีแรก : ปูพื้นฐาน
ช่วงอายุ 20-40 : ลองผิดลองถูก
ช่วงอายุ 40-60 : เอาสิ่งที่เรียนรู้มาปฏิบัติ

พอ Hamburger Crisis พอร์ตแตก จาก 5ล้าน ลงมาเหลือล้านเจ็ด จากการดูกราฟไม่เป็น การค่อยๆซึม ไม่ได้ crash ทีเดียว 

พี่ซันก็ได้อ่านหนังสือของดร.นิเวศน์ ‘ ตีแตกหุ้นในภาวะวิกฤต ’ จะรู้ว่านี่คือโอกาสที่ดีที่สุดที่อาจจะ 10-20 ปี จะเกิดได้ครั้งนึง เราต้องหาม้าเต็ง❗️

แก่นของหนังสือตีแตก คือราคาของหุ้นมันเคลื่อนที่แบบ Dynamic ไม่มีหุ้นตัวไหนที่ราคาจะคงที่ตลอดไป 
เราเชื่อว่าเราลงทุนในธุรกิจ ไม่ใช่การพนัน 

พี่ซันบอกว่าเลือกที่จะไม่ทำธุรกิจที่บ้านคือร้านทอง เพราะมองว่า Key of success ของธุรกิจมันต่างกันเกินไป มองว่าการเล่นหุ้นง่ายกว่า

การสร้างความเชื่อมั่นและความหวัง พี่ซันบอกว่ายังมีความรู้เรื่อง Market Cycle จากการอ่านหนังสือ เรื่อง Market Wizards ตีแตกของอาจารย์นิเวศน์ และเชื่อว่าตอนนั้นอายุยังน้อย เรายังมีรอบ Market Cycle ของตลาดที่จะทำให้พลิกฐานะได้ 

แต่ก่อนที่จะเสี่ยงอะไรก็ตามเราต้อง Build Buffer ตัวเองก่อน ต้องมีเบาะรองรับ อย่างพี่ซันต่อให้ล้มยังไงก็มีครอบครัวsupport กลับบ้านมายังมีข้าวให้กิน เพราะฉะนั้นก่อนจะ big shot เราต้องมี skill มีความสามารถในการเรียนรู้และปรับตัว

อย่าไปมองอนาคตแล้วให้มันถูกปกคลุมด้วยความกลัว มองว่ามันเป็นเรื่องท้าทาย 

📌ตลาดเปลี่ยน Player เปลี่ยน บริหารจัดการยังไง ❓

จากล้านเจ็ดกระโดดไปหลักสิบล้านด้วยการลงทุนหุ้นตัวเดียวคือ CPN ต่อด้วย AOT  
CPN ซื้อแถวประมาณ 4.30 บาท ขายตอน 47 บาท แล้วใช้ Margin ช่วยอัด
AOT ซื้อตอน Break all time high ประมาณ 90 บาท ก็คือ 9 บาท แล้วไปขายแถว 250 บาท
2ช็อตที่ต่อกันสักประมาณ 3,000% แต่พอใช้ Margin ตอนนั้นน่าจะได้ประมาณ 4,000-5,000% พอร์ตเลยกระโดดขึ้นมาเลย

📌แทนที่จะ All in ทำไมถึงไม่ทยอยซื้อ❓

พี่ซันบอกว่าจริงๆ All in มาตลอดชีวิต ตั้งแต่พอร์ต 2-3แสน ตอนเจ๊ง SCG ก็ All in เพราะฉะนั้นไม่มีการแบ่งไม้ซื้อ 

แนวความคิดว่าทำไมต้อง All in พี่ซันบอกว่าหนังสือตีแตก มีอิทธิพลกับความคิดมาก พอๆกับหนังสือ Rich Dad Poor Dad ของ Robert Kiyosaki อยากรวย All in เท่านั้น‼️ ไม่มีท่าอื่น

พี่ซัน ‘ ไม่เชื่อเรื่องกระจายความเสี่ยง ถ้าพอร์ตยังไม่ใหญ่พอ ’

แต่ต้องคิด 2 ทาง ถ้าเลือกถูกตัวได้นอน Penthouse แต่ถ้าเลือกผิดกลับไปนอนข้างถนนรึเปล่า ถ้าผิดอย่างน้อยที่สุดต้องมี In the worst case scenario ถ้าต้องกลับไปนอนข้างถนน ต้องลด position เลย สร้างเบาะรองรับไว้ตอนที่เราล้มด้วย อย่างน้อยต้องไม่อดตาย

📌 คำแนะนำสำหรับคนที่อยู่ตลาดมา 20-30 ปี แต่ไม่ success

เรื่องของการ Drive เราต้องดูบริบทเราด้วย ต้องสำรวจบริบท สิ่งแวดล้อมในชีวิตตัวเอง แล้วเลือกวิธีการที่มันเหมาะสม 

เราต้องยอมรับว่าเกมส์ มันมี Motivation มันมี Timing ของมัน

📌ถึงคนที่อยากออกมาเป็น Full time Trader

อย่างแรก  “ อย่ามองว่าการที่เข้ามาเทรดหรือลงทุน เป็นทั้งหมดของชีวิต ”
ถ้าเด็กจบใหม่แนะนำให้ไปเป็นลูกจ้างเพื่อเรียนรู้ระบบงานก่อน แล้วดูว่าสิ่งที่เราไปเรียนรู้เพิ่มเติมจากการทำงานมันมีอะไรได้บ้าง ในขณะเดียวกันก็ค่อยเรียนรู้การลงทุนไปด้วย 
แต่ถ้าคิดว่า มันเป็น The point of no return ในชีวิต ก็ต้องใส่สุด แต่ต้องให้เวลากับตัวเอง อาจจะ 2 ปี หรือ 3 ปี ต้องมีทางลง

ที่มา: 

https://m.facebook.com/story.php?story_ ... tid=qC1gEa 


 
 
Post Reply