ผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ปี 2566 หุ้น AWC
ที่มา: บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
[ AWC ] บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน)
-
- Posts: 3145
- Joined: Mon Apr 17, 2023 1:05 pm
Oppday Q3/2023 AWC บมจ. แอสเสท เวิรด์ คอร์ป
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://listed-company-presentation.set ... h/vdo/5941
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://listed-company-presentation.set ... h/vdo/5941
-
- Posts: 3145
- Joined: Mon Apr 17, 2023 1:05 pm
ผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2566 หุ้น AWC ที่มา: Globlex Research
-
- Posts: 3145
- Joined: Mon Apr 17, 2023 1:05 pm
Oppday year-end 2023 AWC บมจ. แอสเสท เวิรด์ คอร์ป
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://listed-company-presentation.set ... h/vdo/7645
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://listed-company-presentation.set ... h/vdo/7645
-
- Posts: 3145
- Joined: Mon Apr 17, 2023 1:05 pm
สรุปคลิป Oppday year-end 2023 AWC บมจ. แอสเสท เวิรด์ คอร์ป
ผลการดำเนินงานปี 2023 เป็น All-Time High
- EBITDA +19% จาก 8,405 ล้านบาท เป็น 10,639 ล้านบาท
- กำไรสุทธิ +49% จาก 3,981 ล้านบาท เป็น 5,105 ล้านบาท
- ADR +11% จาก 4,823 ล้านบาท เป็น 5,661 ล้านบาท
- REVPAR +55% จาก 2,363 ล้านบาท เป็น 3,658 ล้านบาท
- เปลี่ยนแปลงทรัพย์สินที่กำลังพัฒนอยู่ ให้เป็นทรัพย์สินดำเนินงาน ซึ่งจะเกิด EBITDA
- เร่งเปลี่ยนผ่านทรัพย์สินเพิ่งเริ่ม ให้เป็นทรัพย์สิน BAU มากขึ้น
- จะเห็นว่า ปี 2023 มีทรัพย์สินBAU เพิ่มขึ้น 1.7 จาก 3,500 ล้านบาท เป็น 21,116 ล้านบาท และ ทรัพย์สิน RAMP-UP จาก 73,693 ล้านบาท เป็น 81,871 ล้านบาท
- กลุ่มโรงแรม จำนวนห้อง +76%
- กลุ่มธุรกิจ Leasing +39%
- เป้าหมาย 2024 จะมีทรัพย์สิน operating มากขึ้น 1.9 หมื่นล้าน หรือ 18 โปรเจค และ จะมีโปรเจคที่ขออนุมัติเพิ่มขึ้น 1.7 หมื่นล้าน หรือ 3 โปรเจค ทำให้มี Mature Asset Growth > 30%
- งบงทุน 2024-2028 1.26 แสนล้าน
- 2019-2023 ADR เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเราอยู่ในกลุ่ม High Quality Segment ผลักดัน ADR ต่อเนื่อง เราเป็นกลุ่มแรกที่ได้ประโยชน์จากการกลับมของลูกค้ากลุ่ม highest purchasing power
- Occupancy Rate ขยับดีขึ้นต่อเนื่อง เรามี Global Network ฐานลูกค้าพันธมิตรเหนียวแน่นกว่า 600 ล้านคนทั่วโลก และ เรามี RGI อยุ่ในระดับ Top เป็นช้อยส์แรกของลูกค้าเสมอ
- Cost Management ให้ไม่เกิน 60%
- ARR ขยับดีขึ้น จาก traffic ที่มากขึ้น ปรับปรุง positioning ของโครงการ
- Occupancy Rate เติบโตจาก new lifestyle trend และ property เราอยู่ใน prime location
- Cost Management ให้ไม่เกิน 80-90%
