Thanonlongtun

Oppday Year End 2022 บริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) KTIS


 

Oppday Q2/2023 บริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) KTIS



Presentation https://weblink.set.or.th/dat/registrat ... 3-KTIA.pdf
 

Oppday 9M/2023 KTIS บมจ. เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น



ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://listed-company-presentation.set ... h/vdo/5749 

Oppday Year End 2023 KTIS บมจ. เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น


ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://listed-company-presentation.set ... h/vdo/6081

Oppday year-end 2023 KTIS บมจ. เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น

ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://listed-company-presentation.set ... h/vdo/7441

 

สรุปคลิป Oppday year-end 2023 KTIS บมจ. เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น 

ผลประกอบการ Q1/2567 (ต.ค. 2566 - ธ.ค. 2566) 

• รายได้รวม 1,597 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่ 1,888 ล้านบาท รายได้หลักมากจากรายได้จากการขายและบริการ 
• ค่าใช้จ่าย 2,386 ล้านบาท ส่วนมากเป็นต้นทุนขาย 
• ขาดทุน 789 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ 112 ล้าน เนื่องจากปี /ถุึ ปริมาณอ้อยลดลงค่อนข้างมาก และ จำหน่ายสินค้าลดลงเทียบปี 2566

 สัดส่วนรายได้จากการขายและบริการ  

• 69.6%  น้ำตาลทรายและกากน้ำตาล 
• 13.9% เอทานอล 
• 8.5% เยื่อกระดาษชานอ้อย 
• 1,.8% ไฟฟ้าชีวมวล 
• 6.3% อื่น ๆ 

รายได้แต่ละธุรกิจ Q1/2567 (ต.ค. 2566- ธ.ค. 2566) 

รายได้ธุรกิจน้ำตาล   

รายได้รวม 1,030 ล้านบาท  ลดลงจากปีก่อนที่ 1,349 ล้าน  

• รายได้จากการขายน้ำตาลทรายในประเทศ 930 เทียบกับปีก่อนที่ 802 ล้าน 
• รายได้จากการขายน้ำตาลทรายต่างประเทศ 84 เทียบกับปีก่อรที่ 514 ล้าน
• รายได้จากการขายกากน้ำตาล 16 เทียบกับปีก่อนที่ 33 ล้าน 

ปริมาณการขายน้ำตาล  

• ในประเทศ 48,000 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน  ราคาต่อหน่วยปรับ 19,529 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 
• ต่างประเทศ 4,000 ตัน ลดลงจากปีก่อน  ราคาต่อหน่วย 23,938 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 

ปริมาณการขายกากน้ำตาล 

• 3,000 ตัน  ลดลงจากปีก่อน 
• ราคาต่อหน่วย 5,669 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 

ปริมาณการผลิต  

• อ้อย 4.6 ล้านต้น ลดลงจากปีก่อนที่ 6.9 ล้านตัน 
• น้ำตาลทราย 4.4 ล้านตัน ลดลงจากปีก่อนที่ 8.0 ล้านตัน 
• กากน้ำตาล 0.2 ล้านตัน เท่าระดับปีก่อน 

รายได้ธุรกิจเยื่อกระดาษ 

รายได้จากการขายเยื่อกระดาษ 126 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่ 160 ล้านบาท  

• ขายในประเทศ 29 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่ 36 ล้านบาท 
• ขายต่างประเทศ 97 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่ 124 ล้านบาท 

ปริมาณการขายเยื่อกระดาษ รวม 5,035 ตัน ลดลงจากปีก่อนที่ 5,587 ตัน  

• ขายในประเทศ 1,138 ตัน ลดลงจากปีก่อนที่ 1,430 ตัน  ราคาต่อหน่วย 25,307 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเล็กน้อยที่ 25,126 บาท 
• ขายต่างประเทศ 3,897 ตัน ลดลงจากปีก่อนที่ 4,157 ตัน ราคาต่อหน่วย 24,981 บาท ลดลงจากปีก่อนที่ 29,858 ตัน 

