สรุปเทคนิคและหลักการลงทุนของเซียนหุ้นอัจฉริยะ คุณฮง สถาพร⁣⁣

Post Reply
Thanonlongtun post
Posts: 377
Joined: Tue Dec 27, 2022 5:25 pm

สรุปหลักการลงทุนเซียนหุ้นอัจฉริยะ คุณฮง สถาพร.jpg
สรุปหลักการลงทุนเซียนหุ้นอัจฉริยะ คุณฮง สถาพร.jpg (698.36 KiB) Viewed 579 times
สรุปหลักการลงทุนเซียนหุ้นอัจฉริยะ คุณฮง สถาพร.jpg
สรุปหลักการลงทุนเซียนหุ้นอัจฉริยะ คุณฮง สถาพร.jpg (698.36 KiB) Viewed 579 times
 

สรุปเทคนิคและหลักการลงทุนของเซียนหุ้นอัจฉริยะ คุณฮง สถาพร⁣⁣
⁣⁣
คุณสถาพร งามเรืองพงษ์ หรือเซียนฮง นักลงทุนที่เป็นที่รู้จักกับดีโดยเฉพาะในเรื่องความขยันในการหาข้อมูลที่สุดคนหนึ่ง และเป็นมีระเบียบวินัยมากในการลงทุน วันนี้ชวนมาดู 7 เทคนิคลงทุนหุ้นฉบับ “เซียนฮง สถาพร ”⁣⁣
⁣⁣
ข้อที่ 1 “เตรียมตัวรับมือกับความผันผวนอยู่ตลอดเวลา”⁣⁣
⁣⁣
คุณฮงมักจะเปรียบเทียบผลตอบแทนกับความเสี่ยงที่จะได้รับอยู่เสมอ ไม่ได้มองแค่ผลตอบแทนที่จะได้รับอย่างเดียว⁣⁣
⁣⁣
⁣⁣
เช่น แม้ว่าหุ้นตัวนี้มีโอกาสกำไร 50% แต่มีโอกาสขาดทุน 50% แบบนี้จะถือว่าเป็นการลงทุนที่อาจไม่เหมาะสมเท่าไรนัก⁣⁣
⁣⁣
แต่ขณะที่หุ้นอีกตัว มีโอกาสให้ผลตอบแทน 50% เหมือนกัน แต่มีความเสี่ยงหรือโอกาสที่ราคาหุ้นจะลดลงเพียง 10% เท่านั้น หุ้นแบบนี้จะมีความน่าสนใจสำหรับการลงทุนมากกว่า⁣⁣
⁣⁣
ข้อที่ 2 “ศึกษาประวัติตลาดหุ้น”⁣⁣
⁣⁣
โดยดูว่าในอดีต ตลาดเคยมี P/E ย้อนหลังกี่เท่า ซึ่งยิ่งต่ำ ก็แปลว่ายิ่งดี ⁣⁣
⁣⁣
เช่น ในวิกฤตค่า P/E ตลาดหุ้นไทยเคยลงมาอยู่ที่ 4-6 เท่า แต่ช่วงที่ตลาดเป็นฟองสบู่มาก ๆ ค่า P/E อาจขึ้นไปได้ถึง 20-30 เท่า⁣⁣
⁣⁣
ดังนั้น เมื่อไหร่กตามที่ตลาดหุ้นมี P/E 20-30 เท่า ก็อาจจะมีความเสี่ยง ยิ่งถ้าไปซื้อตอน P/E 30 เท่าแล้วเจอวิกฤตขึ้นมา อาจจะขาดทุนหนักและขาดทุนนานก็เป็นได้ ⁣⁣
⁣⁣
ข้อที่ 3 “ลงทุนโดยใช้พื้นฐาน 99%”⁣⁣
⁣⁣
คุณฮงบอกว่าจริง ๆ แล้วสมัยที่พอร์ตของเขายังเล็กอยู่เขาใช้ Technical 30% และใช้ข้อมูลพื้นฐานอีก 70% ⁣⁣
⁣⁣
แต่เมื่อพอร์ตใหญ่ขึ้นแล้ว การจะซื้อขายหุ้นแต่ละครั้งลำบากมากเนื่องจากจำนวนหุ้นเยอะ ทำให้ตอนนี้ไม่ค่อยใช้ปัจจัยทางเทคนิคมากแล้ว และไปเน้นที่ปัจจัยพื้นฐาน 99% เลย⁣⁣
⁣⁣
ข้อที่ 4 “เลือกกิจการที่เติบโต โดยไม่ต้องใช้เงินลงทุนเยอะ” ⁣⁣
⁣⁣
ไม่ใช่หุ้นทุกตัวที่มีธุรกิจที่ดีเหมือนกันเสมอไป และธุรกิจที่ดีที่สุดคือธุรกิจที่สามารถเติบโตได้โดยไม่ต้องใช้เงินลงทุนเพิ่มเติม⁣⁣
