Thanonlongtun

 

สรุปคลิป Oppday Q2/2024 PLANB บมจ. แพลน บี มีเดีย 

Business Highlights & Performance

• ไตรมาสสองที่ผ่านมาPLANB ได้สร้างผลงานที่โดดเด่นอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถส่งมอบกําไรสุทธิอย่างแข็งแกร่งและมั่นคง สร้างการเติบโตในอัตราเลขสองหลักจากผลการดําเนินงานที่ดีขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ ควบคู่กับความสามารถในการรักษาอัตรากำไรขั้นต้นได้อย่างYoYม 
• ภาพใหญ่ที่เกิดขึ้นในไตรมาสที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยยังคงฟื้นได้ โดยมีปัจจัยหลักในการสนับสนุนการเติบโตคือภาคการท่องเที่ยว รวมถึงการได้รับผลดีจากมาตรการของรัฐ เช่น การยกเว้นวีซ่าและมาตรการกระตุ้นการบริโภค 
• อย่างไรตาม ท่ามกลางการฟื้นทางเศรษฐกิจ ยังมีหลายปัจจัยที่ต้องเฝ้าระวังเช่นหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมาและกลุ่มผู้มีรายได้น้อยหรือกลุ่มเปราะบาง ซึ่งยังคงเป็นปัจจัยที่บริษัทตระหนักและกังวลต่อเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลัง อย่างไรตาม ด้วยกลยุทธ์การทําธุรกิจเชิงรุกของ PLANB บริษัทสามารถสร้างการเติบโตในธุรกิจได้อย่างแข็งแกร่งและมั่นคงในไตรมาสที่ผ่านมา
• โดยมีรายได้อยู่ที่ 1,820 ล้านบาทเติบโตอย่างแข็งแกร่งทั้งQoQและYoYที่ 11% และ 12% ตามลําดับ ซึ่งสอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของเม็ดเงินสื่อโฆษณา 
• ทั้งนี้ การฟื้นของสื่อโฆษณาได้รับแรงสนับสนุนจากกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มรวมถึงกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีการเติบโตตามภาวะเศรษฐกิจที่ผ่านมา
• นอกจากนี้กลุ่มยานยนต์ยังคงดําเนินแคมเปญการตลาดอย่างต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้าด้วยเช่นกัน โดยรวมแล้วธุรกิจมีอัตราการใช้สื่อโฆษณาอยู่ที่ประมาณ 76% เติบโตYoY จากทุกกลุ่มโฆษณา เป็นไปตามแผนการดําเนินงานของบริษัท 
• ธุรกิจการตลาดแบบมีส่วนร่วม สามารถสร้างรายได้รวมอยู่ที่ 400 หนึ่งล้านบาทเติบโตเล็กน้อยที่ 1.5% YoYการเติบโตมาจากกลุ่มธุรกิจSport Marketing 
• ธุรกิจมวยได้สร้างรายได้อย่างแข็งแกร่งและได้รับการตอบรับที่ดีทั้งจาก ผู้ชมภายในต่างประเทศ ควบคู่กับการรับรู้รายได้งานกีฬาโอลิมปิกที่ผ่านมารวมถึงธุรกิจ Artist Management โดยเฉพาะ BNK48 ยังเติบโตได้ดีจากกิจกรรมคอนเสิร์ตและอีเวนต์ที่จัดเพิ่มมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมาเช่นเดียวกัน แม้ว่าบริษัทจะยกเลิกการรับรู้รายได้ออนไลน์แล้วตาม 
• บริษัทสามารถสร้างการเติบโตของกําไรสุทธิอย่างแข็งแกร่ง เท่ากับ 264 ล้านบาทเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนที่ 16% YoYจากผลการดําเนินงานที่ดีขึ้นของทุกกลุ่มธุรกิจ ควบคุมกับความสามารถในการทําอัตรากําไรข้างต้นที่สูงขึ้นเช่นเดียวกัน 
• ที่สําคัญบริษัทมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งพร้อมต่อยอดการลงทุนและธุรกิจในอนาคต โดยเราสามารถส่งมอบ EBITDA  ได้ถึง 626 ล้านบาท สะท้อนถึงความสามารถในการดําเนินการของบริษัทได้อย่างมั่นคง 
• บริษัทได้ทําการคืนหนี้สินระยะสั้นจากธนาคารเพิ่มขึ้นอีก 100 ล้านบาท ทําให้ปัจจุบันบริษัทเหลือหนี้สินระยะสั้นมูลค่า 165 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัท มี Net D/E   0.61เท่า IBD/E อยู่ที่ 0.14 เท่า สะท้อนสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัท 
• สุดท้ายแนวโน้มการดําเนินธุรกิจ 2024  ยังคงเป็นเช่นเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงโดยบริษัทเชื่อมั่นว่าจะสามารถส่งมอบรายได้และกําไรสุทธิให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างมั่นคง 