รายได้ธุรกิจเอทานอล  

• รายได้จากากรขายในประเทศ 205 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 186 ล้านบาท 
• ปริมาณการขายที่ 6,860 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 6,298 ล้านบาท
• ราคาขายต่อหน่วย 29.02 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 29.5 บาท 

รายได้ธุรกิจไฟฟ้าชีวมวล  

• รายได้รวม 26 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่ 113 ล้านบาท เนื่องจากเราเปิดหีบอ้อยช้าลงมาก เพราะปริมาณอ้อยทั่วประเทศที่ลดลง 
• ปริมาณการขายไฟฟ้า 7,571 MWH  ลดลงจากปีก่อนที่ 27,595 MWH 
• ราคาขาย 3.49 ต่อหน่วย ลดลงจากปีก่อนที่ 4.09 ต่อด้วย 

เงินปันผลปี 2566  

• ปันผลอัตราหุ้นละ 0.1 บาท กำหนดจ่าย 16 กุมภาพันธ์ 2567

แนวโน้มอุตสาหกรรมน้ำตาลทรายและอุตสาหกรรมชีวภาพ 

• ปัจจัยบวก คาดการณ์ปริมาณไทยปีนี้น้อยลงกว่าปีที่ผ่านมาจาก 93 ล้านต้นมาอยู่ที่ 70-80 ล้านตัน และ ปีนี้อินเดียจะไม่อนุญาตให้ส่งออกน้ำตาล เพราะปริมาณอ้อยน้อย แห้งแล้ง เป็นปัจจัยผลักดันให้ราคาเพิ่มขึ้น 
• ปัจจัยลบ สถานะกองทุน Net Long 23,000 lots กองทุนซื้อเก็งกำไรลดลง ปริมาณอ้อยเข้าหีบในบราซิลมากกว่าที่คาดการณ์ ราคาน้ำมันอยู่ในช่วง 77 USD/bbl ไม่จูงใจให้ผลิตเอทานาอล ค่าเงินบราซิลอ่อนค่าลงเล็กน้อย 

ความคืบหน้าโครงการนครสววรค์ไบโคอมเพล็กซ์ (NBC) 

• โครงการนครสวรรค์ไบโอคอมเพล็กซ์ เฟส 1 (GKBI) รับอ้อยเข้าหีบตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ผลิตเอทานอลได้น้อยกว่าแผน จากปริมาณอ้อยที่ลดลง จากภาวะภับแล้ง ฤดูกาลผลิตนี้ เริ่มขายไฟฟ้าให้ EGAT ตั้งแต่ธันวสคม 2566 และคาดว่าจะดำเนินการได้ตามแผน 
• โครงการนครสวรรค์ไบโอคอมเพล็กซ์ เฟส 2 การก่อสร้างโครงการล่าช้ากว่าแผน คาดว่าจะ COD ในไตรมาส 3 ปี 2567 

ความคืบหน้า โครงการบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมจากชานอ้อย (EPAC) 

• ติดตั้งเครื่องจักรครบแล้ว อยู่ระหว่างปรับจูนเครื่องจักรและกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพ
• เริ่มดำเนินการผลิตและจะส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้าเชิงพาณิชย์ภายใต้แบรนด์ CHARME เดือนเมษายน
• มีลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศมาเยี่ยมชมโรงงานอย่างต่อเนื่อง
• ปลายกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้ส่งสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่สารกันซึม PFAS ไปยังกลุ่มประเทศ EU 
• อยู่ระหว่างร่างกรอบความร่วมมือร่วมกัทำตลาดบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมชั้นนำของยูโรปเร็ว ๆ นี้ 
• ผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมจากชานอ้อย ได้รับใบรับรองมาตรฐานจากระดับโลกด้านการย่อยสลายของผลิตภัณฑ์ 
• อยู่ระหว่างการตรวจสอบในการรับรองมาตรฐานโรงงานด้านความปลอดภัยของอาหาร การผลิตFood Packaging ได้แก่ FSSC 22000, ISO 22000, GHPs/HACCP 

