Thanonlongtun

Oppday Year End 2022 บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) SJWD


 

Oppday Q1/2023 บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) SJWD



Presentation https://weblink.set.or.th/dat/registrat ... 222023.pdf
 

เจาะลึก SJWD ผู้นำโลจิสติกส์ครบวงจรใหญ่สุดในอาเซียน | Right Now Ep.636


 
 

Oppday Q2/2023 SJWD บมจ. เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์



Presentation https://weblink.set.or.th/dat/registrat ... 3-SJWD.pdf

Oppday Q3/2023 SJWD บมจ. เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์


ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://listed-company-presentation.set ... h/vdo/6271

Oppday year-end 2023 SJWD บมจ. เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์

ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://listed-company-presentation.set ... h/vdo/7459

Oppday Q1/2024 SJWD บมจ. เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์

ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://listed-company-presentation.set ... h/vdo/7505

Oppday Q2/2024 SJWD บมจ. เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์

ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://www.set.or.th/th/market/product ... y-snapshot

 

สรุปคลิป Oppday Q2/2024 SJWD บมจ. เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์

ภาพรวมบริษัท

  

• ปัจจุบันมี Footprint อยู่ 9 ประเทศ ทั่วทั้งอาเซียน และจีนตอนใต้ พื้นที่ให้บริการมากกว่า 2.3 ล้านตารางเมตร และมีฟลีทรถที่วิ่งในเครือข่ายมากกว่า 14,000 คัน เรือลากจูงแม่น้ำมากกว่า 220 ลำ และฐานลูกค้ามากกว่า 2,400 ลำ 

  ธุรกิจแบ่งเป็น 2 ส่วน  

• ส่วนหลักเป็นรายได้ 85-88% อยู่ที่งาน Logistics & Supply Chain ซึ่งแบ่งย่อยเพิ่มเติมออกมาเป็น 4 งานย่อย ได้แก่ กลุ่มคลังสินค้าและลานจัดเก็บสินค้า กลุ่มการขนส่งและกระจายสินค้า กลุ่มงานลอจิสติกส์อื่น ๆ ที่ไม่ใช่ด้านของคลังสินค้าและขนส่ง และธุรกิจที่อยู่ต่างประเทศ 
• อีกส่วนหนึ่งจะเป็นธุรกิจอื่นที่สนับสนุนที่ไม่ใช่ตัว Logostic โดยตรง สัดส่วนประมาณ 12%

 Performance Q2/2024  

• ทำรายได้อยู่ที่ 5,845.9 ล้านบาท ทรงตัวทั้ง QoQ และ YoY 
• แต่ในขณะเดียวกัน เราสามารถที่จะทำผลกำไรสุทธิไตรมาสสองได้ค่อนข้างสูง ปิด Net Profit ที่ 514.8 ล้านบาท  
• องค์ประกอบของ Net Profit ประกอบไปด้วยสองส่วน ได้แก่ Net Operating Profit และ กำไรที่เกิดจากการเข้าไปลงทุน ซึ่งการลงทุนครั้งนี้เป็นการลงทุนที่ประสบผลสำเร็จ ในการเข้าซื้อกิจการในราคาที่ดีมาก ๆ และเกิดประโยชน์กับบริษัทในเชิงที่ว่าเราเข้าซื้อในราคที่ต่ำกว่าราคามูลค่ายุติธรรม ถือเป็นกำไรที่เกิดจากการซื้อของดีราคาถูก ควานหาธุรกิจที่เหมาะสม แสดงให้เห็นถึง synergy ที่เกิดขึ้นจากการควบรวมกิจการของ SCG Logistic กับ JWD Group เป็น SJWD ทำให้พาร์ทเนอร์ต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศมองเห็นศักยภาพและโอกาสทางธุรกิจที่เมื่อมีการรวมกันแล้วสามารถเติบโตไปด้วยกันได้ 

 Performance 6M/2024  

• รายได้ 6 เดือน 12,130.7 ล้านบาท 
• Net Profit 678.9 ล้านบาท 
• 88% เป็นงาน Logistics และ 12% เป็นรายได้ที่มากจากกลุ่มธุรกิจอื่น ๆ 

 การรับรู้รายการ Negative Goodwill ที่เกิดจากการที่เราเข้าซื้อบริษัท SWIFT ที่ราคาต่ำกว่ามูลค่ายุติธรรมอย่างมาก  

