Page 1 of 1
[INET] บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน)
Posted: Tue Apr 18, 2023 10:51 am
by thanonlongtun_p
Oppday Year End 2022 บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) INET
VIDEO
Re: [INET] บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน)
Posted: Wed Jun 21, 2023 5:55 pm
by thanonlongtun_p
Oppday Q1/2023 บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) INET
VIDEO
Presentation
https://weblink.set.or.th/dat/registrat ... 3-INET.pdf
Re: [INET] บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน)
Posted: Thu Sep 21, 2023 5:04 pm
by thanonlongtun_p
Oppday Q2/2023 INET บมจ. อินเทอร์เน็ตประเทศไทย
VIDEO
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://listed-company-presentation.set ... h/vdo/5873
Re: [INET] บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน)
Posted: Mon Nov 13, 2023 4:34 pm
by thanonlongtun_p
Oppday Q3/2023 INET บมจ. อินเทอร์เน็ตประเทศไทย
VIDEO
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://listed-company-presentation.set ... h/vdo/6207
Re: [INET] บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน)
Posted: Wed Mar 20, 2024 4:59 pm
by thanonlongtun_p
Oppday year-end 2023 INET บมจ. อินเทอร์เน็ตประเทศไทย
VIDEO
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://listed-company-presentation.set ... h/vdo/6802
Re: [INET] บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน)
Posted: Fri Jul 26, 2024 1:43 pm
by thanonlongtun_p
20240805 INET-01.jpg (300.41 KiB) Viewed 1435 times
20240805 INET-01.jpg (300.41 KiB) Viewed 1435 times
สรุปคลิป Oppday year-end 2023 INET บมจ. อินเทอร์เน็ตประเทศไทย
ทำความรู้จัก INET
อย่างที่นักลงทุนทุกท่านเคยทราบมาแล้วสําหรับนักลงทุนที่เค้าฟังครั้งแรกบริษัทอินเทอร์เน็ตประเทศไทยจํากัดมหาชนเป็นบริษัทที่ถูกถือหุ้นด้วยหน่วยงานภาครัฐ 49% เป็นส่วนของผู้ถือหุ้นรายย่อยอีก 51%
จัดตั้งเมื่อปี 2538 เข้าสู่บริษัทที่เป็นลักษณะของรัฐวิสาหกิจในปี 2540 และปี 2544 ได้แปรรูปเป็นมหาชนแล้วปี 2564 ได้เข้าจัดตั้งกอง REIT กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ใน INET-IDC3 เฟส1 ซึ่งคือเมื่อ 2-3 ปีที่แล้วประมาณ 4,300 ล้าน
มุ่งส่งเสริมคนเก่งเก่งให้ขึ้นมาเป็นเจ้าของกิจการที่เป็นนวัตกรรม