พอร์ตโฟลิโอมีความหลากหลายแล้วมีการเปลี่ยนแปลงและเติบโตในช่วงที่ผ่านมา

• จะสังเกตได้ว่าลูกค้า 10 รายแรกของPLANBเองมีสัดส่วนรายได้คิดเป็นประมาณ 20% ของรายได้รวมบริษัท 
• ในไตรมาสสอง ปี 2024 ที่ผ่านมา ลูกค้าหลายหลายกลุ่มยังมีอัตราการเติบโตของรายได้ที่สูงขึ้นเช่น กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ลูกค้ามีการโปรโมทสินค้าใหม่ใหม่ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา รวมถึงลูกค้ากลุ่ม Luxury Brand ยังคงมีการลงโฆษณาอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน 
• สองจะเป็นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ในช่วงที่ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมาเป็นช่วงหน้าร้อน ส่งผลให้ลูกค้ากลุ่มเครื่องดื่มหันมาลงโฆษณาและแคมเปญเพื่อโปรโมสินค้าเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน 
• กลุ่มที่สามคือกลุ่มยานยนต์โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่ม EV Car ยังคงดําเนินแคมเปญทางการตลาดอย่างต่อเนื่องจากไตรมาสที่ผ่านมาเช่นเดียวกัน 
• หลังจากที่กล่าวมาข้างต้น บริษัทสามารถสร้างรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ประมาณ 2,221 ล้านบาท เติบโตกว่า 10.2% YoY มาจากการเติบโตของทุกกลุ่มธุรกิจ

• สื่อโฆษณาภาพนิ่งและสื่อดิจิทัลยังคงเป็น Key Growth ของบริษัทนอกจากนี้เองในช่วงไตรมาสสองที่ผ่านมา บริษัทได้เริ่มการรับรู้รายได้จากสื่อโฆษณาใหม่ใหม่เพิ่มเติมเข้ามาเช่น สื่อดิจิทัลที่exchang tower และสื่อโฆษณาบนเครื่องบินในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานั่นเองส่งผลให้ภาพรวมของอัตราการใช้สื่อพัฒนาอยู่ที่ประมาณ 76%  เติบโตจากปีก่อนที่อยู่ที่ประมาณ 12%  
• รายได้รวมของธุรกิจการตลาดแบบมีส่วนร่วม โดยในไตรมาสสองที่ผ่านมาสามารถสร้างรายได้อยู่ที่ประมาณ 401 ล้านบาทเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ประมาณ 5 ล้านบาทหรือคิดเป็นประมาณ 1.5% YoY 
• อันดับที่หนึ่งธุรกิจ Sport Marketing ยังคงทําผลการดําเนินการได้อย่างดีเยี่ยมต่อเนื่อง สร้างการเติบโตประมาณ 6% YoY 
• ธุรกิจด้านArtist Managementสร้างการเติบโตที่ประมาณ 12% YoY จากการจัดกิจกรรมเพิ่มเติมมากขึ้น รวมถึงคอนเสิร์ต 
• อันที่ 3 จะเป็นกลุ่มธุรกิจบริการจัดการอีเว้นท์และคอนเสิร์ตในไตรมาสที่ผ่านมาสามารถสร้างรายได้ 13 ล้านบาท จากการจัดงานเทศกาลดนตรี Thai Rhythm 2024 เมื่อวันที่ 13-14 เมษายนที่ผ่านมา ทางเราเองคาดว่าจะมีการจัดกิจกรรมแบบนี้ทุกไตรมาสอย่างน้อยไตรมาสละหนึ่งครั้ง 
• อย่างไรตามทางบริษัทมีการยกเลิกการรับรู้รายได้ธุรกิจออนไลน์ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4 ปีที่แล้ว ส่งผลให้ในไตรมาสสองที่ผ่านมาบริษัทไม่ได้รับเงินก้อนนี้ 