• เราเข้าซื้อด้วยจำนวนเงินลงทุน 864.9 ล้านบาท  
• สามารถที่จะรับรู้มูลค่ายุติธรรมสูงถึง 1,433.5 ล้านบาท 
• ทำให้มี Negative Goodwill ที่ 578.6 ล้านบาท 
• อีกทั้ง  SWIFT  มีแผนทำธุรกิจร่วมกับ SJWD อีกมากมาย ขยาย Footprint มาเลเซีย 

สัดส่วนรายได้ในธุรกิจต่าง ๆ  

ภาพอุตสาหกรรม Commodity  

• เป็นปีที่ค่อนข้างท้ายทาย เศรษฐกิจภาพรวมไม่ได้สดใส หลายอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบเช่นเดียวกับ Logistics 
• แต่ถือว่า SJWD เรายังมีความแข็งแกร่ง เราเน้นทำธุรกิจที่มีความหลากหลายครบถ้วนในเชิงกลุ่มลูกค้า การบริการ และการให้บริการกว้างขวาง ไม่ใช่เฉพาะในประเทศไทย เราจึงสามารถรรักาษาผลประกอบการที่ดีได้อย่างต่อเนื่องท่ามกลางสถานการณ์ที่ยากลำบาก 
• Commodity ตอนนี้ยังไม่ได้คึกคักมาก จากหลายปัจจัย Q2 วันหยุดเยอะ รอนโยบายภาครัฐมีความชัดเจน แต่เชื่อว่าใน Q3 การเมืองนิ่ง นโยบายภาครัฐดีขึ้น มีการอัดฉีดเม็ดเงินเข้ามาเพิ่มการก่อสร้าง น่าจะเป็นบวกต่อบริษัท 

 ภาพอุตสาหรรม Automotive  

• เทียบกับปีที่แล้ว ปีนี้ทางสถาบันการเงินต่าง ๆ มีความระมัดระวังในการปล่อยเงินกู้มากขึ้น ทำให้ยอดขายรถยนต์คึกคักน้อยลง 
• แต่เราก็ยังสามารถครองส่วนแบ่งตลาดที่ดี และสามารถ Bid งานจากลูกค้ารายเดิมและรายใหม่เข้ามาเพิ่มเติม ทำให้กำไรในกลุ่มนี้ของเรายังเติบโต แม้ภาพอุตสาหกรรมต้นปีที่ผ่านมาไม่คึกคักมาก
• แต่การเข้ามาของโมเดลใหม่ของรถ EV การเปิดโรงงานผลิตต่าง ๆ เพิ่มเติมในไตรมาสสามก็เป็นโอกาสในการเติบโตที่น่าติดตาม 

 ภาพอุตสาหกรรม Cold Chains Storage  

• เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าสนใจและเป็นหนึ่งในหัวหอกการทำกำไรของบริษัทมาโดยตลอด 
• ปีที่แล้ว กลุ่มห้องเย็นได้รับผลกระทบหนักจากปรากฎการณ์เอลนีโญ ทำให้ปลาจับยาก ราคาสูง ลูกค้าเก็บปลาน้อยลง ปีนี้ตรงกันข้าม ปลาเยอะมาก 
• ทำให้ปีนี้ Outlook ของฝั่ง Cold Chain ดีขึ้นกว่าปีที่แล้วอย่างชัดเจน และเชื่อมั่นว่าช่วง Q3 Q4 จะยิ่งดีขึ้น

 ทิศทางของบริษัท
 

• ธุรกิจยังคงมุ่งหน้าเติบโตหลังจากควบรวมกิจการ ตั้งเป้าเป็นผู้นำธุรกิจ Intregrated Logistic and Supply Chain ในภูมิภาคอาเซียน มุ่งมั่นที่จะเติบโตธุรกิจ ไปสู่ Market Cap 1 แสนล้าบาทในปี 2029 
• แผนธุรกิจยังคง 5 Pillar ไม่ว่าจะเป็น การขยายตัวไปในภูมิภาค การสร้าง Synergy เพิ่มยอดขาย เจาะตลาดกลุ่ม Consumer และการหา Business Opportunity ใหม่ ๆ เพิ่มเติมเสริมเข้ามา 
• เรามีการเน้นทำ Innovation R&D ค่อนข้างเยอะ และ Sustainability เป็นสิ่งที่เราทำมาตลอด และ  M&A จะมีให้เห็นต่อเนื่อง 