อนาคตอีก 7-8 ปีข้างหน้าเ ราพยายามจะสร้างตัว Platform Service Provider ขึ้นมาเป็นอีกหนึ่งเลเยอร์เหนือกว่า Cloud Service Provider
คงเป็นยุคใหม่ที่เราเรียกว่าเป็นDigital Platform Era ซึ่งสิ่งเหล่านี้อยู่ในช่วงของRoadmap ที่เราได้วางไว้ล่วงหน้ามาประมาณ 9 ปีที่แล้ว
ธุรกิจของ INET และกลุ่มลูกค้า
ลูกค้าเติบโตต่อเนื่อง ปัจจุบันมีลูกค้าที่เป็น Enterprise อยู่ที่ประมาณ 3,753 ราย เนื้องานคนส่วนใหญ่กังวลว่าเราเป็นภาครัฐ แต่จริง ๆ เรามีลูกค้าส่วนใหญ่เป็นเอกชนเพราะว่างานเราจริงจริงผู้ถือหุ้นหลักเรา คือทาง NTเป็นหน่วยงานที่ซัพพอร์ตหน่วยงานภาครัฐแล้วมีเรื่อง G2G ด้วย ดังนั้นINETมีเซ็กเมนต์ตลาดที่ค่อนข้างจะแตกต่างจาก NT ชัดเจนคือเราจะบุกเอกชนก่อน ส่วนที่ Goverment ทยอยเริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ เป็นเพราะว่าน่าจะเข้าสู่ตลาดที่เรียกว่า Platform แล้วในส่วนของCitizenอย่างที่เรียนอาจจะมีรูปแบบของนักพัฒนาที่มาซื้ออยู่บ้างเล็กน้อยมากมากประมาณ 1%
เรามีลูกค้าเอกชนเป็นส่วนใหญ่เป็นลูกค้าภาครัฐบางส่วนซึ่งอันนี้ในเชิง Cloud ถ้าเราเข้ากับภาครัฐเมื่อไหร่ ค่อนข้างมีปัญหาตรงที่ว่าเรา NT จะมีโอกาสเรียกว่าตกสเปคทั้งคู่ เราเลยอยากหลีกเลี่ยงแล้ววิ่งเฉพาะ Enterprise อย่างเดียว
Data Center & Innovation Hub
Data Center 3 ที่ 2โลเคชั่น กรุงเทพฯ และ สระบุรี และมีแผนไปตั้งขอนแก่น รวมถึงมีตัว Innovation Hub บ่มเพาะน้องเก่ง ๆ ที่เป็นเด็กจบใหม่ในสายวิชาชีพที่เราต้องการมาทํางาน ส่งอาจารย์สร้างหลักสูตรต่าง ๆ ไปสอนน้องกลุ่มนี้ให้เป็นนักพัฒนาโปรแกรมทําเรื่องของBig Data AI ต่าง ๆ จะมีที่เชียงใหม่ สงขลา ขอนแก่น
ภาพรวมอุตสาหกรรม
ภาพรวมเศรษฐกิจของไทยน่าจะเติบโตเล็กน้อย มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อแล้วมีความอาจจะเรียกว่าล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาล ส่งผลให้งบประมาณชะลอตัว เอกชนกังวล ทําให้เศรษฐกิจช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างจะชะลอ
แต่ทั้งนี้ในส่วนของ IT แทบจะเรียกว่าไม่มีผลกระทบเลยยังเติบโตอย่างต่อเนื่องทําให้ INET สามารถที่จะมีตัวของธุรกิจที่เรียกว่ามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยภายใต้แรงกดดันด้านเศรษฐกิจนั้นธุรกิจไอทียังเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกภาคส่วน มีการเปลี่ยนแปลงขององค์กรในไทยที่เค้าเรียกว่าDigital Transformation Wave