Oppday Year End 2022 บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) INET
[INET] บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน)
-
- Posts: 3145
- Joined: Mon Apr 17, 2023 1:05 pm
Oppday Q1/2023 บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) INET
Presentation https://weblink.set.or.th/dat/registrat ... 3-INET.pdf
Presentation https://weblink.set.or.th/dat/registrat ... 3-INET.pdf
-
- Posts: 3145
- Joined: Mon Apr 17, 2023 1:05 pm
Oppday Q2/2023 INET บมจ. อินเทอร์เน็ตประเทศไทย
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://listed-company-presentation.set ... h/vdo/5873
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://listed-company-presentation.set ... h/vdo/5873
-
- Posts: 3145
- Joined: Mon Apr 17, 2023 1:05 pm
Oppday Q3/2023 INET บมจ. อินเทอร์เน็ตประเทศไทย
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://listed-company-presentation.set ... h/vdo/6207
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://listed-company-presentation.set ... h/vdo/6207
-
- Posts: 3145
- Joined: Mon Apr 17, 2023 1:05 pm
Oppday year-end 2023 INET บมจ. อินเทอร์เน็ตประเทศไทย
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://listed-company-presentation.set ... h/vdo/6802
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://listed-company-presentation.set ... h/vdo/6802
-
- Posts: 3145
- Joined: Mon Apr 17, 2023 1:05 pm
สรุปคลิป Oppday year-end 2023 INET บมจ. อินเทอร์เน็ตประเทศไทย
ทำความรู้จัก INET
- อย่างที่นักลงทุนทุกท่านเคยทราบมาแล้วสําหรับนักลงทุนที่เค้าฟังครั้งแรกบริษัทอินเทอร์เน็ตประเทศไทยจํากัดมหาชนเป็นบริษัทที่ถูกถือหุ้นด้วยหน่วยงานภาครัฐ 49% เป็นส่วนของผู้ถือหุ้นรายย่อยอีก 51%
- จัดตั้งเมื่อปี 2538 เข้าสู่บริษัทที่เป็นลักษณะของรัฐวิสาหกิจในปี 2540 และปี 2544 ได้แปรรูปเป็นมหาชนแล้วปี 2564 ได้เข้าจัดตั้งกอง REIT กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ใน INET-IDC3 เฟส1 ซึ่งคือเมื่อ 2-3 ปีที่แล้วประมาณ 4,300 ล้าน
- มุ่งส่งเสริมคนเก่งเก่งให้ขึ้นมาเป็นเจ้าของกิจการที่เป็นนวัตกรรม
- อนาคตอีก 7-8 ปีข้างหน้าเ ราพยายามจะสร้างตัว Platform Service Provider ขึ้นมาเป็นอีกหนึ่งเลเยอร์เหนือกว่า Cloud Service Provider
