Re: [COM7] บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน)
Posted: Fri Aug 23, 2024 5:49 pm
สรุปคลิป Oppday Q2/2024 COM7 บมจ. คอมเซเว่น
สรุปผลประกอบการ
- ยอดขายยังโต ไตรมาสสองเทียบไตรมาสสองปีที่แล้วโตอยู่ 15%
- ส่วนไตรมาสสองเทียบไตรมาสสองปีที่แล้วในมุมของกําไรโตขึ้นมา 7%
- ปิดยอดขายที่ 18,000 ล้าน กําไร 752 ล้าน
- ยังไงไตรมาสสองคงจะสู้ไตรมาสแรกไม่ได้ เพราะไตรมาสหนึ่งจะได้อานิสงส์เต็ม ๆ จากไอโฟน
- สมาร์ทโฟนลีด เคยเป็น 54% ตอนนี้ขึ้นมา 59%
- Tablet เคยเป็น 18% ลงมาเหลือ 15%
- ได้แก่ Solar Cell Cloud Service และ AI
- ค่าไฟแพง ค่าไฟในประเทศไทย ขึ้นเป็นอันดับ 3-4 ของ South East Asia
- solar cell ไทย ตอนนี้จริง ๆ ตลาดไม่เล็ก ปีที่แล้วแตะ 60,000 ล้านบาท กำลังโตต่อเนื่องด้วย
- เราเลยอยากจะลองทํา solar cell เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่เราพยายามจะเริ่มขึ้นมาใหม่
- เราอยากทำตัวเป็ศุนย์กลาง solar cell ในต่างจังหวัด เช่น อุดรธานี ชลบุรี พัทยา ขอนแก่น ให้เห็นว่าเราเป็น expert เรื่องโซลาร์เซลล์ ใครอยากติดตั้ง ใครอยากปรึกษาเรื่องนี้ เชิญที่ร้านได้เลย
- อันนี้เป็นโมเดลที่ทําไปเรียบร้อยแล้ว
- ถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหม่ เรื่องเกิดจากว่าไปจับมือร่วมกับ AWS เนื่องจากอเมซอนเป็นบริษัทต่างชาติ เราเลยเข้าไปช่วยในเรื่องของการทํา localizing เรื่องของการทํา local transaction ทั้งหมด แค่นั้นเลย
- ซึ่งการทําแบบนั้น ไม่ได้ added value อะไรให้กับอเมซอนอยู่แล้ว ฉะนั้นคุยต่อว่า แทนที่จะจบแค่นี้ ในเมื่อลูกค้าจ่ายคุณแล้ว คุณ add service อะไรให้ได้ไหม เลยเริ่มมาทําสองสามอย่าง
- เอา Generative AI ของ AWS มาพัฒนาเครื่องมือใหม่ ชื่อ Magic สำหรับลูกค้าที่อยากตั้งแบรนด์ ตั้งบริษัท ทำโพสต์ ตัวนี้จะเข้ามาช่วย
- แบ่งค่าบริการ Cloud เป็นหน่วยย่อยๆ ตัดบางฟีเจอร์ ลดไซส์ ลดราคาแพคเกจจากเดือนละสามพัน เป็นแพคเกจแค่ร้อยกว่าบาทต่อเดือน
- QR Code นามบัตรดิจิทัล
- ทำ Website
- เราพยายามช่วยทำให้ AWS mass มากขึ้น และเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น
- สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เราโยนลงไปหน้าร้าน การทำ cloud ต้อง one on one บางสาขา มีไว้เพื่อต้อนรับลูกค้า aws ทั้งหมด
- แต่เราคนเดียวก็ไม่ไหว จึงอยากเปิดรับ ISV เข้ามาช่วยกันพัฒนา Software base on AWS
- โดยเราจับมือกับ depa เพื่อให้ cloud มีความ advance ขึ้น มี feature ที่น่าสนใจมากขึ้น ตอบโจทย์ประเทศไทยมากขึ้น ให้สุดท้ายแล้วลูกค้าสามารถเข้าถึงได้จริง ๆ
- มีคํากล่าวว่า Gen AI จะเข้ามาเพื่อที่จะเป็น shift ที่สาม หมายความว่าเคยมี อินเทอร์เน็ต เราเคยมีโมบายที่เป็น device ที่เป็น shift ใหญ่ ๆ รู้สึกเหมือนว่า Generative AI น่าจะเข้ามาเป็นshift ที่สามได้ เพราะว่าใกล้ตัวมาก