- เปิดโรงแรมใหม่ เช่น Intercontinental Chiang Mai The Mae Ping / Chiang Mai Marriott Hotel
- เดินหน้าพัฒนาความร่วมมือกับ Partnership เช่น Sustainability Linked Loan กับ SCB และ CIMB
- ระยะสั้น -> การเติบโตจากทรัพย์สินที่เราเพิ่งเปลี่ยนมาเป็น operating assets ผลักดัน EBITDA
- ระยะกลาง -> เปิดโปรเจคใหม่
- ระยะยาว -> เปิดโปรเจคใหม่ + Growth Fund Model
- Growth Fund With Call Option ลงทุนกับ TCC Group ไม่เกิน 18%
- JV With Global Investor กับ Partner ระดับโลก มูลค่า 10,800 ล้านบาท
- Development >90% เป็น freehold asset / demand นักท่องเที่ยวมากขึ้น / ราคามากขึ้น
- Ramp-up มี chain เยอะ มีลูกค้ามากพอที่จะ drive growth / ทรัพย์สินมีคุณภาพ
- Repositioning ยกระดับคุณภาพสินทรัพย์
- Effective Cost Management ควบคุมต้นทุน
แนวโน้มธุรกิจปี Q1/2024
- มอง Q1 ยังคงสดใส
- เติบโตต่อเนื่อง การท่องเที่ยวกลับมา flow นักท่องเที่ยวคุณภาพสูงกลับมา
- Traffic ธุรกิจ Leasing กลับมาดีขึ้น
- Leasing มี Traffic มากขึ้น
- ทรัพย์สินเราอยู่ใน Prime Location
- ADR มาจากนักท่องเที่ยว และ chain ที่ช่วยเราได้อยอะ
- 1.26 แสนล้านบาท
- หรือเฉลี่ยปีละ 2.5 หมื่นล้านบาท
- Growth Rate Strategy โดยพัฒนาทรัพย์สินให้เป็นทรัพย์สินดำเนินงานเร็วขึ้น มากขึ้น และ ปรับ stage ทรัพย์สิน จาก Ramp up -> BAU stage -> mature stage ทำให้ EBITDA ขยับสูงขึ้น
- โดยใช้ competitive advantage ตั้งแต่ Development -> Ramp up -> Repositioning -> Cost Management
-
- Posts: 3145
- Joined: Mon Apr 17, 2023 1:05 pm
Oppday Q1/2024 AWC บมจ. แอสเสท เวิรด์ คอร์ป
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://listed-company-presentation.set ... h/vdo/7646
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://listed-company-presentation.set ... h/vdo/7646
-
- Posts: 3145
- Joined: Mon Apr 17, 2023 1:05 pm
Oppday Q2/2024 AWC บมจ. แอสเสท เวิรด์ คอร์ป
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://www.set.or.th/th/market/product ... y-snapshot
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://www.set.or.th/th/market/product ... y-snapshot
-
- Posts: 3145
- Joined: Mon Apr 17, 2023 1:05 pm
สรุปคลิป Oppday Q2/2024 AWC บมจ. แอสเสท เวิรด์ คอร์ป
- AWC มีการเติบโตมากเมื่อเทียบกับปีไตรมาสสองของปี 2019 เหตุที่เอามาเสนอเทียบกับปี 2019 ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าเป็นปีที่เป็นปีที่มีผลดําเนินงานก่อนโควิดและตอนนี้สถานการณ์โควิดได้คลี่คลายไปแล้ว จากภาพจะเห็นว่าทรัพย์สิน Operating Asset มีการเติบโตจากปี 2019 75% แต่ว่าเรื่องของ Net Profit Growth จะมีการเติบโตมากกว่า ช่วงโควิดที่ผ่านมาเรามีการเปลี่ยนนโยบายบัญชี ทั้งผลประกอบ เป็นผลประกอบการจริงรวมทั้งกับมูลค่ายุติธรรมสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของ AWC ที่มี Net Profit เติบโต 759%