- คงเป็นยุคใหม่ที่เราเรียกว่าเป็นDigital Platform Era ซึ่งสิ่งเหล่านี้อยู่ในช่วงของRoadmap ที่เราได้วางไว้ล่วงหน้ามาประมาณ 9 ปีที่แล้ว
- ลูกค้าเติบโตต่อเนื่อง ปัจจุบันมีลูกค้าที่เป็น Enterprise อยู่ที่ประมาณ 3,753 ราย เนื้องานคนส่วนใหญ่กังวลว่าเราเป็นภาครัฐ แต่จริง ๆ เรามีลูกค้าส่วนใหญ่เป็นเอกชนเพราะว่างานเราจริงจริงผู้ถือหุ้นหลักเรา คือทาง NTเป็นหน่วยงานที่ซัพพอร์ตหน่วยงานภาครัฐแล้วมีเรื่อง G2G ด้วย ดังนั้นINETมีเซ็กเมนต์ตลาดที่ค่อนข้างจะแตกต่างจาก NT ชัดเจนคือเราจะบุกเอกชนก่อน ส่วนที่ Goverment ทยอยเริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ เป็นเพราะว่าน่าจะเข้าสู่ตลาดที่เรียกว่า Platform แล้วในส่วนของCitizenอย่างที่เรียนอาจจะมีรูปแบบของนักพัฒนาที่มาซื้ออยู่บ้างเล็กน้อยมากมากประมาณ 1%
- เรามีลูกค้าเอกชนเป็นส่วนใหญ่เป็นลูกค้าภาครัฐบางส่วนซึ่งอันนี้ในเชิง Cloud ถ้าเราเข้ากับภาครัฐเมื่อไหร่ ค่อนข้างมีปัญหาตรงที่ว่าเรา NT จะมีโอกาสเรียกว่าตกสเปคทั้งคู่ เราเลยอยากหลีกเลี่ยงแล้ววิ่งเฉพาะ Enterprise อย่างเดียว
- Data Center 3 ที่ 2โลเคชั่น กรุงเทพฯ และ สระบุรี และมีแผนไปตั้งขอนแก่น รวมถึงมีตัว Innovation Hub บ่มเพาะน้องเก่ง ๆ ที่เป็นเด็กจบใหม่ในสายวิชาชีพที่เราต้องการมาทํางาน ส่งอาจารย์สร้างหลักสูตรต่าง ๆ ไปสอนน้องกลุ่มนี้ให้เป็นนักพัฒนาโปรแกรมทําเรื่องของBig Data AI ต่าง ๆ จะมีที่เชียงใหม่ สงขลา ขอนแก่น
- ภาพรวมเศรษฐกิจของไทยน่าจะเติบโตเล็กน้อย มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อแล้วมีความอาจจะเรียกว่าล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาล ส่งผลให้งบประมาณชะลอตัว เอกชนกังวล ทําให้เศรษฐกิจช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างจะชะลอ
- แต่ทั้งนี้ในส่วนของ IT แทบจะเรียกว่าไม่มีผลกระทบเลยยังเติบโตอย่างต่อเนื่องทําให้ INET สามารถที่จะมีตัวของธุรกิจที่เรียกว่ามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยภายใต้แรงกดดันด้านเศรษฐกิจนั้นธุรกิจไอทียังเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกภาคส่วน มีการเปลี่ยนแปลงขององค์กรในไทยที่เค้าเรียกว่าDigital Transformation Wave ซึ่งเข้ามาทําให้รูปแบบของลูกค้าเราผันตัวเองเข้าสู่การใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่าพร้อมใช้มากขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทําให้ INET เชื่อได้ว่า ตลาดที่เป็นตัว Cloud Service จะโตอย่างก้าวกระโดด ในช่วง 2-3ปีหลังจากนี้ ซึ่งส่วนนี้INETคงต้องเร่งมุ่งเน้นสร้างความพร้อมบริการที่มีคุณภาพน่าเชื่อถือ รวมถึงมุ่งเน้นการลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อลดการนําเข้าที่ต่างประเทศ สร้างการบูรณาการความรู้สมัยใหม่ที่มีการประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับประเทศไทยผ่านรูปแบบของการ MOU ในหน่วยงานภาครัฐสําคัญที่คิดว่าเราสามารถเข้าไปช่วยทําDigital Transformation
- เข้าสู่บริการที่เรียกว่าเป็นการวัดหน่วยเป็น VMI (Virtual Machine Indicator)เป็นหน่วยวัดที่ทําให้เราสามารถเทียบเคียงตัวเองได้ตลอดเวลา ไม่มีจํานวนที่เรียกว่าเทียบเคียงไม่ได้ ดังนั้นการนับหน่วยของVMIจะกลายเป็นสแตนดาร์ดที่ใช้ที่เทียบกับตัวเองในงวดก่อน ๆ ทําให้นักลงทุนเชื่อมั่นได้ว่าเรามีการขยายขึ้นอย่างต่อเนื่อง เท่าที่เราสํารวจตัวVMIแล้วทําราคาเฉลี่ยของVMIเข้ามาจะพบว่าวีไอเหล่านี้ค่อนข้างจะอยู่ในราคาเฉลี่ยที่ประมาณ 2,500 บาทถึง 2,700 บาท นักลงทุนจะคํานวณได้เลยว่า ขณะตรงนี้พอจะเป็นธุรกิจที่มีsizingประมาณเท่าไหร่
- โดยตัวธุรกิจของCloudช่วงก่อน เราเคยมีCloudสูงถึง 40,000 กว่า VMIแต่ว่านั่นเป็นช่วงเวลาที่เราทําราคาได้ค่อนข้างแย่ เป็นเหตุเพราะว่าการแข่งขันเราไปทําตลาดที่เรียกว่าเป็น แข่ง self service ซึ่งอันนั้นอาจจะไม่ใช่ตลาดที่ที่ต้องการคุณภาพสูงมากนักเราเลยเข้าสู่ตลาดที่เรียกว่า commercial และ enterprise cloud โดยให้น้ําหนักสูงสุดอยู่ที่ enterprise cloud ซึ่งทําราคาได้ค่อนข้างดี ส่วนนี้เลยทําให้INETค่อนข้างจะเน้นระบบสําคัญเช่น ERP ข้อมูลที่ต้องการความมั่นคงปลอดภัย ซึ่งอันนี้ลูกค้าส่วนใหญ่ยินดีจ่ายในคุณภาพที่แพงขึ้นในราคาที่แพงขึ้น ตลาดตอบรับดีมากจนทําให้เราเชื่อว่าตลาดนี้มีขนาดที่ใหญ่
- โดยคาดการณ์ช่วงที่แล้วมาเรามีช่วงที่สูงสุดถึง 40,000 VMI ในช่วงปี 2021 มีลูกค้าถึง 4600 รายเลย แต่ว่าค่อนข้างจะ เล็ก ๆ น้อย ๆ มาก เป็นลูกค้าขนาด SME ก็มี ซึ่งช่วงนั้นเราพบเลยว่าราคาของเส้นสีแดงค่อนข้างน่ากังวล จนมีบางช่วงต่ำไปถึงประมาณ 1,400 บาทช่วงนั้นเป็นช่วงที่เราพบว่าตลาดค่อนข้างแปลก ลูกค้าโดยเฉพาะคู่แข่งพยายามจะแข่งราคาจนไม่สามารถควบคุมคุณภาพได้ เราเลยคิดว่าตลาดนั้นน่าจะไม่เหมาะกับเรา เราเลยผันตัวเองไปทํา enterprise cloud โดยใช้เวลา transition แล้วเปลี่ยนลูกค้าในกลุ่มที่เราถนัด คิดว่าเหมาะสมกับตลาดที่เราจะให้บริการ เราใช้กลยุทธ์ช่วงนั้นว่า secure market คือหาตลาดที่มันเป็นตลาดของเราจริง ๆ ยั่งยืนจริง ๆ พบว่าลูกค้า หายไปเยอะมากจาก 4600 เหลือ 2100 เลย VMI ก็ลดลงค่อนข้างหนักเลย จาก 40,000 เหลือ 33000
