Oppday Q3/2023 STEC บมจ. ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://listed-company-presentation.set ... h/vdo/6244
[ STEC ] บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน)
-
- Posts: 3145
- Joined: Mon Apr 17, 2023 1:05 pm
Oppday year-end 2023 STEC บมจ. ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://listed-company-presentation.set ... h/vdo/7465
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://listed-company-presentation.set ... h/vdo/7465
-
- Posts: 3145
- Joined: Mon Apr 17, 2023 1:05 pm
Oppday Q1/2024 STEC บมจ. ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://listed-company-presentation.set ... h/vdo/7468
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://listed-company-presentation.set ... h/vdo/7468
-
- Posts: 3145
- Joined: Mon Apr 17, 2023 1:05 pm
Oppday Q2/2024 STEC บมจ. ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://www.set.or.th/th/market/product ... y-snapshot
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://www.set.or.th/th/market/product ... y-snapshot
-
- Posts: 3145
- Joined: Mon Apr 17, 2023 1:05 pm
สรุปคลิป Oppday Q2/2024 STEC บมจ. ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น
Key Developments Q2/2024
- Ridership สายสีเหลือง 32,000 ราย/เที่ยว/วัน สายสีชมพู 51,000 ราย/เที่ยว/วัน ปกติแล้วในในไตรมาสสองจะจะเป็น low season อยู่แล้ว ธุรกิจรถไฟฟ้าเนื่องจากวันหยุดที่เยอะในเดือนเมษายนและพฤษภาคม ประกอบกับเด็กนักเรียนปิดเทอม แล้วนักศึกษาทําให้Ridership ไตรมาสสองจะดรอปลงเป็นเรื่องปกติฉะนั้น ในไตรมาสที่ 3 จะถือว่าเป็น High Season เพราะว่าวันหยุดน้อย แล้วฤดูฝน แล้วเด็กเปิดเทอมด้วย ฉะนั้นเราจะเห็น Ridership ของทั้งเหลืองชมพูในไตรมาสที่ 3 ค่อยค่อยไต่ระดับขึ้นไปซึ่งสําหรับสีชมพูเองเรดชิพสูงสุดที่ สามารถทําได้ในไตรมาสที่ 3 เกือบ 80,000 คนเที่ยวต่อวันในวันศุกร์ ทุกวันศุกร์เราเห็นคนเข้ามาใช้รถไฟฟ้าในระบบ 1,800,000 รายต่อเที่ยวต่อวัน ซึ่งปกติแล้วจะอยู่กันประมาณ 1,600,000-1,700,000 ฉะนั้น ตอนนี้ตอนนี้หน้าฝนคนใช้ค่อนข้างเยอะ ฉะนั้นไตรมาส Q3 จะจะไม่ใช่ช่วง low season ของรถไฟฟ้า
- ถัดมามาที่ในเรื่องของรัฐสภา รัฐสภาเราได้ส่งมอบรัฐสภาเรียบร้อยแล้ว แล้วทางผู้ว่าจ้างคือทางเลขาธิการรัฐสภาได้ออกหนังสือรับรองงานมาเรียบร้อย เราส่งมอบงานไปเมื่อวันที่ 4 กันยายนปีที่แล้ว แล้วได้รับตัวหนังสือยืนยันการรับส่งมอบงานโดยที่ไม่มีค่าปรับสําหรับรัฐสภา เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ทางซิโนไทยมุ่งมั่นตั้งใจทําเพื่อประเทศชาติ