ซึ่งเข้ามาทําให้รูปแบบของลูกค้าเราผันตัวเองเข้าสู่การใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่าพร้อมใช้มากขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทําให้ INET เชื่อได้ว่า ตลาดที่เป็นตัว Cloud Service จะโตอย่างก้าวกระโดด ในช่วง 2-3ปีหลังจากนี้ ซึ่งส่วนนี้INETคงต้องเร่งมุ่งเน้นสร้างความพร้อมบริการที่มีคุณภาพน่าเชื่อถือ รวมถึงมุ่งเน้นการลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อลดการนําเข้าที่ต่างประเทศ สร้างการบูรณาการความรู้สมัยใหม่ที่มีการประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับประเทศไทยผ่านรูปแบบของการ MOU ในหน่วยงานภาครัฐสําคัญที่คิดว่าเราสามารถเข้าไปช่วยทําDigital Transformation
การวัดหน่วยธุรกิจ
เข้าสู่บริการที่เรียกว่าเป็นการวัดหน่วยเป็น VMI (Virtual Machine Indicator)เป็นหน่วยวัดที่ทําให้เราสามารถเทียบเคียงตัวเองได้ตลอดเวลา ไม่มีจํานวนที่เรียกว่าเทียบเคียงไม่ได้ ดังนั้นการนับหน่วยของVMIจะกลายเป็นสแตนดาร์ดที่ใช้ที่เทียบกับตัวเองในงวดก่อน ๆ ทําให้นักลงทุนเชื่อมั่นได้ว่าเรามีการขยายขึ้นอย่างต่อเนื่อง เท่าที่เราสํารวจตัวVMIแล้วทําราคาเฉลี่ยของVMIเข้ามาจะพบว่าวีไอเหล่านี้ค่อนข้างจะอยู่ในราคาเฉลี่ยที่ประมาณ 2,500 บาทถึง 2,700 บาท นักลงทุนจะคํานวณได้เลยว่า ขณะตรงนี้พอจะเป็นธุรกิจที่มีsizingประมาณเท่าไหร่
Market Segmentation Strategy
โดยตัวธุรกิจของCloudช่วงก่อน เราเคยมีCloudสูงถึง 40,000 กว่า VMIแต่ว่านั่นเป็นช่วงเวลาที่เราทําราคาได้ค่อนข้างแย่ เป็นเหตุเพราะว่าการแข่งขันเราไปทําตลาดที่เรียกว่าเป็น แข่ง self service ซึ่งอันนั้นอาจจะไม่ใช่ตลาดที่ที่ต้องการคุณภาพสูงมากนักเราเลยเข้าสู่ตลาดที่เรียกว่า commercial และ enterprise cloud โดยให้น้ําหนักสูงสุดอยู่ที่ enterprise cloud ซึ่งทําราคาได้ค่อนข้างดี ส่วนนี้เลยทําให้INETค่อนข้างจะเน้นระบบสําคัญเช่น ERP ข้อมูลที่ต้องการความมั่นคงปลอดภัย ซึ่งอันนี้ลูกค้าส่วนใหญ่ยินดีจ่ายในคุณภาพที่แพงขึ้นในราคาที่แพงขึ้น ตลาดตอบรับดีมากจนทําให้เราเชื่อว่าตลาดนี้มีขนาดที่ใหญ่
โดยคาดการณ์ช่วงที่แล้วมาเรามีช่วงที่สูงสุดถึง 40,000 VMI ในช่วงปี 2021 มีลูกค้าถึง 4600 รายเลย แต่ว่าค่อนข้างจะ เล็ก ๆ น้อย ๆ มาก เป็นลูกค้าขนาด SME ก็มี ซึ่งช่วงนั้นเราพบเลยว่าราคาของเส้นสีแดงค่อนข้างน่ากังวล จนมีบางช่วงต่ำไปถึงประมาณ 1,400 บาทช่วงนั้นเป็นช่วงที่เราพบว่าตลาดค่อนข้างแปลก ลูกค้าโดยเฉพาะคู่แข่งพยายามจะแข่งราคาจนไม่สามารถควบคุมคุณภาพได้ เราเลยคิดว่าตลาดนั้นน่าจะไม่เหมาะกับเรา เราเลยผันตัวเองไปทํา enterprise cloud โดยใช้เวลา transition แล้วเปลี่ยนลูกค้าในกลุ่มที่เราถนัด คิดว่าเหมาะสมกับตลาดที่เราจะให้บริการ เราใช้กลยุทธ์ช่วงนั้นว่า secure market คือหาตลาดที่มันเป็นตลาดของเราจริง ๆ ยั่งยืนจริง ๆ พบว่าลูกค้า หายไปเยอะมากจาก 4600 เหลือ 2100 เลย VMI ก็ลดลงค่อนข้างหนักเลย จาก 40,000 เหลือ 33000