- ในปี202 3 เราเริ่มทยอยกลับเข้าสู่การมุ่งเน้นการถ่ายลูกค้ากลุ่มเดิมเดิมรูปแบบวิธีการให้บริการที่เรียกว่าเป็น enterprise grade พบว่าตลาดดีขึ้น ลูกค้าแตะขึ้นมาถึง 3100 VMI สูงขึ้นเล็กน้อยแต่เนื่องจากยังมีการ ต่อเนื่องจากลูกค้าที่ terminate ออกไป แล้วมีลูกค้าใหม่เข้ามา ทําให้ลูกค้าโดยรวมยังเพิ่มขึ้นแต่ไม่เยอะ ช่วงนั้นมี VMI ขึ้นมาอยู่ที่ 35985 VMI ช่วงปลายปีที่ผ่านมา
- ส่วนปีนี้น่าประทับใจ ลูกค้าโตขึ้นค่อนข้างดี ไตรมาสดียวโตขึ้นมาเกือบ 500 รายแล้ว กลางปีคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ประมาณ 51,000 VMI ปีนี้ 66,000 เป็นไปได้สูงมากเพราะว่าธุรกิจเราค่อนข้างมีความเป็น Enterprise
- Capacity 75,000 VMI ที่เราให้บริการได้ ยิ่งโตเท่าไหร่โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่มต้น ทุนต่อหน่วยจะถูกลง แล้วน่าจะทําให้ผลกําไรดีขึ้นเรื่อย ๆ
- หลัง ๆ คงไม่มีต้นทุนอะไรเพิ่มนอกจากค่าไปกับค่าไลเซนส์นิดหน่อย จะเป็นมาร์จิ้นที่ดี
- แล้วถ้าเกิดเจอ 75,000 เราน่าจะมีลงทุน Hardware อีกสเต็ปนึง โดยไม่ต้องไปแตะ Data Center ซึ่งอันนั้นจะขึ้นไปที่ประมาณ 120,000-130,000 VMI ซึ่งถ้าโตอย่างงี้น่าจะพอใช้ได้อีกประมาณ 1-2 ปี เราต้องพูดถึงการขยายแล้ว Data Center ที่ขอนแก่น
- การให้บริการที่เริ่มลูกค้าที่ต้องการคุณภาพ รักษามาตรฐานฐานรายได้ที่ลูกค้าต้องการให้บริการด้านไอทีเป็น core backbone ของเขา แล้วลงทุนในการวิจัยพัฒนาเพื่อสร้างเทคโนโลยีทดแทน ลดการจ่ายออกรวมถึงพึ่งพาที่ดินในประเทศมากขึ้น อันที่3มีการลงทุนในด้านของIDCโดยเฉพาะเพื่อรองรับการเติบโตที่พึ่งพาตัวเองมากขึ้น แล้วสามารถทําให้IDCออกแบบให้ลงตัวกับจํานวน
Server Storage ที่ถูกออกแบบมาเพื่อทําCloud
- ภาพรวมเลยคิดว่าตัวธุรกิจค่อนข้างจะไปได้ดี ลงทุนหนักจริง หนี้สินเยอะจริงแต่ว่าเป็นการลงทุนในธุรกิจที่เรียกว่าโตแล้วน่าจะเป็นผลบวกมากมากในสิ้นปีนี้