⁣⁣
เพราะธุรกิจบางประเภทที่กว่าจะโตได้แต่ละครั้ง ต้องไปหาเงินทุนเพิ่ม จะทำให้การเติบโตของกำไรอาจมีความผันผวนได้ ⁣⁣
⁣⁣
ดังนั้น ถ้าเป็นธุรกิจที่ไม่ต้องใช้เงินลงทุนมาก จะช่วยให้กำไรไม่มีความผันผวน และเติบโตค่อย ๆ ขึ้นไป การลงทุนก็จะง่ายขึ้น⁣⁣
⁣⁣
นอกจากนี้ยังต้องเป็นหุ้นที่มีกระแสเงินสดมั่นคง บางธุรกิจกำไรดีแต่ขายของเป็นเงินเชื่อ ทำให้กระแสเงินสดไม่ดี ดังนั้น การจะลงทุนเพิ่มเติมหรือขยายกิจการก็จะทำได้ลำบาก ทำให้ราคาหุ้นไม่เติบโตได้อย่างที่คาดหวังไว้ แม้รายได้จะเติบโตก็ตาม ⁣⁣
⁣⁣
ข้อที่ 5 “ซื้อธุรกิจที่ไม่ล้มหายตายจาก”⁣⁣
⁣⁣
บางครั้งเราลงทุนในธุรกิจที่เป็นกระแส พอเศรษฐกิจดี ธุรกิจก็เติบโตได้ ⁣⁣
⁣⁣
แต่คุณฮงแนะนำว่า ให้เลือกลงทุนในธุรกิจที่ไม่ว่าเศรษฐกิจจะดีหรือไม่ดี ธุรกิจนั้นก็ยังดำเนินต่อไปได้ เช่น ธุรกิจโรงไฟฟ้า ธุรกิจโรงพยาบาล เป็นต้น ⁣⁣
⁣⁣
ที่สำคัญ ‘ต้องไม่เล่นหุ้นที่มีแต่ลมปาก’ เพราะหลายครั้งเวลาเราอ่านบทสัมภาษณ์ของผู้บริหาร ต้องดูว่าเขาพูดและทำได้จริงหรือไม่ ซึ่งเวลาเลือกลงทุน ก็ต้องหาผู้บริหารที่พูดจริง และทำจริงได้⁣⁣
⁣⁣
ข้อที่ 6 “ไม่ซื้อหุ้นที่ออกนอกแนวทางของตัวเอง” ⁣⁣
⁣⁣
หุ้นในตลาดมี 700-800 ตัว และยังแบ่งออกได้เป็นหลายประเภท ซึ่งการจะเข้าใจว่าหุ้นนั้นเป็นหุ้นสไตล์ไหน⁣⁣
สิ่งเหล่านี้จะสะท้อนมาที่งบการเงิน business model ของหุ้นตัวนั้น⁣⁣
⁣⁣
ซึ่งถ้าไม่ใช่หุ้นที่อยู่ในความเชี่ยวชาญ หรือไม่ใช่หุ้นที่คุณฮงชอบลงทุน ก็จะไม่ยุ่งเลย⁣⁣
⁣⁣
ข้อที่ 7 “เตรียมตัวอย่างไร สำคัญมากกว่าทำใจอย่างไร”⁣⁣
⁣⁣
ความสำคัญของการเป็นนักลงทุนไม่ได้อยู่ที่การทำใจ แต่อยู่ที่การเตรียมรับมือเมื่อตลาดเป็นขาลง⁣⁣
⁣⁣
การเตรียมตัว คือต้องเผื่อเงินไว้ใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อไม่ให้ตัวเราเองเครียดเกินไป อาจเตรียมเงินเผื่อไว้ใช้ชีวิตประจำวันอย่างน้อย 2-3 ปี เพื่อรอให้ช่วงขาลงของตลาดผ่านพ้นไปและหุ้นกลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้ง ⁣⁣
⁣⁣
ทั้งหมดนี้ เป็นหลักการที่ใช้ในการลงทุนของคุณฮง ที่แม้ว่าอ่านแล้วจะดูว่าเป็นหลักการที่ไม่ยาก แต่ภาคปฏิบัติจริง ๆ เรียกว่าไม่ได้ง่ายขนาดนั้น แต่ถ้ามีวินัยอย่างต่อเนื่อง เและมีการฝึกฝน เชื่อว่าเทคนิคเหล่านี้จะช่วยให้นักลงทุนเดินแบบไม่หลงทางแน่นอน⁣⁣
⁣⁣
อ้างอิง

 
Post Reply