ในปี202 3 เราเริ่มทยอยกลับเข้าสู่การมุ่งเน้นการถ่ายลูกค้ากลุ่มเดิมเดิมรูปแบบวิธีการให้บริการที่เรียกว่าเป็น enterprise grade พบว่าตลาดดีขึ้น ลูกค้าแตะขึ้นมาถึง 3100 VMI สูงขึ้นเล็กน้อยแต่เนื่องจากยังมีการ ต่อเนื่องจากลูกค้าที่ terminate ออกไป แล้วมีลูกค้าใหม่เข้ามา ทําให้ลูกค้าโดยรวมยังเพิ่มขึ้นแต่ไม่เยอะ ช่วงนั้นมี VMI ขึ้นมาอยู่ที่ 35985 VMI ช่วงปลายปีที่ผ่านมา
ส่วนปีนี้น่าประทับใจ ลูกค้าโตขึ้นค่อนข้างดี ไตรมาสดียวโตขึ้นมาเกือบ 500 รายแล้ว กลางปีคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ประมาณ 51,000 VMI ปีนี้ 66,000 เป็นไปได้สูงมากเพราะว่าธุรกิจเราค่อนข้างมีความเป็น Enterprise
VMI Forecast
Capacity 75,000 VMI ที่เราให้บริการได้ ยิ่งโตเท่าไหร่โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่มต้น ทุนต่อหน่วยจะถูกลง แล้วน่าจะทําให้ผลกําไรดีขึ้นเรื่อย ๆ
หลัง ๆ คงไม่มีต้นทุนอะไรเพิ่มนอกจากค่าไปกับค่าไลเซนส์นิดหน่อย จะเป็นมาร์จิ้นที่ดี
แล้วถ้าเกิดเจอ 75,000 เราน่าจะมีลงทุน Hardware อีกสเต็ปนึง โดยไม่ต้องไปแตะ Data Center ซึ่งอันนั้นจะขึ้นไปที่ประมาณ 120,000-130,000 VMI ซึ่งถ้าโตอย่างงี้น่าจะพอใช้ได้อีกประมาณ 1-2 ปี เราต้องพูดถึงการขยายแล้ว Data Center ที่ขอนแก่น
Key Financial Performance
การให้บริการที่เริ่มลูกค้าที่ต้องการคุณภาพ รักษามาตรฐานฐานรายได้ที่ลูกค้าต้องการให้บริการด้านไอทีเป็น core backbone ของเขา แล้วลงทุนในการวิจัยพัฒนาเพื่อสร้างเทคโนโลยีทดแทน ลดการจ่ายออกรวมถึงพึ่งพาที่ดินในประเทศมากขึ้น อันที่3มีการลงทุนในด้านของIDCโดยเฉพาะเพื่อรองรับการเติบโตที่พึ่งพาตัวเองมากขึ้น แล้วสามารถทําให้IDCออกแบบให้ลงตัวกับจํานวน
Server Storage ที่ถูกออกแบบมาเพื่อทําCloud
ภาพรวมเลยคิดว่าตัวธุรกิจค่อนข้างจะไปได้ดี ลงทุนหนักจริง หนี้สินเยอะจริงแต่ว่าเป็นการลงทุนในธุรกิจที่เรียกว่าโตแล้วน่าจะเป็นผลบวกมากมากในสิ้นปีนี้