ส่งผลให้ในไตรมาสสองปี 2024 บริษัทสามารถสร้างอัตรากำไรขั้นต้นอย่างแข็งแกร่งอยู่ที่ประมาณ 32% เติบโตขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ระดับ 29.8%

 

• SG&A มีการเติบโตราว 45 ล้านบาท ส่งผลให้สัดส่วน SG&A ต่อยอดขาย อยู่ที่ระดับ 14% ลดลง QoQ แต่เพิ่มขึ้น YoY สาเหตุหลักของการเพิ่มขึ้น YoY มาจาก
• หนึ่งค่าใช้จ่ายพนักงานและค่าผลประโยชน์พนักงานซึ่งเป็นไปตามผลประกอบการที่ดีขึ้นที่ประมาณ 28 ล้านบาท 
• ส่วนที่สองคือค่าใช้จ่ายการตั้งสํารองหนี้สงสัยจะสูญ ซึ่งเป็น one time itemที่ประมาณ 13.5 ล้านบาท
•  อย่างไรตามหากไม่รวมค่าใช้จ่ายในการตั้งสํารองหนี้หนี้สงสัยจะสูญที่ประมาณ 13.5 ล้านบาทนี้ จะส่งผลให้สัดส่วย SG&A  ต่อยอดขายของบริษัท อยู่ที่ประมาณ 13.3% 
• จากที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมดส่งผลให้ในไตรมาสที่ผ่านมามันบริษัทสามารถสร้างกําไรสุทธิได้อย่างแข็งแกร่งอยู่ที่ประมาณ 264 ล้านบาท 

กําไรสุทธิ

• หากบริษัทไม่ร่วมรายการ การตั้งสํารองหนี้สงสัยจะสูญ  13.5 ล้านบาทส่งผลให้บริษัทสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ส่งมอบกําไรสุทธิอยู่ที่ประมาณ 277 ล้านบาท เติบโตประมาณที่ 22% YoY
• อย่างไรตามบริษัทมีนโยบายในการติดตามลูกหนี้ค้างชําระอย่างใกล้ชิด โดยดําเนินการติดตามผ่านกระบวนการปกติและการฟ้องร้องอย่างเคร่งครัด บริษัทมั่นใจว่าสามารถจัดการค่าใช้จ่ายนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และหากบริษัทได้รับการชําระหนี้จากลูกค้าจะมีการปรับปรุงค่าใช้จ่ายดังกล่าวออกจากบริหารของบริษัทต่อไป 