กลุ่ม KTIS และ GKBI ร่วมลงนาม MOU กับกรมพัฒนาที่ดิน  

• KTRD กับกรมที่ดิน บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “ระบบการบริหารจัดการดินพื้นที่เกษตรกรรม เพื่อเพิ่มผลผลิตอ้อยและเทคโนโลยีเครื่องจักรกลการเกษตร”
• GKBI กับกรมพัฒนาที่ดิน บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การศึกษาวิจัยและพัฒนาแนวทางการปลูกอ้อยให้มีผลผลิตสูง 

Q&A 

ปัจจัยบวกปี 2024 มีอะไรบ้าง  

• ราคาน้ำตาลภายในประเทศมีแนวโน้มปรับขึ้น 2 บาทต่อกิโล ทำให้มีรายได้จากการขายภายในประเทศเพิ่มขึ้นมากพอสมควร ทำให้กลุ่ม KTIS มีรายได้เพิ่มขึ้นและเกษตรการชาวไร่อ้อยก็มีราคาอ้อยมากขึ้นจูงใจให้เกษตรกรอยากปลูกอ้อยมากขึ้น ทำให้อนาคตปริมาณอ้อยน่าจะมีเพิ่มขึ้น 
• ปีนี้ราคาต่างประเทศแม้จะอ่อนตัวลงมา แต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี คาดว่าราคาน้ำตาลปีนี้ ที่รวม premium แล้วก็ยังดีอยู่ที่ประมาณ 25 เซ็นต์ 
• ค่าเงินบาทที่อ่อนตัวช่วยให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมน้ำตาลในไทยมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการส่งออก 65-70% ของการผลิตทั้งหมด
• ราคาเอทานอล มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปีที่แล้ว  คาดว่าปีนี้จะไปแตะระดับ 30 ราคายังดีอยู่
• ค่าไฟฟ้าคาดว่าจะยังอยู่ระดับ 3 บาทกว่า เป็นราคาที่ยังทำกำไรได้พอสมควร 
• อีกทั้ง 2 ธุรกิจใหม่ ได้แก่ บรรจุภันฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมที่จะเปิดดำเนินการเดือนเมษายน คาดว่าจะนำรายได้เข้ามาได้มากพอสมควร เพราะเป็นที่ต้องการของตลาด ผู้บริโภคให้ความใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และ บริษัท GKBI ที่จะเป็นปีแรกที่ขายไฟได้ทั้งปี ถ้าเฟส 2 เสร็จเร็วก็จะมีรายได้เข้ามามากขึ้น 
• เชื่อว่าปี 2024 จะเป็นปีที่ดีของ KTIS 

ธุรกิจบรรจุภัณฑ์สิ่งแวดล้อมเพื่อชานอ้อย ทำการตลาดไปบ้างหรือยัง  

• เรามีคุณภาพสินค้าที่ดี เป็นที่ยอมรับของตลาด 
• ส่วนมากจำหน่ายเป็น OEM ให้ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ​
• บริษัทผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมรายใหญ่ของโลกก็ให้ความสนใจที่อยากเข้ามาศึกษาร่วมกันในการเป็นพันธมิตรมทางธุรกิจ ซึ่งเขาก็มีลูกค้าอยู่ในมือจำนววนค่อนข้างมาก ทั้งในอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น 

ที่มา: https://www.youtube.com/watch?v=DVe-rIfCyF0 



 
 
 

Oppday 1H/2024 KTIS บมจ. เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น

ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://listed-company-presentation.set ... h/vdo/7444

Oppday 9M/2024 KTIS บมจ. เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น

ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://www.set.or.th/th/market/product ... y-snapshot