- อธิบายเพิ่มเติมในส่วนของหนี้สิน ที่หลายท่านน่าจะกังวล เนื่องจากเราไปจัดเข้ากอง REIT วิธีการบันทึกบัญชีของกอง REIT เขามองว่าการระดมทุนอบนี้ไม่ใช่การขายขาด ห้ถือเป็นหนี้สิน แต่ในเชิงนิติกรรมสัญญาเราขายขาดไปแล้วเพียงแต่ว่าทางกลต. ให้บันทึกบัญชีเป็นเหมือนเจ้าหนี้ทางการเงิน แต่เป็นเจ้าหนี้ทางการเงินที่ไม่มีดอกเบี้ย เพราะว่ามันคือการแปลงค่าเช่ามาเป็นเจ้าหนี้แล้วให้คํานวณว่ามันคือดอกเบี้ยเท่าไหร่ แต่สัญญาที่เป็นนิติกรรมจริง ๆ คือเจ้าหนี้การค้าค่าเช่าตึก ทําให้เวลาไปคิดตัว IBD มันคิดแค่เฉพาะตัวหนี้สินทางการเงินที่มีสัญญาที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยจริง ๆ ซึ่งอันนั้นเทียบเท่าอยู่ประมาณ 56% ส่วนอีก 37 น่าจะเป็นหนี้สินจากกอง REIT ซึ่งการบันทึกบัญชีมองว่าเป็นเจ้าหนี้ทางการเงิน แต่ในทางนิติกรรมสัญญาเป็นเจ้าหนี้ทางการค้า วิธีบันทึกบัญชีเลยต้องอิงทาง กลต. ที่เขาให้บันทึกแบบนี้หมายความว่าสินทรัพย์เช่นเดียวกัน ทําให้เราต้องมีสินทรัพย์ที่บันทึกค่าเช่าล่วงหน้า ไปเป็นลักษณะของสินทรัพย์ที่รอตัด ซึ่งอันนี้ทําให้สินทรัพย์เราโดดเข้าไปอีก ทําให้หนี้สินค่อนข้างสูง แล้วสินทรัพย์ค่อนข้างสูง แต่จริง ๆ ไม่ได้เยอะขนาดนั้น หนี้สินเราอยู่จริง ๆ อยู่ที่ประมาณ 5-6 พันล้าน เมื่อเทียบขนาดธุรกิจที่กําลังจะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ มีโอกาสเติบโตสูง มีพื้นฐานของตลาดที่กําลังต้องการผู้ให้บริการอย่างเราอยู่ ไม่น่ากังวลเกินไป
- อีกส่วนที่กระทยคือ ต้นทุน ต้นทุนส่วนใหญ่จะพบว่าเค้าย้ายในงบเค้าจะย้ายตัวค่าเช่าตึกที่เราไปขายแล้วเช่ากลับไปอยู่ในส่วนของต้นทุนทางการเงิน ทําให้GPเราดูโดดเหลือ ซึ่งจริง ๆ GPอยู่ที่ประมาณ 30% ซึ่งถือว่าเป็นGPที่ดี เพียงแต่GPที่เราเห็นโดดมันมี2ส่วน ส่วนหนึ่งคือเรื่องการบันทึกที่เอาค่าเช่าไปอยู่เป็นต้นทุนทางการเงิน กับอีกอันหนึ่งคืออยู่ในส่วนของการลดต้นทุนได้จริง อันนี้มาจากการที่เรามี Innovation บางอย่างแล้วมีการลดการจ่ายออก ทั้ง2ส่วนนี้ทําให้ตัวทั้งขวามือเป็นเมเนเจอร์รีพอร์ตที่เราใช้กันภายในมีการเติบโตGPประมาณ 38% นั่นหมายความว่าตัว 38% นั้นกํ าไรค่อนข้างดี แล้วขณะนี้ดูกันถ้าสังเกตดูในเชิง SG&A ที่เป็นดอกเบี้ยลดลงอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นงบที่เราใช้ทํางานในบริษัทอยู่ทางขวามือ งบที่นักลงทุนส่วนใหญ่เห็นคือซ้ายมือ ก็มีนักลงทุนหลายท่าน สถาบันทางการเงินมาสอบถาม เราก็ต้องชี้แจงไปแบบนี้ เชื่อว่าตัวบริษัทเราเองเรื่องหนี้สินจริงจริงอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่งบแสดงออก