   

• จากปีนี้เราทำดีลใหญ่ไปแล้วเมื่อต้นปี 2 ดีล ล่าสุดเรามีการเข้าซื้อกิจการ SCG International Vietnamในส่วนของงาน Logistic เริ่มรับรู้รายได้และผลกำไรเข้ามาตั้งแต่ 1 มิถุนายน และจะเข้ามาเต็มไตรมาสใน Q3 Q4 

   

• มี Synergy ต่าง ๆ ที่เราได้มีการทำขึ้นมาในช่วงที่ผ่านมาหลาย ๆ อย่างเช่น การทำ Cost Saving / พัฒนาระบบ IT / เจาะตลาดใหม่ ๆ 

  

• และยังมี Synergy ที่สร้างกับ Partner ของเรา ไม่ว่าจะเป็น SWIFT ANI SINO OR 

   

• ไตรมาสที่ผ่านมา เรามีการสร้างคลังสินค้า พัฒนา Hard Asset ของเราอย่างต่อเนื่อง หลายคลังเสร็จสมบูรณ์แล้ว ปัจจุบันเริ่มมีสินค้าเข้าไปเก็บ 
• มีการขยายห้องเย็น เชียงใหม่ สระบุรี รังสิต 

การเสนอขายหุ้นกู้   

งานด้าน Sustainability  

• เราเน้นย้ำส่วนนี้ค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นการลงระบบในการจับข้อมูลด้าน ESG เพิ่มเติม จัด Logistic Camp ได้รับการตอบรับจากนักศึกษา อาจารย์ เป็นอย่างดี 

• นอกจากนี้ยังได้รับรางวัลด้าน Self Storage ดีเด่น จาก SSAA ทั้งระดับ Thailand และ Asia 
• และได้รับรางวัลต่าง ๆ เพิ่มเติมอีกมากมาย

 
Financial Performance   

• Q2/2024 ปิดรายได้ที่ 5,845.9 ล้านบาท  กำไรสทุธิ 514.8 ล้านบาท 
• 6M/2024 ปิดรายได้ที่ 12,130.7 ล้านบาท 
• ที่น่าสนใจคือใน Q2 เราสามารถพัฒนา Gross Profit Margin ได้ดีขึ้น 

 
ภาพแต่ละธุรกิจ   

• ธุรกิจคลังสินค้า คงความสามารถในการทำกำไรและมี Occupancy Rate ที่สูงมาอย่างต่อเนื่องมากกว่า 90% ครึ่งปีที่เหลือจะทำกำไรได้มากขึ้นและมีรายได้ที่สูงขึ้นจากากรรับพื้นที่แหลมฉบังจากอัลฟาเข้ามา   ส่วนคลังสินค้าในจีน Volum ยังทรงตัว ทำกำไรได้ต่อเนื่อง 
• Automotive อาจจะย่อตัวลงบ้างตาม Seasonality แต่ยังสามารถทำกำไรได้ดี
• ห้องเย็น มีการย่อตัวตาม Seasonality บ้าง  แต่ยังรายได้ดีและเชื่อมั่นว่า  Q3-Q4  จะทำได้ดีขึ้น กว่าในช่วงครึ่งปีแรก 

• กลุ่มขนส่ง ค่อนข้างใกล้เคียงกับไตรมาสหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น B2B หรือ B2C  ตัวที่น่าสนใจคือ Multimodel Transportation 

• ธุรกิจ Other Logistic งาน Relocation และ Self Storage มีการพัฒนาดีขึ้นหลังจากมีการีแบรนด์และพัฒนาทำให้รายได้เติบโตต่อเนื่อง 
• Freight ทำกำไรได้ดีมากในปีนี้ แม้รายได้จะดูย่อลง เกิดจากเปลี่ยน Process การทำงาน

 

• Oversea มีการเติบโตมากขึ้นตามลำดับ มีแผนการขยายตัวไปยังประเทศต่าง ๆ 

 อีกส่วนหนึ่งที่น่าสนใจ คือส่วนแบ่งกำไร  

• การลงทุนของเราหลายตัวคือเข้าไปในรูปแบบของ JV หรือ Affiliates  คือบริษัทในเครือ รับรู้เป็นส่วนแบ่งกำไรเข้ามา 
• จะเห็นได้ว่าใน Q2 เรามีส่วนแบ่งกำไรเข้ามา 104.5 ล้านบาท ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับ Q1 หรือ Q2 ปีก่อนอย่างเห็นได้ชัด 
• เราเชื่อมั่นว่า Q3 Q4 ก็จะยิ่งดีขึ้นจากการพัฒนาธุรกิจในเวียดนาม 