อธิบายเพิ่มเติมในส่วนของหนี้สิน ที่หลายท่านน่าจะกังวล เนื่องจากเราไปจัดเข้ากอง REIT วิธีการบันทึกบัญชีของกอง REIT เขามองว่าการระดมทุนอบนี้ไม่ใช่การขายขาด ห้ถือเป็นหนี้สิน แต่ในเชิงนิติกรรมสัญญาเราขายขาดไปแล้วเพียงแต่ว่าทางกลต. ให้บันทึกบัญชีเป็นเหมือนเจ้าหนี้ทางการเงิน แต่เป็นเจ้าหนี้ทางการเงินที่ไม่มีดอกเบี้ย เพราะว่ามันคือการแปลงค่าเช่ามาเป็นเจ้าหนี้แล้วให้คํานวณว่ามันคือดอกเบี้ยเท่าไหร่ แต่สัญญาที่เป็นนิติกรรมจริง ๆ คือเจ้าหนี้การค้าค่าเช่าตึก ทําให้เวลาไปคิดตัว IBD มันคิดแค่เฉพาะตัวหนี้สินทางการเงินที่มีสัญญาที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยจริง ๆ ซึ่งอันนั้นเทียบเท่าอยู่ประมาณ 56% ส่วนอีก 37 น่าจะเป็นหนี้สินจากกอง REIT ซึ่งการบันทึกบัญชีมองว่าเป็นเจ้าหนี้ทางการเงิน แต่ในทางนิติกรรมสัญญาเป็นเจ้าหนี้ทางการค้า วิธีบันทึกบัญชีเลยต้องอิงทาง กลต. ที่เขาให้บันทึกแบบนี้หมายความว่าสินทรัพย์เช่นเดียวกัน ทําให้เราต้องมีสินทรัพย์ที่บันทึกค่าเช่าล่วงหน้า ไปเป็นลักษณะของสินทรัพย์ที่รอตัด ซึ่งอันนี้ทําให้สินทรัพย์เราโดดเข้าไปอีก ทําให้หนี้สินค่อนข้างสูง แล้วสินทรัพย์ค่อนข้างสูง แต่จริง ๆ ไม่ได้เยอะขนาดนั้น หนี้สินเราอยู่จริง ๆ อยู่ที่ประมาณ 5-6 พันล้าน เมื่อเทียบขนาดธุรกิจที่กําลังจะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ มีโอกาสเติบโตสูง มีพื้นฐานของตลาดที่กําลังต้องการผู้ให้บริการอย่างเราอยู่ ไม่น่ากังวลเกินไป
อีกส่วนที่กระทยคือ ต้นทุน ต้นทุนส่วนใหญ่จะพบว่าเค้าย้ายในงบเค้าจะย้ายตัวค่าเช่าตึกที่เราไปขายแล้วเช่ากลับไปอยู่ในส่วนของต้นทุนทางการเงิน ทําให้GPเราดูโดดเหลือ ซึ่งจริง ๆ GPอยู่ที่ประมาณ 30% ซึ่งถือว่าเป็นGPที่ดี เพียงแต่GPที่เราเห็นโดดมันมี2ส่วน ส่วนหนึ่งคือเรื่องการบันทึกที่เอาค่าเช่าไปอยู่เป็นต้นทุนทางการเงิน กับอีกอันหนึ่งคืออยู่ในส่วนของการลดต้นทุนได้จริง อันนี้มาจากการที่เรามี Innovation บางอย่างแล้วมีการลดการจ่ายออก ทั้ง2ส่วนนี้ทําให้ตัวทั้งขวามือเป็นเมเนเจอร์รีพอร์ตที่เราใช้กันภายในมีการเติบโตGPประมาณ 38% นั่นหมายความว่าตัว 38% นั้นกํ าไรค่อนข้างดี แล้วขณะนี้ดูกันถ้าสังเกตดูในเชิง SG&A ที่เป็นดอกเบี้ยลดลงอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นงบที่เราใช้ทํางานในบริษัทอยู่ทางขวามือ งบที่นักลงทุนส่วนใหญ่เห็นคือซ้ายมือ ก็มีนักลงทุนหลายท่าน สถาบันทางการเงินมาสอบถาม เราก็ต้องชี้แจงไปแบบนี้ เชื่อว่าตัวบริษัทเราเองเรื่องหนี้สินจริงจริงอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่งบแสดงออก
คาดการณ์ว่าการ Terminate ของลูกค้าจะหมดลงใน Q2 ทำให้ตัวเราเองมีแต่ลูกค้า Enterprise ทั้งหมด และจะเริ่มเข้าสู่ภาวะที่มีแต่โตขึ้นไม่มีติดลบ นอกจากนี้ INET เพิ่งได้ BOI ค่อนข้างเป็นประโยชน์ต่อสภาพคล่องของบริษัท