- คาดการณ์ว่าการ Terminate ของลูกค้าจะหมดลงใน Q2 ทำให้ตัวเราเองมีแต่ลูกค้า Enterprise ทั้งหมด และจะเริ่มเข้าสู่ภาวะที่มีแต่โตขึ้นไม่มีติดลบ นอกจากนี้ INET เพิ่งได้ BOI ค่อนข้างเป็นประโยชน์ต่อสภาพคล่องของบริษัท
- ถ้ารายได้เติบโตตามที่เราคาดการณ์ไว้เราจะเห็นการเติบโตที่น่าสนใจในสิ้นปีนี้
ตัวสินทรัพย์ตัวสินทรัพย์นี้จะมีสินทรัพย์อยู่จํานวนนึงที่เป็นสัญญาเช่าระยะยาว - IBD 2.27 ถือว่าค่อนข้างสูง แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้
- Cloud Service เป็นฐานของINET ปีนี้คาดการณ์ว่าจะต้องจบให้ได้อยู่ที่ประมาณ 67,000 VMI
- High Tech REIT ถ้า Capacity แตะขึ้นที่ 125,000 VMI แล้วต้องพิจารณาการสร้างที่ขอนแก่น
- บริษัทลูกเริ่มผลิดอกออกผล ให้บริการหน่วยงานสำคัญของประเทศ
- INET เข้าหากลุ่ม Software Partner ช่วยลูกค้าเราทําธุรกิจไปกับSoftware Partnerที่ได้คุณภาพเพื่อให้งานต่าง ๆ ทําให้รอบของการขึ้น VMI เร็วขึ้น ที่ผ่านมาเราทํา Cloud งานเราเสร็จก่อนตลอด แต่จะไปติดเรื่องเช่น การติดตั้ง หรือ license ต่าง ๆ ปีนี้เราจะทำให้ทุกอย่างเร็วขึ้น ให้ทางพาร์ตเนอร์และลูกค้าสามารถขึ้นระบบด้านไอทีได้เร็วขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด อันนี้เรียกว่าเป็นกลยุทธ์ใหม่ที่เราจะเข้า
ปีนี้
- เชื่อว่าลูกค้าเราส่วนใหญ่เข้าสู่ยุค 4.0 จะต้องทําธุรกรรมนึงเค้าเรียกว่า Digital Transformation แต่ถ้าทําแล้วมันนานเกินไป มันจะเป็นต้นทุนที่ต้องแบกทั้ง 3.0 4.0 อันนี้จะเร่งสปีดตัว 4.0 ให้เร็วขึ้นในการทรานส์ฟอร์ม
- โดยจะดำเนินงานผ่านบริษัทลูกของเรา 40 กว่าบริษัท ลูกค้าของINET สามารถที่จะเข้าสู่เทคโนโลยีพวกนี้ได้ในต้นทุนที่ต่ำและเร็วขึ้น ทําให้การ transform เร็ว ตลาดโต ทำให้เราสามารถที่จะขยาย clod ได้อย่างคล่องตัว
- ปัญหาต่อมาที่เราเจอ ต้องใช้เงินลงทุนสูง คือเรื่องคน ที่ต้องสร้างความรู้ สร้างคน เป็นงาน high level skill
- ตอนจบคือการเอา Data ที่กระจัดกระจาย มาขึ้นตัว Platform ให้สําเร็จ จะทําให้ข้อมูลนั้นแม่นยําขึ้น วิเคราะห์ง่ายขึ้น ทํา Dashboard หรือ Scoring ต่าง ๆ ให้กับหน่วยงานที่ต้องการบริหารได้เร็วขึ้น
ซึ่งอันนี้เราเตรียมความพร้อมเพื่อให้มันขึ้นได้สปีดไวมากๆ
- โดยที่เราไปช่วยตอนนี้คงจะเป็น Platform ด้านเกี่ยวข้อมูลทางสุขภาพ การศึกษา B2B Commerce โรงงานรวมถึง Local Business
