อีกประเด็นสําคัญคือเรื่องของการลงทุนในบริษัm My Group Intelligent และ Ngern Rueang Jib
My Group Intelligent
เมื่อปีที่ประมาณไตรมาส 3 เราได้มีการทําสัญญาคือให้ทาง My Group กู้เงินเพื่อไปดําเนินธุรกิจ ส่วนหนึ่งเป็นการที่เราได้ศึกษาธุรกิจของ My Group ไปด้วยพอเราทํางานร่วมกันมีผลมองว่าน่าพึงพอใจในการที่ได้ทํางานร่วมกัน ดังนั้น เราเลยตัดสินใจที่จะลงทุนใน My Group จากตอนแรก My Group มีหุ้นอยู่ 3 ล้านหุ้น ปัจจุบันนี้เค้ามีการออกหุ้นใหม่ขึ้นมาซึ่งทาง TQM เข้าได้เข้าไปถือหุ้น 19.43% มูลค่า 300 ล้านบาท ทําให้เราได้ถือหุ้นใน My Group
My Group Intelligent ทำธุรกิจ My Save และ Shippop รวมทั้งหมด ทั้งสองกิจการจะมีจุดให้บริการอยู่ประมาณ 6,600 แห่ง ลักษณะของการให้บริการคือเป็นตัวแทนหรือว่านายหน้าที่จะเป็นการส่งสินค้า คือการที่ไปที่ Shop ของ My Save หรือ Shippop จะสามารถส่งสินค้าให้ได้กับผู้ให้บริการหลายเจ้า และที่สําคัญมีลักษณะที่ TQM เรามองว่าสอดคล้องกับตัวธุรกิจเราคือเขาจะเป็นลักษณะของ Asset light Model คือไม่ได้มีการลงทุนในการเปิดหน้าร้าน แต่ว่าจะมีตัวกลางเข้ามาช่วยดําเนินธุรกิจตรงนี้ สิ่งนี้จะช่วยเพิ่มกับเพิ่มช่องทางการที่เราจะเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น การที่เราเข้าถึงลูกค้าได้เป็นการเพิ่ม Opportunity ในการที่เราจะนําเสนอโปรดักต์ ทั้งผลิตภัณฑ์ประกันและผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้กับลูกค้า
ต่อมาคือในเรื่อง Digital Transformation อันนี้เรายังคงเดินหน้าทําตามแผน คือพยายามมาทําในเทคนําเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในเรื่องการ Operation ต่าง ๆ เช่นในเรื่องการจะนํา AI เข้ามาช่วยเพื่อให้งานต่างต่างเสร็จเร็วขึ้นหรือเราไม่ต้องทํางานที่ซ้ำซ้อน เราสามารถให้พนักงานเราไปทํางานอื่นที่มีความมีความยากเกินกว่าที่ AI จะทําได้ ทําให้เราสามารถบริหารคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในภาพรวมของครึ่งปียัง On Track อยู่ รอดูว่าในช่วงครึ่งปีหลัง ด้วยสภาพเศรษฐกิจที่น่าจะดีขึ้น มีเสถียรภาพกันมากขึ้น ในไตรมาส 4 จะเป็น high season เรารอดูในผลประกอบการในครึ่งปีหลังเพิ่มเติม
Financial Highlights Q2/2024
รายได้ไตรมาสสองเติบโต 6.4% YoY แต่ว่าลดลงมาซึ่งเป็นปกติของ Seasonality คือไตรมาสสองจะค่อนข้างเป็นไตรมาสที่ค่อนข้างน้อย จะไม่เหมือนกับไตรมาสหนึ่งไตรมาสสี่ที่จะเป็น High Season
แต่ว่าทุกคนอาจจะงงว่าทําไมเราถึงเอา My Save เข้ามา เป็นโบรกเกอร์โลจิสติกส์ ปีนี้กําไรคาดว่าไม่ต่ำกว่า 70 ล้าน และสิ่งที่ช่วยได้เลยคือ จะเข้าไปช่วยเรื่องของการทําให้เราเพิ่มความมั่นใจให้ลูกค้ไม่ว่าจะเป็นจุดขาย จุด Service เพราะว่าส่วนมากเค้าอยู่ในชุมชนเพราะฉะนั้นเวลาที่ลูกค้าจะซื้อประกันหรือสนใจประกันหรือชําถามเรื่องการชําระเงินหรือความมั่นใจการบริการของ TQM เองเราเอง เราลดเรื่องของการที่เราจะต้องไปเปิดสาขา เพราะว่าพอเป็นสาขาจะเป็น fixed cost ทั้งเรื่องของค่าเช่า หรือค่าพนักงาน แต่ว่า My Save ทำให้ว่าใช้ Service ของ My Save ได้เลย เท่ากับเราเพิ่มสาขาโดยไม่ต้องใช้เงินลงทุน และยังทําให้เราขยายการขายประกันเรื่องออนไลน์ซึ่งเป็นกลุ่มเฉพาะขึ้นมาได้ ทําให้เป็นตัวเสริมของฝั่ง TQM ของฝั่งประกัน ได้ทั้งประกัน ได้ทั้งเซอร์วิส ได้ความน่าเชื่อถือ
My Save เป็นแฟรนไชส์ ยิ่งเปิดสาขาเยอะมากเท่าไหร่ ยิ่งเพิ่มช่องทางในการขายได้เพิ่มมากขึ้นเพราะเรื่องทางการ service เพิ่มได้มากขึ้น เพราะฉะนั้นเอง TQM และ My Save ได้ Synergy กันในการที่เปิดตลาดเรื่องของการทํา logistics ถ้ากรณีที่ E commerce เติบโตขึ้น เป็นผลดีต่อ My Save
ช่วงไตรมาส 4 เราเองเราคงจะไปดูเรื่องเรื่องของการทํา cross sale โปรดักส์ประกันชีวิตเพราะเป็นช่วงที่ลูกค้าจะซื้อประกันเพื่อลดหย่อนภาษี โบนัสออกอาจจะซื้อประกันสุขภาพเพิ่มเติมให้กับตัวเองครอบครัวหรือลูกค้าบางท่านอาจจะใช้ประกันเป็นเครื่องมือในการในการบริหารเรื่องภาษีมรดก เราจะเน้นโฟกัสไปรายกลุ่มมากกว่า
ปีนี้ที่เรียนว่าเรา Developเทคโนโลยีของ TQC ที่เป็น third party claim เพื่อจะ service ลูกค้า เราเสร็จเมื่อประมาณช่วงต้นปี ออกตลาดลูกค้ามาละประมาณ 5-6 เดือนที่ผ่านมาซึ่งได้การตอบรับจากทั้งพาร์ทเนอร์บริษัทประกันภัยและโรงพยาบาลค่อนข้างดีมาก