 Net Profit  

• Q2 กำไรปิดที่ 514.8 ล้านบาท 
• 6 เดือนปิดที่ 678.9 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนอย่างมีนัยสำคัญ 

 Financial Ratio  

• ค่อนข้างทรงตัว 

 Cash Flow ที่ค่อนข้างแข็งแรง 

• มีเงินสดคงเหลือ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 1,273.39 ล้านบาท 

Q&A 

ทุนจีนลงทุนในธุรกิจขนส่งในไทย กระทบบริษัทหรือไม่  

• เราได้รับ impact ค่อนข้างน้อย เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เป็น B2B ส่วนลูกค้าของจีนศูนย์เหรียญน่าจะเป็นธุรกิจ E-Commerce ต่าง ๆ ซึ่งจริง ๆ เขาเข้ามานานแล้ว 
• อย่างไรก็ตาม ภาครัฐกำลังเข้ามาตรวจสอบและออกมาตรการตั้งรับ เอกชนเสนอให้มีการจับมือระหว่างเอกชนไทยและเอกชนจีน ภาครัฐจะคุยกับรัฐบาลจีน 

 เห็นว่ามีการยุติการดำเนินการงานที่ท่าเรือ เป็นงานส่วนไหน  

• ท่าชายฝั่ง ซึ่งสัญญาหมด และ จำนวนตู้คอนเทนเนอร์ไม่ถึงเป้า เราทำมา 3 ปีกว่า ๆ ขาดทุนมาตลอด เป็นเรื่องดีมากกว่าที่เราเลิกทำ อีกทั้งเรามีท่าแม่น้ำอยู่ด้วยที่พระประแดง ก็ไม่จำเป็นต้องมีท่าชายฝั่งที่แหลมฉบังแล้ว 

 การปิดบริษัทย่อยที่สิงคโปร์ พม่า เพราะเหตุใด  

• เรามีบริษัทลูกที่เป็น JV กับพม่าอยู่แล้ว JCM เป็นบริษัทที่จดขึ้นมาตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว ตอนนี้จัด Structure ใหม่เพื่อลด Cost 
• ทุกอันที่เราไล่ปิดคือพอเรารวมกับ SCG Logistic พยายามจะจัดโครงสร้างรวมอะไรต่าง ๆ ให้ไม่ซ้ำซ้อนกันและลดค่าใช้จ่าย ทำให้การจัดการมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

 กำไรพิเศษจาก SWIFT ทำให้เราปันผลได้มากกว่าเดิมหรือไม่  

• ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และผลประกอบการในปีนี้  จริง ๆ ตัวที่เป็นกำไรพิเศษ เป็นเรื่องของ Non Cash คิดว่าต้องดูผลประกอบการ Q3 Q4  และดูการบริหาร cash flow เพราะปีนี้เราลงทุนเยอะพอสมควร 

นอกจากอุตสาหกรรมรถยนต์ ซึ่งมีการคู่ค้ากับจีน มีสินค้าไหนอีกไหม 

• นอกจากเรื่องรถยนต์ เรามีสินค้าข้ามแดน การขนส่งในจีน มาร์จิ้นไม่ได้มีการปรับขึ้นมาก เรามีการร่วมมือกับ Partner ในจีน CAS ในการให้บริการรถยนต์ EV เพิ่มเติม และยังมีเกี่ยวกับผลไม้ วัสดุก่อสร้าง 

มีแผนการลดขนาด Balance Sheet ลงหรือไม่ เพื่อสามารถเพิ่ม EPS  

• เรื่องของ REIT เราเองคงยังไม่ได้ตั้งในตัวเรา ส่วนอัลฟาที่เป็น JV เรามีแผนในการตั้ง ดังนั้น Asset ของเรายังคงอยู่ในไซส์ประมาณนี้แต่สิงที่ต้องจัดทำเพื่อจัดการกับ EPS คือการสร้าง Synergy ต่าง ๆ ทำให้ Earning เพิ่มขึ้น

 ยังมี Cost Saving จากการควบรวมกิจการกหรือไม่ จะเห็น GPM NPM ดีขึ้นกว่านี้ได้อีกหรือไม่ 