- โดยเฉพาะกลุ่มโรงแรมเทียบกับปี 2019 เติบโต 72%
- จะเห็นว่า ADR Growthเติบโต 22% เมื่อเทียบกับปี 2019 ไตรมาสเดียวกัน RGI ถือว่าเติบโตเป็นเป็นอัตราส่วนที่ดูเทียบกับคู่แข่งว่าคู่แข่งในระดับเดียวกันเราดีกว่าหรือไม่ตัวเลขที่มากกว่าร้อยคือตัวเลขที่ดีกว่า ของเราภาพรวมโดยเฉลี่ย 114 คือดีกว่าคู่แข่ง
- RevPar เราดีกว่าตลาดอยู่แล้ว โดยที่เราดีกว่าตลาดประมาณ 175%
- Comercial BU EBITDA เติบโต 25% เทียบกับไตรมาสสองของปีที่แล้ว 12 เดือนย้อนหลังที่ผ่านมาเรามี New Lease Areas ใหม่ประมาณ 16,000 ตารางเมตร ถือว่าเป็นการเติบโตที่ค่อนข้างแข็งแรงและดี
- ทรัพย์สินการดําเนินงานเติบโตจากปี 2019 อย่างต่อเนื่อง จะเห็นจากตรงนี้ ถึงแม้ว่าทั้งโลกจะเผชิญกับสภาวะโควิด 19 แต่บริษัทเรายังคงเดินหน้าพัฒนาทรัพย์ให้เป็นทรัพย์สินดําเนินงานอย่างต่อเนื่อง ทรัพย์สินดําเนินงานเติบโต 56% จากปี 2019
- จํานวนห้องของ Hospitality Portfolio เติบโตจาก 3,412 ห้องมาเป็นที่ 6,029 ห้อง ในสิ้นปี 2023 แล้วปีนี้คาดว่าจะมีอยู่ที่ 6,896 ห้อง ถือว่าเป็นการเติบโตต่อเนื่อง
- การที่มี Operating Asset มากขึ้น หมายความว่าเราจะมีเรื่องของพื้นที่ เรื่องของจํานวนห้องในการหารายได้ EBITDA ให้กับบริษัทมากขึ้นเรื่อย ๆ
- กิจกรรมที่เรามีการเปิดดําเนินงานทรัพย์สินทรัพย์สินที่อยู่ระหว่างการพัฒนาให้เป็นทรัพย์สินดําเนินงาน
- ภาพนี้เป็นเรื่องของการเปิดตัว Phenix เดิมเป็นโครงการพันทิพย์ประตูน้ํา ตอนนี้เรามีการเปลี่ยนแปลงให้เป็นเรื่องของศูนย์กลางอาหาร Food Wholesale Hub แล้วเป็นเรื่องของ Retail Lounge ที่จะทําประสบการณ์ทางอาหารที่ดีที่สุดให้กับท่านนักท่องเที่ยวแถวนั้น เป็นจุดจุดหมายปลายทางสําหรับผู้ซื้อผู้ขายที่ทําธุรกิจอาหาร
- อันนี้จะเป็นภาพ LISA ONO ในโครงการPhenix มีโมเดลใหม่ ๆ มี Facility ดึงดูดทั้งRetail / Wholesale เอ็นจอยดนตรีได้ด้วยแล้วทานอาหารได้ด้วย
- เรามีการเซ็นสัญญา Framework Agreement เพิ่มเติมกับทางกลุ่มของโรงแรม OKURA เราจะมี 3 โปรเจกต์ที่เข้ามาอยู่ใน Pipeline
- ตัวนึงคือที่สุขุมวิท 38 นอกจากนี้เรามีการจะพัฒนาโครงการ OKURA ที่เชียงใหม่ จะเป็นจุดหมายปลายทางให้กับเมืองเชียงใหม่ นอกจากนี้เรามีการต่อเรือ เป็นเรือที่ Operate โดย OKURA เป็นเรือ Luxury มอบประสบการณ์การทานอาหารบนเรือในแม่น้ําเจ้าพระยา
- เดือน 9 ที่จะถึงนี้เราจะเปิดตัวร้านอาหารระดับโลก NOBU Bangkok ร้านอาหาร Rooftop ที่ใหญ่ที่สุดในโลก แล้วน่าจะเป็นดีที่สุดของNOBUด้วยที่มันยอดตึกเอ็มไพร์ทาวเวอร์
- การมาของ NOBU จะเป็นการสร้างPositioningที่มั่นคงแล้วดีแล้วจริงจังให้กับเอ็มไพร์ตรงนี้จะทําให้เอ็มไพร์ทาวเวอร์เป็นจุดหมายปลายทางแล้วเป็นจุดที่เป็นสํานักงานที่ตอบโจทย์สําหรับผู้เช่า
