ธุรกิจที่เป็นสัดส่วนหลักของบริษัท ได้แก่ ธุรกิจ Mobile
ธุรกิจ Mobile ยังเห็นโมเมนตัมที่ดีในไตรมาสที่สอง ต่อเนื่องมาจากไตรมาสที่หนึ่งหลัก ๆ ยังเป็นเรื่องของผลจากการที่มีการปรับโครงสร้างแพ็คเกจในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ตอนนี้ก็ถือว่าครบรอบการปรับเปลี่ยนแพ็คเกจระยะเวลาประมาณหนึ่งปีแล้วเราเห็นว่าลูกค้าตอบสนองกับการปรับโครงสร้างแพ็คเกจนี้ แล้วส่งผลโมเมนตัมให้รายได้ของ Mobile เนื่องจากพอมีแพ็กเกจที่ดึงดูด และมีความหลากหลายมากขึ้นตอบโจทย์ผู้บริโภคตามความต้องการแล้วทําให้ธุรกิจ Mobile สร้างรายได้เพิ่มเติมมากขึ้น
สุดท้าย ธุรกิจ Digital Service ที่ AIS มาใช้เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งและเสริมสร้างประสบการณ์การใช้งานให้กับลูกค้าทั้งสามกลุ่มแรกที่ได้กล่าวไปทั้ง Mobile Fixed Broadband และ Enterprise ยังเป็นสัดส่วนรายได้ที่ค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับตัวอื่น ๆ
ผลประกอบการ Q2/2024
รายได้บริการหลักหรือว่าเซอร์วิสเรเวนิวมีการเติบโตขึ้นทั้งสามธุรกิจหลักเลยไม่ว่าจะเป็น Mobileเอฟบีบีฟิค Broadband แล้วเวนเตอร์ไพรส์ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ co service revenueโดยรวมรายได้การให้บริการหลักเติบโตขึ้น 19% ในไตรมาสนี้เทียบกับปีก่อน ส่วน Cost เนื่องจากรายได้เติบโตได้ดี นจะเห็นได้ว่าที่ทําให้ ฎEBITDA เติบโตมากขึ้น นํามาโดยรายได้รวมที่เติบโตขึ้น 15% YoY
ในส่วนของ Enterprise ยังเป็นเรื่องของ GSA Data Center ที่เป็น Data Center ที่สร้างร่วมกับ GULF และ Singtel ยังอยู่ในช่วงของการก่อสร้าง Data Center คาดว่าจะเปิดใช้งานได้ในช่วงต้นของไตรมาสสองปีหน้า
แล้วเรื่องสุดท้าย Digital Business ที่เป็น Key Business ใหม่ที่พยายามมีพาร์ทเนอร์แล้วพยายามที่จะมุ่งเข้าไปสู่ธุรกิจใหม่ ๆ ในการให้บริการนอกเหนือจากสามธุรกิจหลักคือ Virtual Bank ตอนนี้ปัจจุบันแบงค์ชาติอยู่ในระหว่างการรับสมัครจนถึงช่วงเดือนกันยายปีนี้ อันนี้ก็ต้องมาติดตามความคืบหน้ากันต่อหลังจากนี้
ธุรกิจ Cloud Data Center ในระยะยาวเป็นอย่างไร AIS มีโอกาสที่เติบโตในธุรกิจมากน้อยแค่ไหน
ในประเทศไทยมีการคาดการณ์ว่าธุรกิจ Data Center กับ Cloud เป็นธุรกิจที่น่าสนใจมาก และมีการเติบโตที่สูงเพราะว่าในอนาคต Demand จะมาอยู่แล้วเพราะทุกคนต้องการการเก็บข้อมูล การประมวลผลผ่าน Cloud หรือบางองค์กรจะต้องมีแบ็คอัพข้อมูล ดังนั้น Data Center น่าจะเป็นเทรนด์ที่มาแรง ทุกคนต้องมีการแบ็คอัพข้อมูลที่เก็บเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อยู่แล้ว ประเทศไทยคาดการณ์การเติบโตอ CAGR ที่ 20%
ซึ่งถึงแม้ว่าตอนนี้มีรายใหญ่ที่พยายามจะเข้ามาในธุรกิจนี้มากในไทย ซึ่งมองว่าเป็นสัญญาณที่ดีเพราะว่าการที่เขามองประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดที่เขาอยากจะสร้างData Center แสดงว่าเขาต้องเห็น Demand เหมือนกับเรา
ซึ่งจุดยืนของเราคืออยากจะให้ผลิตภัณฑ์ที่มีความครบสมบูรณ์พอร์ตโฟลิโอ ซึ่งลูกค้าจะมีความต้องการหลายหลายความต้องการอยู่แล้ว แต่เราวาง Position เป็น คนที่มีความสมบูรณ์ ครบเครื่อง และอยู่ในจุดที่มี Competitive Advantage ที่จะแสดง Position ของเรา ในฐานะที่เป็นบริษัทโทรคมนาคมที่จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ ปัจจุบันรายได้จาก Data Center ยังน้อยอยู่ ซึ่งจะเห็นว่าสามารถเติบโตได้
ส่วนเรื่อง Cloud เรามองตัวเองเป็น Multi Cloud Solution มองเราเป็นพาร์ทเนอร์ของลูกค้าองค์กรหรือลูกค้า SME หรือลูกค้าบุคคลในทุก ๆ รูปแบบ เราวางเหมือนกับเป็นแพลตฟอร์มตรงกลางที่สามารถเชื่อมความเชื่อมต่อให้กับลูกค้าที่มีความต้องการหลายความต้องการได้
Virtual Bank
ตอนนี้ยังอยู่ใน Process ของการรอ Summit แอปพลิเคชัน ภายในกันยายน