ฐานะทางการเงิน
ถ้ารายได้เติบโตตามที่เราคาดการณ์ไว้เราจะเห็นการเติบโตที่น่าสนใจในสิ้นปีนี้
ตัวสินทรัพย์ตัวสินทรัพย์นี้จะมีสินทรัพย์อยู่จํานวนนึงที่เป็นสัญญาเช่าระยะยาว
IBD 2.27 ถือว่าค่อนข้างสูง แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้
กลยุทธ์ของธุรกิจ
Cloud Service เป็นฐานของINET ปีนี้คาดการณ์ว่าจะต้องจบให้ได้อยู่ที่ประมาณ 67,000 VMI
High Tech REIT ถ้า Capacity แตะขึ้นที่ 125,000 VMI แล้วต้องพิจารณาการสร้างที่ขอนแก่น
บริษัทลูกเริ่มผลิดอกออกผล ให้บริการหน่วยงานสำคัญของประเทศ
Customer Acquisition Strategy
INET เข้าหากลุ่ม Software Partner ช่วยลูกค้าเราทําธุรกิจไปกับSoftware Partnerที่ได้คุณภาพเพื่อให้งานต่าง ๆ ทําให้รอบของการขึ้น VMI เร็วขึ้น ที่ผ่านมาเราทํา Cloud งานเราเสร็จก่อนตลอด แต่จะไปติดเรื่องเช่น การติดตั้ง หรือ license ต่าง ๆ ปีนี้เราจะทำให้ทุกอย่างเร็วขึ้น ให้ทางพาร์ตเนอร์และลูกค้าสามารถขึ้นระบบด้านไอทีได้เร็วขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด อันนี้เรียกว่าเป็นกลยุทธ์ใหม่ที่เราจะเข้า
ปีนี้
เชื่อว่าลูกค้าเราส่วนใหญ่เข้าสู่ยุค 4.0 จะต้องทําธุรกรรมนึงเค้าเรียกว่า Digital Transformation แต่ถ้าทําแล้วมันนานเกินไป มันจะเป็นต้นทุนที่ต้องแบกทั้ง 3.0 4.0 อันนี้จะเร่งสปีดตัว 4.0 ให้เร็วขึ้นในการทรานส์ฟอร์ม
โดยจะดำเนินงานผ่านบริษัทลูกของเรา 40 กว่าบริษัท ลูกค้าของINET สามารถที่จะเข้าสู่เทคโนโลยีพวกนี้ได้ในต้นทุนที่ต่ำและเร็วขึ้น ทําให้การ transform เร็ว ตลาดโต ทำให้เราสามารถที่จะขยาย clod ได้อย่างคล่องตัว
ปัญหาต่อมาที่เราเจอ ต้องใช้เงินลงทุนสูง คือเรื่องคน ที่ต้องสร้างความรู้ สร้างคน เป็นงาน high level skill
เราทำเรื่อง Transformation ไปทำไม
ตอนจบคือการเอา Data ที่กระจัดกระจาย มาขึ้นตัว Platform ให้สําเร็จ จะทําให้ข้อมูลนั้นแม่นยําขึ้น วิเคราะห์ง่ายขึ้น ทํา Dashboard หรือ Scoring ต่าง ๆ ให้กับหน่วยงานที่ต้องการบริหารได้เร็วขึ้น
ซึ่งอันนี้เราเตรียมความพร้อมเพื่อให้มันขึ้นได้สปีดไวมากๆ
โดยที่เราไปช่วยตอนนี้คงจะเป็น Platform ด้านเกี่ยวข้อมูลทางสุขภาพ การศึกษา B2B Commerce โรงงานรวมถึง Local Business
MOU Strategy
ร่วมมือกับภาครัฐ ตัวอย่างเช่น หมอพร้อม คาดการณ์ว่าปีนี้ทั้งประเทศจะเข้า Smart Hospital 4.0
อีกอันที่เด่น ๆ กับภาคเอกเชนคือ iClaim ตัวกลางระหว่างโรงพยาบาลและระบบประกัน ข้อมูล realtime
Outlook 2024