- อันนี้เราเปิดตัว TEESHOT BAR เป็นเรื่องของการพัฒนา Yield และพัฒนาพื้นที่ของโรงแรม ตรงนี้จะตอบโจทย์ให้กับทั้งแม่บ้านและคนทํางาน EXPAT ซึ่งสามารถ Operate ได้ตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึงกลางคืน เป็นการใช้ประโยชน์ของพื้นที่โรงแรมแล้วเป็นการเน้นกลุ่มเป้าหมายที่เข้ามาใช้บริการโรงแรม
Near-Term Growth
- อันนี้คือทรัพย์สินที่เราพัฒนาไปแล้ว ปรับปรุงเสร็จแล้ว แล้วให้ดําเนินการแล้ว ทรัพย์สินเหล่านี้เรามีความคาดหวังว่าเราจะผลักให้เป็น BAU State ให้เร็วที่สุดโดยที่ทรัพย์สินบางอันที่เข้ามาสู่การดำเนินงานเริ่มต้นเราจะใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ เพื่อไดรฟ์เค้าเติบโตเป็นทรัพย์สินที่มี 8% Yield แต่หลังจากนั้นจะ drive ต่อให้ไป 15% Yield
- ภาพนี้เป็นทรัพย์สินนี้กําลังพัฒนาอยู่ เรากําลังเร่งพัฒนาให้เป็นทรัพย์สินดําเนินงานให้ได้เร็ววัน
- เรามีทรัพย์สินที่อยู่ใน Pipeline ซึ่งจะเข้ามาเป็นทรัพย์สินดำเนินงานในอีกประมาณ 3-5 ปีข้างหน้า
- โมเดลที่เราใช้ในการพัฒนาโครงการ เพื่อไม่ให้เป็นภาระมากนักกับทางงบการเงิน ของAWC
- สิ่งที่เราทําคือเรามีโมเดลแบบนี้สองโมเดลที่เป็นลักษณะ JV คือไม่จําเป็นที่ต้อง รวมหนี้สินของเขาเข้ามาที่งบการเงินในปัจจุบัน ตัวนี้เราสามารถใช้ทรัพย์สินของเขาไปเป็นหลักประกันให้กับสถาบันการเงิน เอาเงินกู้มาพัฒนาให้แล้วเสร็จ พอพัฒนาเสร็จแล้วอันนี้เราจะเเข้ามาในพอร์ต ถือว่าจะสร้างความเติบโตให้กับ AWC ระยะยาว โดยที่ตอนก่อสร้างไม่ต้องเป็นภาระให้กับงบการเงินของ AWC
- JV กับ Global Investor วัตถุประสงค์จะต่างกัน ตัวนี้เราจะไป Acquire ทรัพย์สินที่เป็นทรัพย์สินของบุคคลที่ 3 แล้วซื้อทรัพย์สินที่เป็นโรงแรมในระดับ 3 ดาว เรามา Renovate ใส่แบรนด์เข้าไปแล้ว Ramp up จนถึงจุดจุดหนึ่ง หลังจากนั้นจะขายออกไปเลยเพื่อรับรู้กําไร ตัวนี้จะเป็นโมเดลอีกอีกแบบหนึ่งเป็นซื้อมาขายไป
- แต่ทั้งสองโมเดลจะช่วยให้ AWC ยังมีการเติบโตโดย burden กับ Balance Sheet ไม่สูง
- ทําไมเราเชื่อว่า AWC มีจุดแข็ง จุดแรกเป็นเรื่องที่ว่า AWC เรามี business model ที่ unique แล้วเรามี growth model
- AWC เรามี value ในบริษัทเพราะเราถือทรัพย์สิน 90% เป็น free hold ของเราเอง ดังนั้น มูลค่าทรัพย์สินจะอยู่อยู่กับเราไปเรื่อย ๆ เพราะว่าเราไม่มีข้อกําหนดเรื่องของการหมดอายุของทรัพย์สินเรา เราจะแตกต่างกับ Lease Hold 30 ปีอาจจะต้องต่อ ตอนที่เค้าต่อเค้าอาจจะต้องเสียค่าต่อ และอาจมีค่าเช่าที่แข็งขึ้น แต่เราจะไม่มีลักษณะแบบนั้น และเนื่องจากว่าเราเป็นถือครองทรัพย์สินตลอดไป ดังนั้น AWC จะกล้าลงทุนกับทรัพย์สินตลอดเวลา เราจะมีการ Renovate ทรัพย์สินให้อยู่ในสถานภาพที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ตลอดเวลา ตรงจะเป็นการ Maintain ความสามารถทางการแข่งขันของทรัพย์สินของ AWC ตลอดเวลา
- % Development Cost เทียบกับความสามารถในการหารายได้ในอนาคต
- เช่น ลงทุนเพิ่ม 35% แต่ ADR ที่เราได้เพิ่มขึ้นมา 149% ลักษณะแบบนี้เป็นสิ่งที่เราถนัด จะเป็นการเพิ่ม Value ระยะยาวให้กับบริษัท