- ร่วมมือกับภาครัฐ ตัวอย่างเช่น หมอพร้อม คาดการณ์ว่าปีนี้ทั้งประเทศจะเข้า Smart Hospital 4.0
- อีกอันที่เด่น ๆ กับภาคเอกเชนคือ iClaim ตัวกลางระหว่างโรงพยาบาลและระบบประกัน ข้อมูล realtime
- VMI จากปีก่อน 35,000 จบปีนี้ด้วยการขึ้นมาถึง 66,00
- จำนวนลูกค้าองค์กร ปีที่แล้วจบที่ 3,000 ปีนี้จะจบที่ 5,000 ราย
- ยอดขายเติบโต 20%
- เหล่านี้คือสิ่งที่เราดูจากปัจจัยทั้งหมดเราคิดว่าเราทําได้แล้วคิดว่าเป็นปีนี้น่าจะเป็นปีตั้งต้นของการเข้าสู่ธุรกิจ Platform เต็มรูปแบบ
- ส่วน Cloud ก็จะเป็น Organic Growth ตาม Platform เพราะPlatform ยิ่งโตเร็ว Cloud ก็จะโตตาม Platform อยู่แล้ว
- ดังนั้นตอนนี้แทนที่เราจะไปกังวลกับตัวCloudมากเรามาช่วยทําให้ Demand การใช้มันกระเพื่อมดีกว่า ซึ่งอันนั้นค่อนข้างจะชัดว่า INET ทําส่วนกระเพื่อม อานิสงส์จะตกที่เราเสมอ
Q&A
การเพิ่มจำนวนลูกค้า รายได้ต่อหัว
- ลูกค้าเป็นดัชนีตาม ขอให้ลูกค้าเข้ามาก่อนและไว้ใจ INET ดังนั้น จำนวนลูกค้า สำคัญกว่ารายได้ต่อหัว อย่างตอน e-tax เราก็พยายามทำให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบได้เร็วเพื่อรับสิทธิที่สรรพากรช่วยเหลือ พอลูกค้าไว้ใจแล้วก็ง่ายขึ้นในเรื่องต่อ ๆ ไป
- หลัก ๆ คือค่าไฟ solar farm ช่วยได้เยอะ สองคือ license hypervisor ดูว่าเค้าจะขึ้นราคาหรือเปล่า สามคงเป็นเทคโนโลยีด้าน security กังวลมากเลยว่ามันจะแพงแค่ไหน ยิ่งซื้อแพงยิ่งต้องมาคิดราคาลูกค้าเราแพง คงจะต้องพัฒนาขึ้นมาเอง
- ดูแลลูกค้าคนละแบบกัน Global Cloud ต้องการลูกค้าที่เก่งในการเข้าสู่ระบบได้ง่ายเพราะว่าส่วนใหญ่เป็นรูปแบบที่ต้องมีความรู้ระดับนึง เลยส่วน Local Cloud อย่างเราคือขอให้ยกหูมาเราซัพพอร์ตหมด ความต่างตรงนี้ค่อนข้างจะมีตลาดเซ็กเมนต์ที่ต่างกันจริง ๆ งั้นตอนเจอกันจริง ทางเราคิดว่าถ้าลูกค้าประเทศไทยต้องการ Local Cloud ที่สะดวกรวดเร็ว คล่องตัว และไม่จําเป็นที่จะต้องรู้เทคโนโลยีเยอะเกินไป ผมว่าเราถนัด ซึ่งกลุ่มนี้ลูกค้าพิสูจน์แล้วว่าโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
- ตอนนี้เราทําตัว Platform ให้แล้วเสร็จ ข้อมูลมันแล้วเสร็จจะเข้าสู่เรื่อง AI ข้อมูลเหมือนเชื้อเพลิงของ AI สิ่งเหล่านั้นจะเป็นคล้ายคล้ายกรรมสิทธิ์ เป็นสิทธิที่ประเทศไทย บริษัทเก่ง ๆ ที่อยู่ใน Local ทั้งหมด จะเอาไปใช้ประโยชน์ต่อยอด