VMI จากปีก่อน 35,000 จบปีนี้ด้วยการขึ้นมาถึง 66,00
จำนวนลูกค้าองค์กร ปีที่แล้วจบที่ 3,000 ปีนี้จะจบที่ 5,000 ราย
ยอดขายเติบโต 20%
เหล่านี้คือสิ่งที่เราดูจากปัจจัยทั้งหมดเราคิดว่าเราทําได้แล้วคิดว่าเป็นปีนี้น่าจะเป็นปีตั้งต้นของการเข้าสู่ธุรกิจ Platform เต็มรูปแบบ
ส่วน Cloud ก็จะเป็น Organic Growth ตาม Platform เพราะPlatform ยิ่งโตเร็ว Cloud ก็จะโตตาม Platform อยู่แล้ว
ดังนั้นตอนนี้แทนที่เราจะไปกังวลกับตัวCloudมากเรามาช่วยทําให้ Demand การใช้มันกระเพื่อมดีกว่า ซึ่งอันนั้นค่อนข้างจะชัดว่า INET ทําส่วนกระเพื่อม อานิสงส์จะตกที่เราเสมอ
กอง REITINET
Q&A
การเพิ่มจำนวนลูกค้า รายได้ต่อหัว
ลูกค้าเป็นดัชนีตาม ขอให้ลูกค้าเข้ามาก่อนและไว้ใจ INET ดังนั้น จำนวนลูกค้า สำคัญกว่ารายได้ต่อหัว อย่างตอน e-tax เราก็พยายามทำให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบได้เร็วเพื่อรับสิทธิที่สรรพากรช่วยเหลือ พอลูกค้าไว้ใจแล้วก็ง่ายขึ้นในเรื่องต่อ ๆ ไป
มีแผนลดต้นทุนตัวไหนบ้าง
หลัก ๆ คือค่าไฟ solar farm ช่วยได้เยอะ สองคือ license hypervisor ดูว่าเค้าจะขึ้นราคาหรือเปล่า สามคงเป็นเทคโนโลยีด้าน security กังวลมากเลยว่ามันจะแพงแค่ไหน ยิ่งซื้อแพงยิ่งต้องมาคิดราคาลูกค้าเราแพง คงจะต้องพัฒนาขึ้นมาเอง
เทียบกับ Global Cloud เราสู้ได้ไหม
ดูแลลูกค้าคนละแบบกัน Global Cloud ต้องการลูกค้าที่เก่งในการเข้าสู่ระบบได้ง่ายเพราะว่าส่วนใหญ่เป็นรูปแบบที่ต้องมีความรู้ระดับนึง เลยส่วน Local Cloud อย่างเราคือขอให้ยกหูมาเราซัพพอร์ตหมด ความต่างตรงนี้ค่อนข้างจะมีตลาดเซ็กเมนต์ที่ต่างกันจริง ๆ งั้นตอนเจอกันจริง ทางเราคิดว่าถ้าลูกค้าประเทศไทยต้องการ Local Cloud ที่สะดวกรวดเร็ว คล่องตัว และไม่จําเป็นที่จะต้องรู้เทคโนโลยีเยอะเกินไป ผมว่าเราถนัด ซึ่งกลุ่มนี้ลูกค้าพิสูจน์แล้วว่าโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
ในอีก 5 ถึง 10 ปีข้างหน้า INET จะเป็นบริษัทแบบไหน
ตอนนี้เราทําตัว Platform ให้แล้วเสร็จ ข้อมูลมันแล้วเสร็จจะเข้าสู่เรื่อง AI ข้อมูลเหมือนเชื้อเพลิงของ AI สิ่งเหล่านั้นจะเป็นคล้ายคล้ายกรรมสิทธิ์ เป็นสิทธิที่ประเทศไทย บริษัทเก่ง ๆ ที่อยู่ใน Local ทั้งหมด จะเอาไปใช้ประโยชน์ต่อยอด
ทำไม e tax ดูรายได้ดูไม่โตเท่าที่ควร ทั้งที่ลูกค้าเยอะ
e tax เราใช้วิธีการทําราคาให้ตำ่ที่สุด เพื่อให้คนที่เข้ามาค่อนข้างคล่อง น่าจะ transaction เฉลี่ย 1 บาท ตอนที่เราเข้าไปทําตลาด transaction เยอะมาก ในระยะในระยะเวลา2-3ปีนี้น่าจะแตะพันล้าน transaction ต่อเดือน ซึ่งตอนนี้ที่เราขายอยู่ประมาณแค่ 10 ล้านกว่า แสดงว่าตลาดเพิ่งจะ 1%- 2% ของที่ควรจะเป็น