Financial Performance 

• ฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งพร้อมต่อยอดการลงทุนและขยายธุรกิจในอนาคตส่งผลให้บริษัทมีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ประมาณ 16,429 ล้านบาท เพิ่มขึ้นที่ประมาณ 184 ล้านบาท
• ในส่วนของหนี้สินรวมอยู่ที่ประมาณ 6,731 ล้านบาท ลดลงราวราว 560 ล้านบาทเนื่องจากการลดลงของเงินกู้ยืมระยะสั้นจากธนาคาร และเจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้อื่น 
• ส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ประมาณ 9,698 ล้านบาทเพิ่มขึ้นราวราว 750 ล้านบาท จากผลประกอบการที่ดีขึ้นและกําไรสะสมที่ยังไม่จัดสรรที่เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน 
• ส่งผลให้ D/E ของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 0.69 เท่า
• Net D/E อยู่ที่ประมาณ  0.61 เท่า 
• IBD/E อยู่ที่ประมาณ 0.14เท่า และ Current Ratio อยู่ที่ 1.19 เท่า 
• เป็นการตอกย้ำถึงสถานะเงินที่แข็งแรงของบริษัท 
• cash flow เงินสดสุทธิจากการดําเนินงานอยู่ที่ประมาณ 1,725 ล้านบาท เพิ่มขึ้นราวราว 130 ล้านบาท จากกําไรจากการดําเนินงานที่เพิ่มขึ้น รวมถึงค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจําหน่ายที่เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน 
• เงินสดใช้ไปในกิจกรรมลงทุนอยู่ที่ประมาณ 281 ล้านบาท ลดลงกว่า 160 ล้านบาทจากเงินสดจ่ายซื้อสินทรัพย์ถาวร
• อันสุดท้ายเงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมจัดหาเงิน อยู่ที่ประมาณ 1710 ล้านบาท เพิ่มขึ้นราวราว 890 ล้านบาท จากเงินกู้ยืมระยะสั้นจากธนาคารที่ลดลง เงินสดจ่ายชําระหนี้สินสัญญาเช่า แล้วเงินปันผลจ่าย 

Key Business Update

• สื่อแรกเลยจะเป็นสื่อบนสายการบินไทยจะมีสองแพ็คเกจด้วยกัน แพ็คเกจแรกจะเป็นIn-Flight Mediaที่เคยได้แจ้งชี้แจงไปในช่วงไตรมาสก่อน แล้วอีกแพ็คเกจนึงจะเป็นMedia Kitอันนี้จะเป็นสื่อโฆษณาที่อยู่บนตั๋วเครื่องบินหรือว่าบอร์ดดิ้งพาส แล้วจะเป็นการแจกสินค้าอย่างบนไฟลท์บิน 
• โดยสื่อการบินไทยทั้งหมดของเราจะช่วยยกระดับแบรนด์ให้มีความโกลบอลมากขึ้นผ่านจุดหมายปลายทางกว่า 60 เมืองทั่วโลก 
• แล้วสื่อของเรามีการครอบคลุมทุกโมเมนต์การเดินทา งตั้งแต่ช่วงของเช็คอินจะมี สื่อโฆษณาบนบอร์ดดิ้งพาสในของส่วนของMedia Kitร่วมด้วยแล้วส่วนช่วงของการขึ้นเครื่องในช่วงออนบอร์ดจะมีทั้งสื่อโฆษณาบนจอในแต่ละที่นั่ง แล้วจะมีการแจกสินค้าบนเครื่องบินให้กับผู้โดยสารด้วย ส่วนที่สามจะเป็นช่วงที่เราอยู่ภายในสนามบินน่ะ จะมีทั้งในช่วงเข้าและขาออกเลย
• ส่วนอีกแพ็คเกจนึงจะเป็น Air Traveller Supreme  อันนี้จะเป็นสื่อที่อยู่บริเวณรอบอาคารผู้โดยสารภายในสนามบินสุวรรณภูมิ รวมไปถึงช่วงที่เป็นขาเข้าแล้วขาออกของสนามบินสุวรรณภูมิ แล้วจะมีจอเป็นทั้ง 17 จอเรียงต่อกันในทั้งขาเข้าและขาออกของสนามบินสุวรรณภูมิด้วย

 

