Page 1 of 1

5 ลักษณะของหุ้นที่ควรรู้

Posted: Thu Jul 27, 2023 9:15 am
by Thanonlongtun post
5 ลักษณะ ของหุ้นที่ควรรู้-01.jpg
5 ลักษณะ ของหุ้นที่ควรรู้-01.jpg (508.88 KiB) Viewed 593 times
5 ลักษณะ ของหุ้นที่ควรรู้-01.jpg
5 ลักษณะ ของหุ้นที่ควรรู้-01.jpg (508.88 KiB) Viewed 593 times
 
5 ลักษณะของหุ้นที่ควรรู้⁣

ใครหลายคนมักพูดว่า “การเล่นหุ้น” เป็นเรื่องที่ยาก เพราะมันคือโลกของการลงทุนที่มีทั้งกำไรและขาดทุน มีความผันผวนตามภาวะเศรษฐกิจ จึงทำให้คนที่กำลังคิดที่จะเริ่มลงทุน เกิดความวังกลใจ หรือวิตกกับคำพูดเหล่านี้ ⁣

ซึ่งสำหรับมือใหม่ที่จะเริ่มต้นลงทุนในหุ้น สิ่งที่ควรรู้ของหุ้นแต่ละตัวในตลาดมีลักษณะที่แตกต่างกัน ทั้งพื้นฐาน ลักษณะของการเคลื่อนไหว หรือแม้แต่ลักษณะนิสัยของนักลงทุนเอง⁣

แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าหุ้นตัวไหนมีลักษณะอย่างไร? ถ้าลงทุนไปแล้วจะได้ผลตอบแทนดีหรือไม่? วันนี้นี้จะพาเราไปรู้จักกับ 5 ลักษณะของหุ้นที่นักลงทุนควรต้องรู้⁣

1. หุ้นเติบโต⁣
คือ หุ้นที่มีสินทรัพย์ รายได้ กำไรสูง และขยายตัวมากกว่าหุ้นตัวอื่นที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน ประเด็นสำคัญคือหุ้นตัวนั้นมี “วิธีโต” อย่างไร ที่จะทำให้เรามีความมั่นใจว่าการเติบโตนั้นจะไม่หดตัวลงในภายหลัง ซึ่งดูได้จาก⁣

- การขยายฐานลูกค้า ขยายสาขา ไปในที่ที่มีกำลังซื้อมาก⁣
- มียอดขายสูงขึ้นต่อเนื่อง หรือบางครั้งก้าวกระโดด⁣
- กิจการได้เปรียบทางการตลาดสูง หรือการแข่งขันของสินค้าเป็นแบบผูกขาด⁣
- ต้นทุนต่ำ กำไรสุทธิสูง โตขึ้นทุกปี⁣

หุ้นลักษณะนี้ มีข้อดีคือ “นักลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูง” ส่วนข้อเสียของ⁣
หุ้นเติบโตคือ “ได้รับเงินปันผลต่ำ”⁣

2. หุ้นฟื้นตัว⁣
คือ หุ้นที่เคยแย่หรือขาดทุนมาก่อน แต่เริ่มจะมีสัญญาณการฟื้นตัวชัดเจนขึ้น จึงมีโอกาสทำกำไรได้มาก แต่ความเสี่ยงก็มากด้วย ในบรรดาหุ้นทุกกลุ่ม กลุ่มนี้มีความเคลื่อนไหวสัมพันธ์กับตลาดน้อยที่สุด และมีความคาดหวังน้อยที่สุด เพราะเป็นหุ้นที่โตช้า แต่ถ้าหากว่าเราเลือกถูกตัว แล้วเมื่อหุ้นนั้นรอดกลับมาได้ มันจะให้ผลตอบแทนอย่างมหาศาล ⁣

หุ้นลักษณะนี้ มีข้อดีคือ “ราคาต่ำ” ส่วนข้อเสียของหุ้นคือ “ความเสี่ยงไม่กลับมาฟื้นตัว”⁣

3. หุ้นปันผล⁣
คือ หนึ่งในหุ้นหุ้นประเภทที่นักลงทุนต้องการมีเก็บไว้ในพอร์ตลงทุน เพื่อหวังที่จะได้เงินปันผลเป็นรายได้เสริม หรือรายได้หลักหลังเกษียณ หรือมีหุ้นปันผลเพื่อลดความเสี่ยงและให้มีอัตราผลตอบแทนที่ดีกว่าตลาด (Outperform) ในช่วงที่ตลาดหุ้นผันผวน เนื่องจากหุ้นลักษณะนี้ส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีธุรกิจที่อิ่มตัวแล้วนั่นเอง⁣

หุ้นปันผลนี้ มีข้อดีคือ “มั่นคง และได้รับปันผลสูง” ส่วนข้อเสียของหุ้นคือ “ธุรกิจเติบโตช้า” เพราะมีความอิ่มตัวแล้ว⁣

4. หุ้นปลอดภัย⁣
คือ หุ้นที่ไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ เช่น ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน⁣
หรือเรียกได้ว่า หุ้นกลุ่มนี้จะเน้นเรื่องความมั่นคงเป็นหลัก เนื่องจากยังมีความต้องการใช้สินค้าหรือบริการของบริษัทอย่างต่อเนื่อง ทำให้กำไรของบริษัทยังคงที่เช่นเดิม แต่ในช่วงที่เศรษฐกิจขยายตัว หุ้นกลุ่มนี้ก็มักจะทำผลตอบแทนได้ดีไม่เท่ากับหุ้นอื่น ๆ ในตลาดเช่นกัน⁣

หุ้นลักษณะนี้ มีข้อดีคือ “มีความผันผวนต่ำ” และข้อเสียคือ “ช่วงเศรษฐกิจเติบโต มักจะมีผลตอบแทนที่ต่ำกว่าตลาด”⁣

5. หุ้นวัฏจักร⁣
คือ หุ้นกลุ่มที่มียอดขายขึ้นและกำไรขึ้นลงเป็นประจำสม่ำเสมอ โดยเป็นไปตามกลไกของ Demand และ Supply ซึ่งสิ่งที่จำเป็นในการเข้าซื้อหุ้นวัฏจักรนั้นต้องรู้สัญญาณ หรือตัวบ่งชี้บางอย่างที่สามารถบอกได้ว่า ธุรกิจกำลังตกต่ำลงหรือดีขึ้น เนื่องจากการเข้าซื้อหุ้นวัฏจักรในจังหวะที่ผิด อาจจะทำให้เราสูญเสียเงินเป็นจำนวนมหาศาล⁣

หุ้นลักษณะนี้ มีข้อดีคือ “ได้รับผลตอบแทนสูง เมื่อซื้อถูกจังหวะ” และข้อเสียคือ “คาดการณ์ผลประกอบการได้ยาก” เนื่องจากขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอก⁣

จะเห็นว่าหุ้นแต่ละตัวมีลักษณะที่แตกต่างกัน ซึ่งเราไม่จำเป็นต้องถนัดลงทุนในหุ้นทุกชนิด แต่เราควรเข้าใจและศึกษาถึงเบื้องลึกของหุ้นที่เราสนใจ เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุน⁣

อ้างอิง⁣
https://www.finnomena.com/bottomliner/6 ... of-stocks/ 
https://portal.set.or.th/th/investnow/a ... k-dividend
https://www.setinvestnow.com/th/knowled ... k-dividend 
https://www.setinvestnow.com/th/stock/t ... sive-stock