- เรามี EBITDA Yield จากลูกค้าที่ Diversify ขณะเดียวกัน ADR ก็สูงกว่าปี 2019 ทำให้ Yield เพิ่มขึ้น
- Business Model เราทํางานร่วมกับ Global Partner จำนวนลูกค้าของ Partner เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา ตอนนี้มีมากกว่า 600 ล้านคน
- ปกติกลุ่มโรงแรมเรามีดัชนีอยู่ตัวนึง RGI เป็นค่าที่แสดงว่าเทียบกับคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกัน Location ใกล้เคียงกันแล้ว ความ Luxury ใกล้กัน มากกว่า 100 คือดีกว่า
- สมัยก่อนก่อน IPO เราจะเห็นตัวเลขแบบ 100 นิด ๆ แต่ตอนนี้โรงแรมของAWCถือว่า perform ได้ดีมาก จะเห็นว่าโรงแรมบางโรงแรมค่า RGI ทะลุ 200
- EBITDA Margin ต่าง ๆ เทียบกับปีที่แล้วถือว่าค่อย ๆ ดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสสองของปีที่แล้ว คือ Outperform Market ขึ้นไปอีก
- Asset ของเรามีการปรับตัวอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะทรัพย์สินที่เป็น Commercial ให้เป็น Lifestyle Workplaces Co-Living
- ทุกวันนี้ Concept เวลาเราควบคุมค่าใช้จ่ายเราควบคุมผ่านConcept ของ Flow-Through จะเห็นว่า เรามี Flow-Through โรงแรม คาดเอาไว้ที่ประมาณ 60% Retail 80% Commercial 90%
- Flow-Through คืออะไร ต้นทุนมีสองแบบ เป็นแบบ Fixed Cost กับ Variable Cost เราไม่ให้ Fixed Cost ขยับขึ้น เราเลยมาดูที่ Variable Cost ถ้าเกิดรายได้เข้ามา 100 ถ้าสมมุติว่าVariable Cost มีแค่ 40 เราจะคอนโทรลให้ไม่เกิน 40 ดังนั้น 100-40 = 60 ซึ่งคือ EBITDA ใหม่ ไหลเข้ามาที่ EBITDA ของบริษัททันที เราคอนโทรลกันแน่นทุกทุกไอเทม สุดท้าย Flow-Through จะไปส่งผลให้Marginดีขึ้น
- ในไตรมาสสองเราจะเห็นได้ว่ามีการเติบโตทั้งในส่วนของรายได้ BU EBITDA / EBITDA MARGIN / NET PROFIT ทั้งหมดสนับสนุนโดย Operating Performance ของเรา อีกส่วนนึงคือจะเป็นในส่วนของ Faire Value Gain chain คือเป็นกําไรจากการประเมินมูลค่าทรัพย์สินจากโดยเฉพาะอย่างยิ่ง Investment Property
- จะเห็นได้ว่า EBITDA หรือว่าผลการดำเนินงานที่เป็นกระแสเงินสดเมื่อเทียบแต่ละเซ็กเมนต์
- ทั้งสาม Segment มีการเติบโตเมื่อเทียบกับในไตรมาสที่สองของปีที่แล้วทั้งสามเซ็กเมนต์เลย แต่ว่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งจะเห็นการเติบโตที่มากหน่อยในส่วนของ Hospitality
- สัดส่วนของ EBITDA Contributionในไตรมาสที่สองของปีนี้อยู่ที่ 55% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่อยู่ที่ 52% อันนี้จะสนับสนุนในแต่ละ indicator อย่าง Hospitality จะเห็นได้ว่า Revpar เติบโตเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ market หรือเมื่อเทียบกับ Performance ในไตรมาสที่สองของปีที่แล้ว
- ในส่วน ADR เช่นเดียวกัน หรือว่าถ้าเกิดจะดูทั้งในส่วนของ Retail และ Comercial ใมีการเติบโตเช่นเดียวกันเมื่อเทียบกับไตรมาสที่สองของปี 2566