• ในส่วนที่สองจะเป็นสื่อสื่อดิจิทัลบนตึก Exchange Tower อันนี้จะเป็นอาคารที่อยู่บริเวณใจกลางของ 4 แยกอโศก โดยสื่อดังกล่าวเราได้มีการดีไซน์จอให้รับกับมุมตึกโดยสื่อนี้จะครอบคลุมทั้งผู้ใช้รถใช้ถนนรวมไปถึงผู้ที่สัญจรไปไปมาผ่านการ การขนส่งสาธารณะทั้ง BTS แล้ว MRT ด้วย 

• ต่อไปจะเป็นของโปรแกรม Magnetic ที่เราได้มีการพัฒนาตั้งแต่ในช่วงปี 2020 เป็นต้นมา เราได้มีการ Launch ออกมาที่เป็นการทําผ่านการร่วมมือระหว่างPLANB และ Telco ในการทําข้อมูลวัดผลในการรับรู้สื่อโฆษณานอกบ้านที่มีประสิทธิภาพ
• เราได้มีการเรียนรู้แล้วต่อยอดพัฒนาโปรแกรมดังกล่าวด้วยเทคโนโลยีใหม่ใหม่ โดยผ่านทั้ง AI Technology  แล้ว CCTV  แล้วจะออกมาเป็น Magnetic 2.0 ที่จะ launch ออกมาในช่วงปี 2024  

• เราได้มีการร่วมมือกันระหว่าง AIS แล้ว QxygenAI ซึ่งเป็นผู้นําในด้านเทคโนโลยี AIS ที่จะเข้ามาช่วยพัฒนาประสิทธิภาพในการวัดผลสื่อโฆษณานอกบ้านของเราให้ก้าวไปอีกระดับ 

• โดยโปรแกรม Magnetic 2.0 จะเป็นเวอร์ชั่นที่มีการพัฒนาเทคโนโลยี โดยการนําข้อมูลจากการจากกล้องวงจรปิดจากกล้องCCTVที่ติดบริเวณป้ายสื่อโฆษณานอกบ้าน เข้ามาประมวลผลร่วมกับAI โดยเรามีการ Convert Traffic  Data ที่เราได้บนท้องถนนออกมาเป็นข้อมูล ทั้งจํานวนรถยนต์ ประเภทรถยนต์ แล้วรวมไปถึงยี่ห้อรถยนต์ด้วย 
• แล้วเราจะมีการนําอินไซด์ต่าง ๆ มาวิเคราะห์แล้วประมวลผลที่ละเอียดแล้วเรียลไทม์มากยิ่งขึ้น 
• โปรแกรมดังกล่าวจะช่วยในการวางแผนในการใช้เม็ดเงินสื่อโฆษณาของลูกค้าในแต่ละโลเคชั่นต่าง ๆ ให้เกิดประสิทธิผิดผลมากที่สุด 

• โดยข้อมูลที่สําคัญที่มีผลต่อนการวัดผลสื่อโฆษณานอกบ้าน จะมี 4 ตัวหลักด้วยกันแรกเลยจะเป็น Eyeball นี้จะเป็นการแสดงถึงจํานวนครั้งของการมองเห็นในสื่อโฆษณานอกบ้าน 
• ส่วนที่สองจะเป็นReachอันนี้จะเป็นแสดงให้ถึงถึงจํานวนคนที่มองเห็นสื่อโฆษณานอกบ้านในแต่ละโลเคชั่นนั้น ๆ
• ส่วนที่สามจะเป็น Profilling อันนี้จะเป็นการแสดงถึงประเภทรถยนต์ ยี่ห้อรถยนต์ต่าง ๆ ส่วนนี้จะเป็นการสะท้อนถึง purchaing power หรือว่า Tier ต่าง ๆ ของลูกค้าในบริเวณด้วย 
• ส่วนสุดท้ายส่วนที่ 4 จะเป็นExposure Time อันนี้จะเป็นระยะเวลาที่มีการรับรู้หรือว่ามองเห็นสื่อโฆษณา ในแต่ละโลเคชั่นนั้นนั้น
•  อันนี้จะเป็นตัวอย่างของรีพอร์ตที่เราได้มีการนํารวบรวมข้อมูลส่งให้ลูกค้าในทุก ๆ เดือน 