- ถัดมาเป็นการปรับโครงสร้าง จะเห็นจากทางสื่อพอสมควรว่าเราได้มีการเปิด Tender หุ้นหรือการแลกหุ้นจะขออนุญาตประชาสัมพันธ์ผ่านทางช่องทางนี้อีกทางหนึ่ง ซิโนไทย จะปรับโครงสร้างเป็น STECON GROUP ซึ่งกลต. ได้อนุมัติเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้อยู่ระหว่างการแลกหุ้นหรือ Tender Offer ในวันที่ 19 สิงหาคม - 21 ตุลาคมเป็นเวลา 45 วันทําการ อยากจะเชิญชวนท่านผู้ถือหุ้นที่ถือหุ้น STEC อยู่ไปตอบรับการแลกหุ้นเป็น STECON กับทางดาโอหรือทางทางโบรกเกอร์ที่ท่านเปิดบัญชีอยู่จะดูแลให้ ซึ่งสามารถที่จะทําเทนเดอร์ได้ทางผ่านทางเปเปอร์ หรือว่าทางอีเทนเดอร์ออฟเฟอร์ ถ้าเกิดจะทําผ่านทางอีเทนเดอร์ออฟเฟอร์ สามารถที่จะสแกนไตรมาสอาร์โค้ดในใน Presentation ที่เสนอให้ หรือเข้าไปในเว็บไซต์ https://www.daolsecurities.co.th/highli ... fer-stecon จะมีขั้นตอนและสาารถทําการแลกหุ้นได้เลย
- Data Center ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนที่เรารอเซ็นสัญญากับทางลูกค้า ไทม์ไลน์จะเหมือนเดิมหลังจากเซ็นสัญญาแล้ว ส่วนเรื่องการเริ่มก่อสร้างจะเริ่มก่อสร้างในช่วงประมาณไตรมาสที่หนึ่งปีหน้า ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 12- 18 เดือน เราจะได้เห็น Data Center ของซิโนไทย ซึ่งเราหวังว่าตัวนี้จะเป็นโชว์เคสของเรา ที่ต่อไปเราจะไปใน Big Scale กว่าเดี๋ยวเพราะว่าตอนนี้ Data Center เป็น Maga Trend สําหรับการลงทุน ไทยเองเป็นหนึ่งใน Destination ที่ต่างประเทศจะมาลงทุนด้วย ตอนนี้ Data Center ยังยังอยู่ในแผนที่เหมือนเดิม
- อู่ตะเภา จะลิงก์กับทางรถไฟฟ้าสนามบินความเร็วสูง 3 สนามบิน เลยเอาไทม์ไลน์มาโชว์ให้ดู เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทางการรถไฟ ได้บรรลุข้อตกลงกับทางกลุ่ม บริษัทเอเชียเอราวัณ ได้ตกลงบรรลุเงื่อนไขด้วยว่าจะแก้ไขสัญญากันตามที่ทางกลุ่ม ได้เสนอมา
- หลังจากนั้นอยู่ในขั้นตอนที่จะเสนอให้กับทางคณะรัฐมนตรีเพื่อที่รับทราบในหลักการ ซึ่งทางรัฐบาลเองคาดว่าน่าจะจบ แล้วให้ NDP ให้กับทางรถไฟฟ้าสามสนามบินช่วงสิ้นปี
- ซึ่งเมื่อสามสนามบินเค้าได้ NTP แล้วทางอู่ตะเภาเองเราคาดว่าเราจะได้ NTP ด้วยเหมือนกันว่าน่าจะประมาณช่วงสิ้นปี
- อย่างที่เคยพูดไปในไตรมาสที่แล้วว่าเราจะมีธุรกิจใหม่ที่เข้ามาใน Stecon Group หลัก ๆ เลยจะมีเทคโนโลยีคือ Data Center และ Power Plants หรือว่าโรงไฟฟ้าที่เป็น Renewable ถัดมาจะเป็น Water Treatment หรือโรงน้ําประปา