- EBITDA Flow-Through เติบโตทั้ง Hospitality Retail และ Comercial เมื่อดูในส่วนของเรื่องการบริหารจัดการพอร์ตไม่ว่าจะเป็น Fixed Cost /Variable Cost จะเห็นได้ว่าตัว Cost Margin ของในส่วนของ Fixed Cost มีการ improvementเพิ่มขึ้น ในไตรมาสที่สองปีนี้อยู่ที่ 18% ลดลงจากไตรมาสที่สองของปีที่แล้วที่ 22% หรือว่าในส่วนของVariable Cost เช่นเดียวกันตัว Cost Margin จะลดลงอยู่ที่ 41% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่สองของปีที่แล้วที่ 42%
- 3 มุม มุมแรกการบริหารจัดการ Cost of Debt ถึงแม้ว่าแนวโน้มเทรนด์อัตราดอกเบี้ยจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่สัดส่วนมีการปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าภาพรวมที่มีการปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งอันนี้เป็นผลมาจากการบริหารจัดการ Debt Portfolio ของเราพร้อมทั้งในส่วนของ Fixed Rate และ Floating Rate ที่อยู่ในสัดส่วนที่เหมาะสม ณ ขณะนี้ตัว Floating Rate อยู่ที่ 57% และ Fixed Rate อยู่ที่ 43%
- ถัดมาอีกส่วนนึงที่สําคัญไม่แพ้กันคือในส่วนของเรื่องของ Funding Portfolio ที่มีในส่วนของ Sustainability ทั้งหมด 100%
- แล้วอยากจะขอเพิ่มเติมนิดนึงไม่ว่าจะเป็นเรื่อง financial ratio จะเห็นได้ว่าเรายังมีcapacityในการที่ debt funding เพิ่มขึ้น ถ้าดูที่ IBD/E ณ ขณะนี้อยู่ที่ 0.8 (Financial covenant อยู่ที่ 1.5 เท่า)
- อีกส่วนหนึ่ง ณ มิถุนาของปีนี้ 2024 สัดส่วนของสัดส่วนของงบการลงทุนเราเตรียมวงเงินมากกว่างบการลงทุนอยู่ที่ 3.2 เท่า
Outlook นแง่ของBusiness Performance ในไตรมาสที่ 3- 4 ของปีนี้ ปัจจัยสนับสนุนการเติบโต และ กลยุทธ์หลักในปี 2024
- ไตรมาส 3-4 ปีนี้เทียบกับปีก่อนจะเห็นว่าตัว Booking เติบโต 55% เมื่อเทียบกับปีที่เทียบกับปีที่แล้ว จากการท่องเที่ยว ดังนั้นคิดว่าภาพรวมไตรมาส 3-4 คิดว่ายังคงเดินหน้าเติบโต แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันอาจจะมีปัจจัยอย่างอื่นที่มากระทบได้บ้าง แต่คิดว่าภาพคงจะดีกว่าปีที่แล้วค่อนข้างชัดเจนค่อนข้างชัดเจน ตัวนี้จะเป็น Growth Driver ให้กับทั้งอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
- สำหรับปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของบริษัทในปีนี้ หลัก ๆ คงจะเป็นเรื่องของนักท่องเที่ยวที่กลับเข้ามานักท่องเที่ยว หนึ่งคือกลับเข้ามามากขึ้น แต่สิ่งที่ AWC อาจจะมีความเป็นลักษณะเฉพาะที่ทําให้เติบโตได้ดีอย่างเห็นได้ชัดคือจํานวนของ Operating Asset ที่ขยับสูงขึ้น แล้วว่าสิ่งที่ AWC ทําอยู่ตลอดเวลาคือเรามีทรัพย์สิน Development แปลงให้มาเป็นทรัพย์สิน Operating อย่างต่อเนื่อง อย่างโรงแรม ปี 2019 เรามีเรามีห้องอยู่ 3,400 ห้อง ตอนปีอาจจะจบแถวเกือบ 7,000 ห้อง 100%เทียบกับการเติบโตเมื่อเทียบกับปี 2019