Engage marketing ใน sport 

• เราจะพูดถึงฟุตบอล โดยในไตรมาสสองที่ผ่านมาฟุตบอลทีมชาติไทยได้เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 ในรอบคัดเลือกโซนเอเชีย 
• โดยช่วงนี้ทางทีมชาติไทยอยู่ในระหว่างเตรียมเข้าสู่การแข่งขัน King Cups  AFC U-17 Asian Cup ที่จะมีการแข่งขันในช่วงเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ 

• อันนี้จะเป็นมวย กระแสของกีฬามวยไทยยังคงมีดีอย่างต่อเนื่องแล้วจํานวนนักท่องเที่ยวที่สนใจในด้านมวยไทยมีจํานวนเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน  จํานวนผู้เข้าชมที่เข้ามาชมในสามมวยราชดําเนินไต่ระดับจากช่วงสิ้นปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย 6 เดือนแรกมีผู้เข้าชมการแข่งขันมวยไทยในเวทีมวยราชดําเนินรวมกว่า 140,000 คน เฉลี่ยอยู่ที่ราวดือนละ 20,000 คน 
• ค่าเฉลี่ยของตั๋วเข้าชมการแข่งขัน มีการเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกันสนับสนุนจากจํานวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน 
• มวยไทย เริ่ม Tournament ใหม่การแข่งขันดังกล่าวเราเริ่มตั้งแต่ในช่วงวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมายืนยาวไปจนถึงช่วงวันที่ 14 ธันวาคม

โอลิมปิก

• มีการทําMarketing Communication  Plan ทั้งหมด 5 เฟส ด้วยกันโดยเฟสหนึ่งกับเฟสสองเราได้เริ่มเป็นในช่วงไตรมาสสองที่ผ่านมาจะเป็นการนับถอยหลัง 100 วันก่อนที่จะเริ่มการแข่งขันโอลิมปิก Paris 
•  แล้วเฟสที่สองอยู่ในช่วงไตรมาสสองที่เดียวกันจะเป็นการPRแนะนํานักกีฬาต่าง ๆ ที่ได้เข้าร่วมในการเชิงโอลิมปิกในครั้งนี้
• ส่วนเฟสที่สามแล้วเฟสที่สี่แล้วจะเริ่มในช่วงไตรมาสสามที่ผ่านมาจะเป็นช่วงแข่งขัน ตอนช่วงของการแข่งขันโอลิมปิก
• แล้วเฟสที่สี่จะเป็นการต้อนรับการกลับมาของกีฬาโอลิมปิก พร้อมทั้งการขอบคุณที่ได้ร่วมการแข่งขันในครั้งนี้
• รวมไปถึงการเกริ่นเข้าสู่ในช่วงการแข่งขันของพาราลิมปิกเกมส์ ที่จะจัดขึ้นที่ Paris เช่นเดียวกันจะมีการในช่วงวันที่ 20สิงหาคมที่จะถึงนี้จนถึงวันที่ 8 กันยายนจะเป็นเฟสที่ 5 ของเรา โดยทั้ง 5 เฟสเราจะมีการใช้กลยุทธ์ทางการตลาด

• Out-of-home  อันนี้เราจะใช้สื่อของเราในการ marketing ในการประชาสัมพันธ์แคมเปญต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับโอลิมปิก 

• On-Air มีการถ่ายทอดสดการกีอาการกีฬาโอลิมปิก  เราได้มีการใช้สื่อโฆษณานอกบ้านของเราให้เป็นประโยชน์ในการถ่ายเฉพาะสดการกีฬาแมตช์สําคัญต่าง ๆ ทั้งที่บริเวณสยาม สามย่านมิตรทาวน์ บริเวณหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ ล่าสุดที่ผ่านมาจะมีการ การถ่ายทอดสดที่การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของวิวด้วย 