- e tax เราใช้วิธีการทําราคาให้ตำ่ที่สุด เพื่อให้คนที่เข้ามาค่อนข้างคล่อง น่าจะ transaction เฉลี่ย 1 บาท ตอนที่เราเข้าไปทําตลาด transaction เยอะมาก ในระยะในระยะเวลา2-3ปีนี้น่าจะแตะพันล้าน transaction ต่อเดือน ซึ่งตอนนี้ที่เราขายอยู่ประมาณแค่ 10 ล้านกว่า แสดงว่าตลาดเพิ่งจะ 1%- 2% ของที่ควรจะเป็น
- สรรพากรมีแนวทาง ปี 70 ทั้งประเทศไทยจะเข้าสู่ระบบ e tax ทั้งหมด ดังนั้นเราต้องการสร้างฐานลูกค้า สร้างการรับรู้ที่ต้นทุนที่เราเชื่อว่าถ้ามันใหญ่ต้นทุนนี้มันจะสเกลขึ้นไปดีกว่านี้เยอะคล้ายCloud ช่วงนั้นลงทุน หนักแต่ว่า scale ตลาดมันใหญ่พอ
- พันกว่าล้าน น้อยกว่าปีที่แล้ว 20-30%
- มีอยู่3-4 บริษัทแต่ว่าช่วงนี้ตลาดทุนค่อนข้างแปลก ๆ ดูเหมือนยังไม่ใช่จังหวะที่ลงแล้วจะดี แต่ว่าความพร้อมดี ขอดูสภาวะตลาดก่อน
- เปรียบ cloud เป็นโรงไฟฟ้า คือโรงไฟฟ้าที่มาเพรียว ๆ ยังไงต้องมีพวก SI เครื่องจักรที่ต่อไฟนั้นเข้ามาใช้งานก่อน INET เข้าไปทําให้เครื่องจักรที่เชื่อมต่อกับไฟ มีความคล่องตัวสะดวกในแบบที่คนไทยถนัด สิ่งเหล่านี้มันเป็นการแข่งในเรื่อง Serviceมากกว่าเรื่องของการทําโรงไฟฟ้ามาขายไฟอย่างเดียว บริการที่ต่อเชื่อมกับตัวเครื่องจักรที่ลูกค้าต้องการพร่องตัวสะดวก ไม่ว่าจะเป็นบริการ e tax ซึ่งผมว่า AWS ไม่ได้ทํา บริการที่จะต้องเก็บข้อมูลสําคัญที่ประเทศนี้น่าจะสบายใจที่ทางสรรพากรหรือหน่วยงานต่าง ๆ หน่วยงานสาธารณสุขสบายใจในการมาดูข้อกฎหมายคนไทย ซึ่งประเทศไทยcontrolได้
- เราไม่มี Terminate แล้ว จากที่เราได้ทํากลยุทธ์ปรับตลาดขึ้นตลาดบน ที่ผ่านมามีลูกค้าตลาดกลางและล่างที่เค้าสู้ราคาไม่ไหว ช่วง2-3 ปีที่ผ่านมามี Terminate ค่อนข้างหนัก ทําให้รู้สึกว่าโตไม่เยอะ แต่หลังจากการเติบโตปีนี้จะดีขึ้นกว่าเดิมมาก
- ตลาดโตมาก ป็น digital transformation ที่ประเทศต้องการ เราเจอปัญหาว่าที่ผ่านมาเราวิ่งตลาดผิดไปหน่อย ลงไปที่ตลาดที่เรียกว่าตลาดล่างเกินไป ดังนั้น ถ้าตอนนี้เราปรับตลาดให้ตรงกับทิศทางที่วิเคราะห์แล้วว่าเป็นตลาดที่เหมาะกับอุตสาหกรรมนี้แล้ววิ่งอย่างต่อเนื่อง เราจะพบว่าการเติบโตนั้นต่อเนื่องยั่งยืนยาวนาน รวมถึงลูกค้าจะไม่กดราคาเกินไป ซึ่งทั้งหมดนี้น่าจะเป็นประโยชน์
-
- Posts: 3145
- Joined: Mon Apr 17, 2023 1:05 pm
Oppday Q2/2024 INET บมจ. อินเทอร์เน็ตประเทศไทย
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://www.set.or.th/th/market/product ... y-snapshot
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://www.set.or.th/th/market/product ... y-snapshot