- ทีนี้ ต้องมองว่าการที่เข้ามา เราเอามาใช้ยังไง หนึ่งในหลาย ๆ use case อันหนึ่งคืออยากจะให้มา Transform Retail Industry จะมาเปลี่ยนมุมมอง ในอุตสาหกรรมรีเทลอย่างCOM7ได้อย่างไร
- ถ้ามองดี ๆ แล้ว ไม่ได้เป็นเรื่องใหม่ เราเห็น AI ตั้งนานแล้วยุค 1997 ตั้งแต่มี AI มีพยายามที่จะเลียนแบบมนุษย์ จนกระทั่งใกล้เคียงมนุษย์เข้าไปเรื่อย ๆ
- วงเล็กสุดซึ่งคือ Generative AI จะยิ่งใกล้ใกล้ความเป็นมนุษย์มากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งฮอตมาก แล้วอันนี้ทุกคนคงทราบดีคือหลังจาก Open AI ออกตัว ChatGPT ออกมา และ Google ออกตัวที่เป็น Gemini 1.5 Pro ในช่วงไตรมาสหนึ่ง Apple ไม่ได้น้อยหน้า ตามมาติดติดเหมือนกัน
- หากพูดถึง AI หรือ Generative AI อย่างเดียว แล้วไม่ได้เกี่ยวกับเรา วันนี้คงไม่สนุกเพราะว่าคงพูดได้แต่เรื่องของว่าทําอะไรได้บ้าง
- ซึ่งในมุมมองของธุรกิจ ที่จะโตไปข้างหน้า ต้องเอามา Apply จะใช้ยังไงที่จะ Drive Revenue Growth ได้
- ต้องบอกว่าเป็นเรื่องใหม่ และเราต้องใช้การแสวงหาความรู้ค่อนข้างมากเพื่อที่จะไม่ให้เฉไป
- ข้อดีคือบังเอิญ Apple Intelligence ฝังอยู่ ไม่ได้แค่ในฮาร์ดแวร์ แต่จริง ๆ แล้วฝังอยู่ในในซอฟต์แวร์ ไม่ว่าจะเป็น ios 18.1 หรือiPadOS หรือแม้กระทั่ง macOS Sequoia ซึ่งอันนี้ Apple เคลม ว่าเป็น in house หมายความว่าของคนอื่นเขาอาจจะมีโมเดลแล้วทุกคนไปขอใช้แต่ Apple in house เอง ตั้งชื่อตอนแรกแรกว่า M4M คือ Multimodel นั่นเอง ซึ่งคงจะเห็นแน่ ๆ แล้วเร็ว ๆ นี้ ปัจจุบัน Apple ไม่ได้ ไม่ได้ออกห่างจากเรื่องนี้ ยังคงพูดยังคงย้ำเรื่องนี้ มีมาเสมอ
- เพราะฉะนั้น Apple Intelligence มาด้วย Privacy แน่นอน คือเป็น Privacy in AI on Device อันนี้ว่าดีมาก on Device หมายความว่าไม่ได้ออกไปข้างนอก จะเข้าใจบริบทของของเจ้าของเครื่อง ขณะเดียวกันเข้าใจด้วยความฉลาดด้วย แล้วขณะเดียวกัน ป้องกัน เรื่องของความเป็นข้อมูลส่วนบุคคลนั่นเอง
- ChatGPT Integration Apple บอกมา แต่ยังไม่เห็นว่าจะเป็นอย่างไรแต่แต่ทั้งหมดทั้งปวงนี้เชื่อว่าสิ่งที่จะออกมาในเร็วเร็วนี้เราจะได้รับอานิสงส์
- Apple พยายามทําให้สามารถที่จะมี AI ฝังอยู่ใน ios
- ถ้าเกินจากนั้นจะวิ่งออกไปข้างนอก แต่ยังวิ่งอยู่บนสิ่งที่เรียกว่า Private Cloud ไม่ได้ออกทะลุไปข้างนอก ซึ่งทุกคนจะต้องรู้ว่าทําอะไรบ้าง
- ส่วนหนึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้วระดับอานิสงส์อยู่คือเป็น AI ที่มาจาก Apple Intelligence
- ในส่วนของคิดวิธีที่จะที่จะทํายังไงให้ Generative AI มาเป็นเครื่องมือที่จะเพิ่มยอดขาย