• Online มีการPRในส่วนของแคมเปญนี้ตั้งแต่ช่วงนับถอยหลัง 100 วัน ผ่านเพจ facebook ต่าง ๆ รวมไปถึงการนํานักกีฬามาทํา Marketing แพลนต่าง ๆ เพื่อให้ ผู้ชมได้รับรู้ถึงนักกีฬาแต่ละคนได้รู้ได้ได้รู้จักเค้าเพิ่มมากขึ้นด้วย  

• On Ground รวมไปถึงเพจ facebook ของ stadiam ที่เป็นของเป็นของทาง PLANB ดูแลจะมีการอัปเดตแบบ Realtime ในข้อมูลที่บริเวณศูนย์การค้าของสามแยกทาวน์
• โดยเรามีกิจกรรมอินเตอร์แอคทีฟ ในบริเวณนั้น รวมไปถึงเราได้มีการเปิดพื้นที่ที่จะสามารถร่วมเชียร์ทีมชาติไทยได้บริเวณสามย่านมิตรการเช่นเดียวกันในช่วงที่ผ่านมา

  Achievements and Sustainability Highlights  ความสําเร็จแล้วความด้านความยั่งยืนของ PLANB

• ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการดําเนินธุรกิจอย่างโปร่งใส รับผิดชอบแล้วคํานึงถึงผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมด้วย 

• แคมเปญ ESG PLANB มีการจับมือร่วมกับสภากาชาดไทยในการเชิญชวนคนไทยบริจาคเลือด การผนึกกําลังระหว่างแบรนด์ชั้นนําทั้งในไทยแล้วระดับโลก 
• เป็นการสร้างความตระหนักรู้แล้วกระตุ้นให้คนเข้ามาบริจาคเลือดเพิ่มมากขึ้นด้วย 
• แคมเปญที่เราร่วมกัน 190 ประเทศทั่วโลกจะเป็นแคมเปญในการปิดไฟหนึ่งชั่วโมงเพื่อลดโลกร้อน อันนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนด้วย 

Guidance

• ปี 2024 นี้ทาง PLANB เองยังมีความเชื่อมั่นที่จะสร้างการเติบโตทั้งในส่วนของรายได้จากการขายแล้วกําลังสุทธิของผู้ถือหุ้นให้มีการเติบโตอย่างมั่นคง
• โดยในปีนี้เองเราตั้งเป้าการเติบโตของรายได้รวมอยู่ประมาณ 6 - 8%  โดยในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาเราสามารถทําได้ตามเป้าหมายแล้ว และในช่วงครึ่งปีหลังเรายังมีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างผลการที่อย่างโดดเด่น
• Outlook Q3 ที่เกิดขึ้นผลประกอบการยังมีการเติบโตอย่างแน่นอน อัตราการใช้สื่อโฆษณาในไตรมาสสามจะมีการเติบโต จาก Q2 ขึ้นอาจจะเติบโตกว่าเดิมเล็กน้อย เราคาดการณ์ว่าในไตรมาสสามอัตราการใช้สื่อจะอยู่ที่ประมาณ 76-77% 
• ในส่วนของธุรกิจ engagement marketing โดยเฉพาะกีฬา คาดว่าจะมีการรับรู้และโอลิมปิกส่วนที่เหลือเข้ามาทั้งหมด โดยในไตรมาสสองที่ผ่านมาเรารับรู้แล้วประมาณ 73 ล้านบาท ในส่วนของไตรมาสสามเราคาดว่าจะรับรู้เพิ่มเติมอีกประมาณซัก 450 ล้านบาท โดยโปรเจกต์เราคาดการณ์ว่า ทั้งหมด 530 ล้านบาท ยังคงตามแผนการดําเนินงานของบริษัท
• ในส่วนของอัตรากําไรข้างต้นประมาณการที่ 29-31 % โดยในช่วงครึ่งปีแรกเราทําได้เกือบเกือบ 30% ในช่วงครึ่งปีหลังเป็นช่วงที่จะเข้าสู่ช่วง high season มีความเชื่อมั่นว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะมีความสามารถที่จะเติบโตได้เช่นกัน ภาพทั้งปีจะสามารถแตะอยู่ในระดับ 29-31% ได้อย่างมั่นคง 
• ในส่วนของกําไรสุทธิมีความเชื่อมั่นเช่นเดียวกันว่าจะสามารถส่งมอบได้ที่มากกว่า 10%เป็นไปตามคาดการณ์ อีกครึ่งปีหลังมาดูต่อไปจะเป็นยังไง
• ข้อสุดท้าย CAPEX ยังคงมีแผนการใช้เงินที่เท่าเดิมที่ประมาณ 700-800 ล้านบาท โดยมากกว่า 70% จะเป็นในส่วนของการ Innovation ประมาณ 525 ล้านบาทถึง 600 ล้านบาท แล้วในส่วนของ New Project อีกประมาณวราว 175 - 200 ล้านบาท 