สรรพากรมีแนวทาง ปี 70 ทั้งประเทศไทยจะเข้าสู่ระบบ e tax ทั้งหมด ดังนั้นเราต้องการสร้างฐานลูกค้า สร้างการรับรู้ที่ต้นทุนที่เราเชื่อว่าถ้ามันใหญ่ต้นทุนนี้มันจะสเกลขึ้นไปดีกว่านี้เยอะคล้ายCloud ช่วงนั้นลงทุน หนักแต่ว่า scale ตลาดมันใหญ่พอ
งบลงทุนปีนี้เท่าไหร่
พันกว่าล้าน น้อยกว่าปีที่แล้ว 20-30%
มีบริษัทลูกจะเข้าตลาดหรือไม่
มีอยู่3-4 บริษัทแต่ว่าช่วงนี้ตลาดทุนค่อนข้างแปลก ๆ ดูเหมือนยังไม่ใช่จังหวะที่ลงแล้วจะดี แต่ว่าความพร้อมดี ขอดูสภาวะตลาดก่อน
การที่ผู้เล่นระดับโลก AWS เข้ามาลงทุน Cloud ในไทย มองอย่างไร
เปรียบ cloud เป็นโรงไฟฟ้า คือโรงไฟฟ้าที่มาเพรียว ๆ ยังไงต้องมีพวก SI เครื่องจักรที่ต่อไฟนั้นเข้ามาใช้งานก่อน INET เข้าไปทําให้เครื่องจักรที่เชื่อมต่อกับไฟ มีความคล่องตัวสะดวกในแบบที่คนไทยถนัด สิ่งเหล่านี้มันเป็นการแข่งในเรื่อง Serviceมากกว่าเรื่องของการทําโรงไฟฟ้ามาขายไฟอย่างเดียว บริการที่ต่อเชื่อมกับตัวเครื่องจักรที่ลูกค้าต้องการพร่องตัวสะดวก ไม่ว่าจะเป็นบริการ e tax ซึ่งผมว่า AWS ไม่ได้ทํา บริการที่จะต้องเก็บข้อมูลสําคัญที่ประเทศนี้น่าจะสบายใจที่ทางสรรพากรหรือหน่วยงานต่าง ๆ หน่วยงานสาธารณสุขสบายใจในการมาดูข้อกฎหมายคนไทย ซึ่งประเทศไทยcontrolได้
เหตุใดคิดว่าปีนี้จะเติบโตสูงถึง 20%
เราไม่มี Terminate แล้ว จากที่เราได้ทํากลยุทธ์ปรับตลาดขึ้นตลาดบน ที่ผ่านมามีลูกค้าตลาดกลางและล่างที่เค้าสู้ราคาไม่ไหว ช่วง2-3 ปีที่ผ่านมามี Terminate ค่อนข้างหนัก ทําให้รู้สึกว่าโตไม่เยอะ แต่หลังจากการเติบโตปีนี้จะดีขึ้นกว่าเดิมมาก
คาดการณ์ VMI เพิ่มขึ้นมาจากปัจจัยใด
ตลาดโตมาก ป็น digital transformation ที่ประเทศต้องการ เราเจอปัญหาว่าที่ผ่านมาเราวิ่งตลาดผิดไปหน่อย ลงไปที่ตลาดที่เรียกว่าตลาดล่างเกินไป ดังนั้น ถ้าตอนนี้เราปรับตลาดให้ตรงกับทิศทางที่วิเคราะห์แล้วว่าเป็นตลาดที่เหมาะกับอุตสาหกรรมนี้แล้ววิ่งอย่างต่อเนื่อง เราจะพบว่าการเติบโตนั้นต่อเนื่องยั่งยืนยาวนาน รวมถึงลูกค้าจะไม่กดราคาเกินไป ซึ่งทั้งหมดนี้น่าจะเป็นประโยชน์
ที่มา: https://www.youtube.com/watch?v=MLORQCFsxzw&t=70s
Re: [INET] บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน)
Posted: Wed Aug 28, 2024 8:59 pm
by thanonlongtun_p
Oppday Q2/2024 INET บมจ. อินเทอร์เน็ตประเทศไทย
VIDEO
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://www.set.or.th/th/market/product ... y-snapshot