- เราการจับมือกับ AWS อยู่ในหลายมิติ หนึ่งในมิตินั้นคือฝั่งที่เราจะต้อง built ด้วย ปัจจุบันเราเลือกใช้ Stack ที่ชื่อว่า Amazon Bedrock
- โมเดลที่ใช้เลือกใช้ คือ Titan และ Claude
- ไม่ว่าจะเป็นการซื้อสินค้าในรูปแบบการผ่อน อันนี้จะไม่เกี่ยวกับเรื่องของการซื้อสินค้าโดยขอ Credit Score จากบูโรที่ได้มาเป็นตัวเลขทางด้านการเงิน แต่อันนี้จะเป็นเหมือนในทาง Behavior เขา เพศหญิงหรือชายเขา อายุเท่าไหร่ พฤติกรรมทางการเงินเป็นอย่างไร ซึ่งอันถ้ามี Data ที่ดี Ai สามารถช่วยได้ในเชิงของ Machine Learning ได้ด้วย ซึ่งเรากําลัง POC ซึ่งผลออกมาได้ดีมาก
- ยกตัวอย่าง จํานวน Data 100,000 แถวแล้วอยากรู้ว่าใครจะเป็นคนดีหรือไม่ดีค่อนข้างยากที่จะใช้ตาดู
- ถ้าหากว่า เราลองใส่พารามิเตอร์ ว่าถ้าเขาขอผ่อน 24ดือน โดยที่ขอจํานวนเงิน 40,000 บาท ปรากฏว่า อายุ 23ปี แล้วดาวน์ 0%
- พอทํา Prediction แล้วปรากฏว่า Confident Score ซึ่งอยู่ด้านขวามือของท่าน เห็นเลยว่าอะแสดงว่ามีความมั่นใจที่จะเป็นคนดีอยู่แค่ 0.56% คือประมาณครึ่งกว่า ๆ
- แต่พอเปลี่ยนพารามิเตอร์ใหม่ อันนี้สามารถให้เรียนจาก Data แล้วให้รู้ด้วยว่า ถ้าเปลี่ยนพาริเตอร์เป็นว่าไม่ได้ ผ่อน 24 ดือน ขอแค่18เดือน แล้วเงินขอน้อยลงด้วยเหลือแค่25,000 บาท แล้วดาวน์ 20% จะสังเกตว่า machine learning สามารถที่จะพยากรณ์ไปว่า ชั้นมั่นใจถึง 0.96% หรือโดยนัยคือ คนนี้ใช้ได้ ฉะนั้นอันยังอยู่ในขั้นตอนที่เราต้องให้ machine เข้าไปเรียนในใน data ที่มีอยู่ปัจจุบัน ซึ่งกําลังเก็บ data เยอะมาก
- อันนี้จะเป็นอีก use case หนึ่ง ซึ่งเราน่าจะได้ใช้ทั้ง AI ในเชิงของMachine Learning และ Generative AI ในการที่จะบูสต์ยอดขายกันมากขึ้น เพราะจะรู้จักลูกค้าเรามากขึ้น
- ของหน้าร้านเปลี่ยนเร็ว Promotion ก็หลากหลาย ยากมากที่ทำให้พนักงานหน้าร้านทุกคนรู้เรื่องเดียวกัน
- Generative AI สามารถมาช่วยเราได้ ผ่านโมเดล Shopping Assistants
- เอาโมเดลตัวอย่างมาให้ดู พนักงานสามารถเข้าไปใช้และถามได้เลย ข้อมูลที่เราเก็บไว้จะขึ้นมาหมดเลย เช่น ขอให้ช่วยเปรียบเทียบกล้องของโทรศัพท์แต่ละรุ่น เปรียบเทียบราคา หรือถามว่า ลำโพงที่เอาไปใช้นอกบ้านได้ หรือ ถามถึงโปรโมชันของแต่ละธนาคาร ข้อมูลก็จะขึ้นมาเลย ทำให้พนักงานหน้าร้านตอบคำถามลูกค้าได้ดีเยี่ยมยิ่งขึ้น
iPhone 15 รุ่นปกติ ไม่สามารถใช้ Apple Intelligence ได้จะทําให้COM7 ขายไอโฟน N ได้ลดลงไหม
- เป็นไปได้ ถ้า M เป๊กห่างกับ Nเยอะ ๆ เป็นไปได้
- แต่ N ทุกรุ่นใช้ AI ไม่ได้หมดเลยใช่หรือเปล่า ไม่ใช่
- แต่คําถามคือแล้วสุดท้ายทําให้ยอดขายหายไหม อาจจะมีส่วน
- ใช่ ปีนี้แอปเปิ้ลทําแรงเหมือนกัน แต่เราเลือกที่จะเลี่ยง ไม่ทํา เพราะของไม่พอขายอยู่แล้ว ถ้าของไม่พอขายอยู่แล้ว จะไปเล่นโปรแข่งคงไม่มีประโยชน์ เราวิเคราะห์กันแล้วเคาะว่าไม่ทำดีกว่า