- ประเทศไทย มี Opportunity เพราะว่า ในปีนี้จะมีแผนพัฒนาไฟฟ้าออกมาใหม่หรือเรียกว่า PDP2024 ที่จะออกมาช่วงปลายปี ซึ่งสาระสําคัญคือจะเป็นเรื่องการลดการปล่อยคาร์บอน ให้ความสําคัญกับโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน โดยบรรจุเมกะวัตต์เข้าไปในโรงไฟฟ้าในแผนประมาณ 13,000 ล้าน หรือว่าคิดเป็นประมาณ 500,000 กว่าล้านบาท ฉะนั้น Player ที่จะเข้าไปในธุรกิจนี้จะมีมากขึ้น แม้ Player เก่าต้องการเมกะวัตต์มากขึ้นแต่ว่าการการมีแผนนี้ขึ้นมาเปิดโอกาสให้กับ Player ใหม่ด้วย ฉะนั้น เรามองว่าประเทศไทยจะมีศักยภาพเพิ่มขึ้นสําหรับโรงไฟฟ้าและมีความมั่นคงทางพลังงานมากขึ้นสําหรับโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน
- ประเทศเวียดนาม เป็นอีกจุดหมายหนึ่งที่เหมาะสมที่จะไปลงทุนในเรื่องของโรงไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของโรงไฟฟ้า Solar หรือว่าพลังงานลม เวียดนามเอง GDP เติบโต forecast ไว้ 5-6% ต่อปี ฉะนั้นเมื่อ GDP โตหรือขยายตัวเร็ว จะมีความต้องการที่ต้องใช้ไฟฟ้าหรือโครงสร้างพื้นฐานที่ตอบรับกับกับเศรษฐกิจที่โตขึ้น
- ในสิ้นเดือนกรกฎาที่ผ่านมา งานโยธาเกือบ 70% แล้ว ในส่วนของงานระบบเกือบ 50% รวมทั้งหมด 63% จะเห็นได้ว่าเป็นโครงสร้างขึ้นมาค่อนข้างเยอะ
- สายสีชมพูต่อขยายมีสองสถานี 2.8 กิโลเมรตร เข้าไปสู่เมืองทองธานี ซึ่งหลังจากที่ชมพูต่อขยายเปิด เราคาดว่า Ridership จะเพิ่มเข้ามาในระบบของสายสีชมพูได้ประมาณ 14,000 เที่ยวต่อคนต่อวัน จะช่วยในเรื่องของRidershipของสายสีชมพูให้สูงขึ้น ไปถึงในจุดที่คุ้มทุนเร็วขึ้น
- ไตรมาสที่สอง หลังจากที่หัก Recognized Revenue ไปแล้วเกือบ 15,000 เหลือ Order Book ประมาณ 88,000 ล้าน
- ในครึ่งปีแรกอาจจะยังไม่ได้มี New Order เข้ามาแต่ว่าจะเห็นเข้ามาในไตรมาส 3 ไตรมาส 4
- พ.ร.บ. งบประมาณ ปี 2568 ทํา Timeline มาให้ดูว่าเราเราอยู่กันตรงไหน
- พรบ.งบประมาณหรือวาระแดนร่างวาระที่หนึ่ง ตอนนี้ผ่านรัฐผ่านสภาผู้แทนราษฎรแล้วเมื่อช่วงเดือนมิถุนายน
- จริง ๆ แล้ว Target วาระที่ 2-3 ช่วงปลายเดือนนี้ ฉะนั้นตัวของพ.ร.บ. ปี 68 จะไม่ได้ล่าช้าเหมือนปี 67 คาดว่ารัฐบาลเองต้องการให้ประกาศใช้ได้อย่างทันท่วงที เพื่อที่จะได้กระตุ้นเศรษฐกิจไม่ให้เป็นแบบอย่างปีที่ผ่านมา
- เข้าร่วมประมูลโครงการรถไฟทางคู่ ขอนแก่น หนองคาย
- เข้าร่วมประมูล มอเตอร์เวย์ M7 4,500 ล้าน
- ยังคงไว้เหมือนเดิม 300,000 กว่าแล้วสําหรับงานรัฐบาล มีอัพเดตในเรื่องของ Status ให้
- พอมาดูที่งานเอกชนอย่างที่เรียนแจ้งไปจะมีงานเอกชนเข้ามาช่วงไตรมาส 3 ไตรมาส 4 Data Center ถ้าเซ็นเรียบร้อย Backlog จะเข้ามาช่วงสิ้นปีและจะเป็นงานเอกชนอื่น ๆ ที่เรามีประมูลไปแล้วโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนช่วงนี้อันนี้อยู่ในระหว่างประมูลเหมือนกัน
- รายได้ในไตรมาสสองถ้ารวมรายได้ค่าเช่าอยู่ที่ประมาณ 8,457 ล้านโตขึ้น YoY ประมาณ 17% หลัก ๆ มาจากโรงไฟฟ้าโซลาร์ 5 โรงที่เราเซ็นเมื่อปีที่แล้วและ MRT สายสีม่วงใต้ที่อยู่ในช่วงเร่งของงานทั้งสองโครงการเลยทั้งโซลาร์แล้วทั้ง MRT สายสีม่วง