Q&A 

PLANB มีแผนจะขายหุ้นROCTECให้ BTS ในการทําเทนเดอร์หรือไม่

• BTS มีความมุ่งมั่นที่จะทําการเทนเดอร์หุ้นROCTECทั้งหมด ทั้งนี้การทําเทนเดอร์จะเกิดขึ้นต่อเมื่อทางBTSมีการประชุมอนุมัติผ่านอีจีเอ็มในวันที่ 30 กันยายน อย่างไรตามPLANBเอในปัจจุบันยังคิดว่าอนาคตเราคงจะยังไม่ขายหุ้นROCTECออกไปก่อน เราเรามั่นใจถึงกลยุทธ์และแผนการการดําเนินธุรกิจของROCTECว่าจะมีการเติบโตเพิ่มมากขึ้นในอนาคตปัจจุบันROCTECเค้าทรานส์ฟอร์มเองมาทําในธุรกิจ System Integration เพิ่มมากขึ้น จากการคุยกับทางกลุ่มROCTECมีทิศทางการดําเนิน ที่ที่ดีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทางกลุ่ม ROCTEC มีการขยายธุรกิจของเขาไปยังต่างประเทศในเอเชียเพิ่มมากขึ้นเหมือนกันแล้วเชื่อมั่นว่ากําไรของเขาจะมีการเพิ่มเติมมากขึ้นเช่นกันในอนาคต

จากข่าวท่าอากาศยานไทยขอคืนพื้นที่ 1,000 ตารางเมตรจากสนามบิน บริษัทประเมินผลกระทบต่อผลประกอบการบริษัทอย่างไรบ้าง 

• เข้าใจว่านี้น่าจะเป็นการขอพื้นที่คืนของทางคิงเพาเวอร์ ไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับทาง PLANB 
• อย่างไรตามสัดส่วนรายได้ของสื่อโฆษณาสนามบินของPLANBคิดเป็นประมาณ 4 -5% ของรายได้รวมทั้งหมดของบริษัท ถือว่าเป็นสัดส่วนที่ยังไม่ได้เยอะมากเท่าไหร่
• กรณี Worst Case อาจจะมีผลกระทบต่อโฆษณาของ PLANB ไปบ้างบางส่วนแต่ว่าเรามีความเชื่อมั่นว่า เราจะสามารถเพิ่มรายได้ส่วนอื่น ๆ เพื่อเข้ามาชดเชยในส่วนที่หายได้เช่นเดียวกัน ตอบคําถามคืนจะไม่มีความกังวลในส่วนนี้ 

ที่มา: https://www.youtube.com/watch?v=LjK7_Cqbd9k