• เป็นเป้าที่เราคุยกันแต่แรกแล้วว่า EPS ปรับตัวดีขึ้น  หนึ่งปีกว่า ๆ ที่ผ่านมาเราลดต้นทุนได้ค่อนข้างเยอะ วันนี้เริ่มจะเห็นผล  NPM จะค่อย ๆ ทยอยปรับตัวดีขึ้น  วันนี้อยู่ในช่วงที่เรากำลังขยายงาน ยังมีค่าใช้จ่ายเช่น ค่าใช้จ่ายที่ปรึกษาการทำดีลก็เพิ่มเข้ามาในงบทุกไตรมาส คิดว่ายังเหลือรูมในการทำ Cost Saving อีกเยอะ สินค้าไหนที่ Margin ดีเราก็จะขยายงานในส่วนนั้น 

 ประเด็นตลาดตราสารหนี้ที่ผ่านมา กระทบการลงทุนเราหรือไม่  

• ไม่มีปัญหา เชื่อว่ายังได้ความมั่นใจจากตลาด มองว่าเป็นผลตรงข้าม ยิ่งตลาดเป็นแบบนี้ผู้ลงทุนก็ยิ่งมองหาหุ้นกู้ที่ไว้ใจได้ 

 ประเด็นผู้บริหารในบริษัทจดทะเบียน เรามีมาตรฐานอย่างไรให้มีความมั่นใจว่าธรรมาภิบาลของเราเข้มแข็ง  

• เรายังเชื่อมั่นว่างานที่เราทำมาทั้งหมดประกอบกับการที่ SCG Logistic เป็นบริษัทที่มี Governance ดีที่สุดบริษัทหนึ่งในเมืองไทย เข้ามาร่วมลงทุน ร่วมกันทำกับ SJWD เป็นเครื่องยืนยันว่าเราทำงานด้วยความโปร่งใส และ Internal Audit เราก็ได้ข้อชี้แนะและได้รับการคอนโทรลจาก SCG แม่ด้วย และเชื่อมั่นว่าจากที่เรารันบริษัทเป็น JWD สมัยก่อน ณ วันนี้ ความเข้าในแง่ตัว Governance หรือ Internal Control ยิ่งดีขึ้นไปอีก ขอให้เชื่อมั่นใน SJWD

 ภาวะเศรษฐกิจมีความท้าทาย คาดว่า Sector ไหนจะเป็น Key Driver การเติบโตผลประกอบการครึ่งปีหลัง  

• ห้องเย็นกลับมาดี และเรายังมีการลงทุนขยายเพิ่มเติม 
• รถยนต์ ปรับเพิ่มจากครึ่งปีแรก ลูกค้ารายใหญ่ BYD มีการผลิตรถยนต์ 
• อื่น ๆ มองว่าไม่ได้มีอะไรน่ากังวล 
• ซีเมนต์ วัสดุก่อสร้างแม้ยังไม่ได้ดีมากแต่ก็ปรับตัวขึ้นเยอะ 

 ผลดำเนินงานปีนี้ดูไม่ได้เติบโตมาก มีแผนชะลอการลงทุนหรือไม่  

• ลงทุนต่อเนื่องด้วยความรอบคอบ 

 สัดส่วนหนี้ อัตราดอกเบี้ย fixed float สัดส่วนเท่าไหร่  สกุลบาทหรือต่างประเทศ  

• Fixed 60% 
• Float 40%  
• 80-90% เป็นหนี้สกุลบาท ที่ออกนอกประเทสเราลงทุนแล้วทำ natural hedge ไม่มีความเสี่ยงด้าน currency exchange 

 การมี Asset และ scope งานที่กว้างและซับซ้อน มองความท้าทายอย่างไร และมีแผนสร้าง synergy อย่างไรบ้าง  

• มีแผนจับ Partnership กับบริษัท Logistic มาใช้ Asset ร่วมกันกับเรา 

 ทาง SCG มีส่วนร่วมในการบริหาร ควบคุม ตรวจสอบ คานอำนาจกันอย่างไร  

• SCG เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ใช้มาตรฐานเดียวกันกับ SCG และมีบอร์ดของเราเอง มีความคล่องตัว รวมจุดเด่นของทั้งคู่ไว้ด้วยกัน 

ที่มา: https://www.youtube.com/watch?v=AEdJHY0AH9M