- Profit Actual โตขึ้น 52% พอมาดูที่ NET จะลดลง YoY ประมาณ 81% เพราะว่าเราโดนกระทบจาก share of loss กับตัวสายสีเหลืองกับสีชมพูประมาณ 166 ล้าน อย่างที่เรียนไปเป็นปกติของธุรกิจรถไฟฟ้าที่ช่วงแรก cash flow จะยังไม่ได้เป็นบวก
- Cost YoY สูงขึ้นเกือบ 20% เป็นการโตไปในทางทิศทางเดียวกับรายได้
- SG&A เหมือนกันสูงขึ้น 12.3% YoY สูงขึ้นตามทิศทางเดียวกับรายได้เช่นกัน
- Net Profit เพิ่มขึ้น ปีที่แล้วอยู่ที่ 2.1 ปีนี้ อยู่ที่ 2.8 ทําได้ดีขึ้น YoY ในส่วนของ Net Profit Margin อยู่ที่ 0.3% จะลดลงเพราะว่าปีที่แล้วอยู่ที่ 2.1% อย่างที่เรียนแจ้งไปว่าเพราะว่าปีที่แล้วไตรมาสสองเรายังไม่ได้รับรู้รถไฟฟ้าอย่างเต็มไตรมาส เหมือนปีนี้พอมาเป็นเป็น NPM เลยโดนกระทบเยอะเลยเหลือแค่ 0.3%
- ในส่วนของ Equity ลดลงอยู่ที่ 17,000 ผลกระทบมาจากตัว Net Profit ที่ลดลง 6 เดือน
- ในส่วนของ ROE อยู่ที่ 0.3%
- Net Gearing 0.06 จะอยู่ในระดับนี้เพราะว่ามีเงินกู้เข้ามา
- ในส่วนของ Short Term Loan จะมีเงินกู้เข้ามาที่ 4,400 ล้านเป็นเรื่องปกติในเงินกู้ถือว่าfinance short ของเรายังต่ำที่สุดในหมู่อุตสาหกรรม ถือว่าเราจ่ายดอกเบี้ยน้อย เพราะว่าในในไตรมาสที่ผ่านต้องมีการกู้ เพราะว่าดอกเบี้ยโครงการของรัฐยังไม่ค่อยออกมาเท่าไหร่
- สิ่งแวดล้อม ได้เปลี่ยนรถของผู้บริหาร กับรถส่วนกลางเป็นรถ EV อันนี้จะช่วยในเรื่องของการลด Carbon Emission ซึ่งเป็นเป้าหมายของเรา
- มิติสังคม เราได้สร้างอาคารโดยใช้เหล็กที่เรารื้อถอนจากจากออฟฟิศ โครงการ เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู สีเหลือง ไปสร้างให้กับทางพื้นที่ห่างไกล ซึ่งเราทําทุกปี ในโครงการ ESG เราใช้เหล็กซึ่งเป็นเหล็กที่แข็งแรงไปไปก่อสร้าง
- การ Governance มีการอบรมกรรมการ พอดีเราเปลี่ยนจะมีกรรมการท่านใหม่เข้ามาด้วยอบรมท่านกรรมการเก่ากรรมการใหม่เพื่อให้ท่านทราบถึงกฎเกณฑ์หลักเกณฑ์ของของตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อเป็นการบริหารจัดการให้มีความโปร่งใส
เป้าหมายการเติบโตทั้งปี 67
- ยังคงเป้าหมายอยู่ สําหรับตัว รายได้ ยังคงไว้ที่ประมาณ 30,000 - 31,000 Margin เราตั้งเป้าไว้ Average ทั้งปีไม่ต่ำกว่า 5% การรับรู้งานเราตั้งไว้ประมาณ 40,000 ล้าน
- ภาพของครึ่งปีหลังเรายังคงไว้เหมือนเดิมแล้วคือ Average Margin ไม่ต่ำกว่า 5%
- ต้องอธิบายก่อนว่าเป็น Holding มีอะไรบ้าง คือ มีธุรกิจก่อสร้าง ธุรกิจสาธารณูปโภคหรือพลังงาน ธุรกิจโลจิสติกส์หรือโครงสร้างพื้นฐาน แล้วอีกธุรกิจอื่นจะเป็นพวกสเต็กเอ็กซ์เวนเจอร์ที่เป็น Venture Capital ที่จะไปหาธุรกิจที่มี Return กลับมาสูงให้กับกลุ่มบริษัท
- ณ ตอนนี้เราโฟกัสที่ตัวพลังงาน เพราะว่าอย่างที่เรียนไปว่าการเปิด PDPใหม่ปี 2024 ในเรื่องของพลังงานหมุนเวียนเราโฟกัส