- เห็น Android AI มาพอสมควรแล้ว แต่ Apple AI เรายังไม่เห็นแบบเต็มตัว
- แต่ถ้าถามว่าเห็น Potential ไหม ก็ต้องบอกว่าเห็นแน่นอน จะเป็น Shift ใหม่ของ Device ประเภทโทรศัพท์มือถือของเรา เหมือนที่เราอินเข้าสู่ Facebbok, Line ที่ในที่สุดเรื่องนี้จะมีเป็นส่วนหนึ่งของเรา
- อย่างที่บอกว่ายอด Smart Phone เทียบปีโต 20% หัวหอกในการโตหลัก ๆ ต้องบอกว่าแอนดรอยด์ด้วยเพราะแอนดรอยด์เขาปล่อยของมาแล้ว ก็หวังว่าครึ่งปีหลัง Apple จะปล่อยของบ้าง
- มี เราแยกสองส่วน การที่น้องได้รายได้จากการขายเครื่องหนึ่งเครื่อง ทําอยู่สองจ๊อบอันแรกคือการขายของ อีกจ๊อบหนึ่งคือการ handling รายได้ที่ได้มาคือแบ่งสองก้อน ถ้าเกิดขายหน้าร้าน ได้สองก้อนเลย เพราะเขาต้องขาย แล้วเป็นคนจัดการเครื่อง
- แต่พอเป็นออนไลน์เขาไม่ได้ขาย เพราะไม่ได้ขาย ในการจัดการเครื่องทั้งหมด เขายังเหมือนเดิม แล้วเงินไม่หายด้วย
- ต้องบอกว่าจริง ๆ เขาทำก่อนเรา ไส้ในจริง ๆ แล้วของไม่เหมือนกัน
- จริง ๆ ต้องบอกว่าเรา aware รับทราบเลยแหละว่าเขาจะไปไหนบ้าง
- เราเริ่มมาทําข้างนอก เราก็มีแผนตั้งรับเช่นกัน เรามีทั้งในห้างและนอกห้าง
- แต่เชื่อว่า Movement นี้ ดีสำหรับ Apple ลูกค้าก็จะได้ Journey ที่ดีขึ้น
- ถ้าไปดูในไส้อาจจะเห็นเลยว่าสินค้าที่เป็นตัวหลักที่โตคืออะไร คือแอนดรอยด์ฉะนั้น ปีที่เรารีโนเวทเยอะ ๆ คือฝั่ง Studio7 พอพอปี สินค้าฝั่งฝั่งแอนดรอยด์โต เลยไม่ได้ imply อะไรกันจากฝั่งนี้
- ถ้าจะดูดีดีจะเห็นเลยว่าไอแพดตก แท็บเล็ตตก เพราะว่าไม่มีของขาย ต่อให้มีร้านเปิด แต่ไม่มีของขาย หนักยิ่งกว่า เพราะเข้าเนื้อ
- ถามว่าเป็นแต้มต่อไหม จริง ๆ ถ้าทุกอย่างเป็นนอร์มอล ใช่เป็นแต้มต่อ แต่เผอิญมีปัญหาเรื่องของขาดเข้ามา เลยอาจจะไม่ได้แต้มต่อขนาดนั้น
- Store Growth เรา ยังโตอยู่ แต่ไม่โตแรงแบบเมื่อก่อน แต่เรายัง control ได้อยู่อีกทั้งอัตราส่วนการทำกำไรเราไม่ได้แย่ลง อยู่ใน Aware ของเราอยู่
- แนวโน้มก็ต้องแก้ไขให้ดีขึ้น ต่อสัดส่วนของรายได้
- สิ่งที่เราโฟกัสเป็นหลักคือ Manage Market Share ในประเทศ by week ดังนั้น วีคไหนตก Apple จะ Alert เรา แต่ที่ผ่านมาไม่ได้โดนสัญญาณอะไรจาก Apple
- ทิศทางยังแน่นแฟ้น เหมือนเดิม ผลการดำเนินงานกับ TRUE ดีขึ้นเรื่อย ๆ
- เพราะดอกเบี้ยแพงขึ้น เมื่อก่อนเราเลือกจ่ายสด เอาส่วนลด พอดอกเบี้ยแพง บางเจ้ามองว่าจ่ายสดไม่คุ้ม เลยเปลี่ยนเป็น Term ถ้าอันไหนคุ้มกว่า เราจะเลือกอันนั้น เพราะปีแล้วดอกเบี้ยจ่ายเราขึ้นมาหลายสิบล้าน ปีนี้เลยโฟกัส
- เดือนกรกฎาคม ไม่ดี ไม่แย่ ปกติเดือน กรกฎาคม สิงหาคม เป็นเดือนที่เรารอเปิดตัวสินค้าใหม่เดือนกันยายน
- ต้องบอกว่า เพิ่งกำลังเข้ามา แต่สิ่งที่เราได้จาก Device ที่จะออกมาพร้อมกับ AI บน Apple / Android มันจะไต่ขึ้นไปเรื่อย ๆ และกระชากแรกจะเห็น impact แน่นอน