- นอกจากนั้นแล้วสิ่งที่เราสนใจคือการสร้าง Yield จาก Operating Asset ที่สร้างเสร็จใหม่ ๆ หรือ Ramp up พยายามจะแปลงสิ่งนี้ให้เป็นมา BAU Stage ให้เร็ว เรากำหนด 8% หลังจาก 8% ขยับขึ้นไป 15% พวกกลยุทธ์ลักษณะเหล่านี้จะเป็น Key Driver หลักที่เราพยายามแมเนจให้สามารถมี EBITDA ติบโตได้ ดังนั้นการเติบโต EBITDA AWC จะมาทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก
- Recurring Income จะเป็นรายได้ที่ในส่วนของ Office Building และ Retail สัดส่วนณ ตอนนี้จะอยู่ประมาณ 45% มันจะค่อนข้างบาลานซ์ ในส่วนของโฮเทลช่วงนี้จะเติบโตเยอะหน่อยอยู่ที่ 55%
- อย่างหนึ่งที่นักลงทุนน่าที่จะได้เห็นคือในส่วนของ Occupancy Rate Q1-Q2 ที่ผ่านมาเติบโตดีขึ้นจากปีที่แล้ว ทำให้ ภาพรวมของปีนี้น่าที่จะเติบโตเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
- การลงทุนจะสนับสนุนการเติบโตไม่ว่าจะเป็นระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว ในส่วนของ 5 ปีงบลงทุนจะอยู่ประมาณ 126,000 ล้าน
- ซึ่งในส่วนของงบลงทุนในส่วนนี้จะเอามาซัพพอร์ตทั้งในแง่ของการ development ของตัว asset
- อีกส่วนนึงคือจะเป็นในส่วนของเรื่องการ acquire asset เข้ามา เพื่อที่จะสนับสนุนการเติบโตในระยะยาวเพิ่มมากขึ้น
- เรื่องของการท่องเที่ยวคิดว่าเราค่อนข้าง Stable ระดับหนึ่ง เพราะว่า Business Model ค่อนข้างจะแตกต่างกับ Player คนอื่น เราใช้ใช้ใช้เป็นพาร์ตเนอร์ชิปโปรแกรมกับทางทางเชนต่างประเทศ ดังนั้นเมื่อทํางานกับเชนต่างประเทศเราจะได้รับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้ามาจากเขา ดังนั้น ตรงคิดว่าเป็นเป็นอะไรที่ถ้าตลาดหนึ่งไม่ดีเขาสามารถเอาจากอีกตลาดหนึ่งมาได้ คิดว่าเรื่องของโรงแรมอาจจะเป็นเรื่องที่พอบริหารจัดการกันได้ ความเสี่ยงอาจจะไม่ได้เยอะมาก
- แต่ว่าเรื่องที่อาจควรอาจจะอาจจะอยู่ในข้อสงสัยกันอาจจะเป็นเรื่องของสํานักงาน ที่ supply มีมากขึ้นในตลาด ต้องเรียนว่ามี supply ในตลาดใหม่ ๆ เกิดขึ้น
- ตึกของAWC เป็นตึกที่รีโนเวทปรับปรุงตลอดเวลา transform ตัวเองให้เป็นเรื่องของ lifestyle destination ตึกเลยอยู่ในสถานภาคที่แข่งขันได้ ดังนั้น
- เรามี compitetive advantage ที่สามารถแข่งขันให้กับกลุ่มจากกลุ่มออฟฟิศเก่าได้แน่ ๆ เพราะเราเป็นกลุ่มที่ออฟฟิศที่เราเห็นแล้ว facility เราถือว่าดีเทียบเท่ากับสํานักงานใหม่ใหม่เลย ขณะเดียวกันบางท่านอาจจะมองเรื่องของ Retail ว่าเป็นบ้างไรอย่าง Retail เป็นจุดที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงแล้วตั้งแต่สมัยโควิด Retail เดิม ห้างสรรพสินค้าเป็นจุดศูนย์กลางของ Retail แต่ Retail ที่ทุกวันนี้จะต้องเป็น Lifestyle ดังนั้นสิ่งที่เราทราบคือเราสร้างรีเทลให้เป็น Lifestyle วันนี้เรามีการrefromสิ่งที่เห็นชัดไปแล้วคือโครงการ Phenix ให้เป็น Lifesyle ใช้อาหารเป็นจุดดึงดูด นอกจากนี้ยังมีการ Reform Property ต่าง ๆ อีกหลายโครงการโดยมีธีมที่จะให้เป็น Destination เป็นการเปลี่ยนแปลง Property ให้มีความสามารถในการแข่งขัน ดึงดูดนักท่องเที่ยว