- ในส่วนของ Infrastructure ถ้าเปิดประมูล เราจะเข้าร่วมประมูลมากขึ้น
- ในสัดส่วนของผู้ถือหุ้นเราจะถือหุ้นมากขึ้น เพื่อที่จะสร้าง Recurring Incomeให้เข้ามาเพื่อที่จะบริหารพอร์ตรายได้ของเรา
- หลัก ๆ ที่เพิ่มขึ้นจากโครงการโซลาร์ 5 โรง และ MRT สายสีม่วง
- จาก Forcast ของคมนาคมประมาณแสนคนต่อเที่ยวต่อวัน
- เน้นลงทุนในรูปแบบของ Renewable โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ดูหมด ว่าจะเป็นโรงไฟฟ้าขยะ โซลาร์ ลม ชีวมวล เราดูหมด
- หลัก ๆ เลยถ้าเมืองไทยตอนนี้ถ้าเป็นขยะ Return จะค่อนข้างที่จะดี เพราะว่ายังมี adder อยู่ แต่ว่าถ้าเป็น solar adder จะไม่มีแล้ว
- ในส่วนของการจะลงทุนเป็นทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็น green fuel หรือว่าเป็นการไปซื้อเป็นเมกะวัตต์
- ส่วนเป้าหมาย คงยังต้องดูกันว่าจะยังไง เพราะตอนนี้เราเพิ่งเพิ่งจะช่วงอยู่ในช่วงเริ่มต้น
- มองว่าเป็นความเสี่ยง ไม่ได้เป็นความกังวล เพราะว่าเรามีทีมที่ที่ดูด้านด้านนี้อยู่ ในการประเมินความเสี่ยงว่าการเข้าไปลงในทุน
- ในเวียดนามจริง ๆ แล้วรัฐบาลเวียดนามเองค่อนข้างให้สิทธิพิเศษกับนักลงทุนที่เข้าไปลงทุนโรงไฟฟ้า เพราะว่าก่อนหน้ามีเรื่องของไฟฟ้าดับค่อนข้างเยอะแล้ว การดับของของโรงไฟฟ้าค่อนข้างที่จะสูง ฉะนั้น รัฐบาลเวียดนามเองอตอนนี้เค้ากลับมาให้สิทธิพิเศษสําหรับนักลงทุนที่จะเข้าไปไปลงทุนในเวียดนาม
- มี เรามีทีมยั่งยืน จะจัดการในเรื่องของคาร์บอนเครดิตให้เรียบร้อยหรือว่าเผื่อว่าจะจะมีการซื้อขายคาร์บอนเครดิตในอนาคต หรือแม้แต่การทําภาษีคาร์บอนเครดิต ตอนนี้เราทําการศึกษาอยู่ ฉะนั้น บริษัท active มากในเรื่องกับความยั่งยืน ให้ความสําคัญมากมากเลย ยิ่งทําธุรกิจโรงไฟฟ้าจะต้องยิ่งเน้นในเรื่องของการทําเรื่องความยั่งยืนในเรื่องของการทํากับชุมชน
- ประมาณ 88,000 อย่างที่เรียนแจ้ง ครึ่งปีแรกอาจจะยังไม่เห็น Backlog หรือ New Order เข้ามา ไตรมาส 3 ไตรมาส 4 จะเห็น
- เพิ่มขึ้น ทั้งเหลืองและชมพู สําหรับถ้าเป็นเหลือง หลังจากที่เปิดให้บริการเดินรถตามปกติช่วงกลางเดือนมิถุนายนแล้ว Ridership กลับมาโตขึ้นอย่างมีนัยยะ เหลืองสูงสุดทําได้ถึง 48,000 ถ้าเป็นเฉลี่ยทั้ง 7 วันอยู่ประมาณเกือบ 40,000
- ส่วนชมพู สูงสุดเค้าทําได้ถึง 80,000 Average 7วัน ทําได้อยู่ประมาณสักเกือบ 50,000 ถือว่าดีขึ้นทั้งสองสายเมื่อเทียบกับไตรมาสที่สองที่ผ่านมา
- อย่างที่เรียนแจ้งไปว่าในไตรมาสที่ 3 ธุรกิจรถไฟฟ้าจะเป็นช่วงพีค มาจากหน้าฝน มาจากวันหยุดที่ไม่ค่อยมี แล้วเด็กยังเปิดเทอมอยู่ จะเป็นปัจจัยที่ช่วยเร่งในเรื่อง Ridership เข้ามา
- ทีนี้มองต่อไปในไตรมาสที่สี่อาจจะมีดรอปลงมาบ้าง เพราะว่าในไตรมาส 4 หน้าฝน ผ่านไปแล้ว เรามีวันหยุดบ้าง แต่ว่าจะไม่ได้เป็นหลุมลงไปเหมือนอย่างช่วงไตรมาสที่สอง อันนี้เป็นปกติเลยของของธุรกิจรถไฟฟ้า