[COTTO] บริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน)

Post Reply
thanonlongtun_p
Posts: 3145
Joined: Mon Apr 17, 2023 1:05 pm

Oppday Year End 2022 บริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน) COTTO


 
thanonlongtun_p
Posts: 3145
Joined: Mon Apr 17, 2023 1:05 pm

Oppday Q1/2023 บริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน) COTTO



Presentation https://weblink.set.or.th/dat/registrat ... -COTTO.pdf 
 
 
 
 
Thanonlongtun post
Posts: 377
Joined: Tue Dec 27, 2022 5:25 pm

20230523-COTTO.jpg
20230523-COTTO.jpg (455.67 KiB) Viewed 589 times
20230523-COTTO.jpg
20230523-COTTO.jpg (455.67 KiB) Viewed 589 times

ถอดเทป "Oppday Q1/2023 บริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน) COTTO⁣"

พิธีกร: สวัสดีค่ะ กลับมาพบกันอีกครั้งนะคะสำหรับ SET Opportunity Day ของบริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด(มหาชน) หรือ COTTO นะคะ ⁣

ในวันนี้บริษัทจะมารายงานผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 1 ปี 2566 รวมถึงสถานการณ์ตลาดและแนวโน้มธุรกิจให้ทุกท่านได้รับฟังกันนะคะ ก่อนจะเข้าสู่เนื้อหาของวันนี้ขออนุญาตแนะนำผู้นำเสนอเช่นเคยค่ะ ⁣


ท่านแรกคุ ณนำพล มลิชัย กรรมการผู้จัดการค่ะ ⁣

—-------⁣

นำพล มลิชัย: สวัสดีครับ⁣

—-------⁣

พิธีกร: และท่านที่สองนะคะ คุณวงศ์นรินทร์ แก้วชัยเจริญกิจ นักลงทุนสัมพันธ์⁣

—-------⁣

วงศ์นรินทร์ แก้วชัยเจริญกิจ: สวัสดีครับ⁣

—-------⁣

พิธีกร: จากนี้ขอนำทุกท่านเข้าสู่ช่วงของการนำเสนอผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2566 เรียนเชิญค่ะ⁣

—-------⁣

นำพล มลิชัย: ครับก็สวัสดีนะครับท่านผู้ถือหุ้น แล้วก็ท่านนักลงทุนทุกท่านนะครับ ก็ขอบคุณที่ให้เวลามารับชม แล้วก็รับฟังนะครับ ผลประกอบการของบริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ นะครับในไตรมาสที่ 1 ปี 2023 นี้นะครับ ⁣

ก็ Agenda ก็เป็นเหมือนเดิมนะครับ เป็น market Station นะครับแล้วก็จะเป็น Key financial นะครับแล้วก็เป็นตัว Strategy Update นะครับ แล้วก็สุดท้าย ก็จะมีเรื่องของตัว Market Outlook และจะเป็น Company Update ในช่วงสุดท้ายนะครับ ⁣

—-------⁣

I. Q1/23 Market Situation⁣

—-------⁣

นำพล มลิชัย: เรื่องแรกเป็นเรื่องของสถานการณ์ตลาดในไตรมาสที่ 1 ที่ผ่านมานะครับ⁣

ก็ช่วงไตรมาสที่ 1 ก็ถือว่าตลาดเนี่ยถือว่าทรงตัวนะครับกับปีที่แล้วนะครับก็ถือว่ามีบวกลบเล็กน้อยเท่านั้นเองนะฮะ ก็ถ้ามองถ้ามองเป็นแบบเป็น 2 ตลาดหลัก ๆ เนี่ย ในมุมของตลาดที่เป็นชาวบ้านจริง ๆ ที่กำลังซื้อโดยภาพรวมแล้วเนี่ยก็ถือว่าชะลอตัวลงทั้งประเทศนะครับ ⁣

แต่ก็จะมีเรื่องของตัวโครงการหรือว่า Developer เนี่ยนะครับ ที่ยังมีความต่อเนื่องมาจนถึงไตรมาสที่ 1 ก็เลยทำให้สภาพตลาดโดยรวมถือว่าทรงตัวนะครับ ตลาดชาวบ้านลดลงแต่ว่าอาจจะโครงการดีขึ้นนะครับ ⁣

เรื่องของต้นทุนพลังงาน ราคาก๊าซนะครับหรือว่าตัว Natural gas เนี่ยก็ถือว่าทรงๆตัวนะครับจากไตรมาสที่แล้วนะครับ แล้วก็ถ้าเทียบกับไตรมาส 1 ปีก่อนก็ถือว่ายังสูงขึ้นมากนะครับ แต่ในขณะที่ตัวต้นทุนพลังงานไฟฟ้าเนี่ยนะครับก็เพิ่มขึ้นต่อเนื่องนะครับอย่างที่เราทราบทราบกันนะครับ ก็ถือว่าถ้าโดยภาพรวมแล้วต้นทุนพลังงานในไตรมาสที่ 1 ก็ถือว่ายังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นครับต่อเนื่องนะครับ ⁣
สำหรับตลาด Export นะครับ ไตรมาสที่ 1 ก็ถือว่า Slow down อย่างชัดเจนนะครับโดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านนะฮะ โดยเฉพาะประเทศพม่าซึ่งเป็นตลาดหลักของเรานะครับ เนื่องจากความไม่สงบในประเทศพม่านะครับ ก็จะเป็นสถานการณ์หลักๆในไตรมาสที่ 1 ที่ที่เราเจอที่ผ่านมานะครับ ⁣

นำพล มลิชัย : ลำดับต่อไปนะครับก็จะเป็นเรื่องของตัว Key financials นะครับ เดี๋ยวผมขอเชิญคุณวงศ์นรินทร์ รายงานนะครับ⁣

—-------⁣

II. Q1/23 Key financials⁣

—-------⁣

วงศ์นรินทร์ แก้วชัยเจริญกิจ: ครับ ขอบคุณครับ⁣

ถัดไปจะเป็นตัวรายงานผลประกอบการนะครับสำหรับไตรมาสที่ 1 ปี 2566 นะครับ ⁣

ถ้ามาดูในภาพแรกนะครับจะเป็นปริมาณขายนะครับโดยในไตรมาส 1 ปีนี้นะครับ ปริมาณขายของเราทำได้ 18.1 ล้านตารางเมตรนะครับ ก็จะลดลง 10% y-o-y นะครับ แล้วก็เพิ่มขึ้น 9% q-o-q นะครับ ⁣

ถ้ามาดูราคาขายเฉลี่ยนะครับในไตรมาส 1 ปีนี้เราอยู่ที่ 178 บาทต่อตารางเมตรนะครับ ก็จะเพิ่มขึ้น 4 บาทต่อตารางเมตร ถ้าเทียบกับไตรมาส 4 ปีที่แล้วนะครับ หรือประมาณ 2% นะครับ ⁣

แต่หากเราไปเทียบราคาขายเฉลี่ยเมื่อไตรมาส 1 ปีที่แล้วนะฮะก็จะเห็นว่าเราเพิ่มขึ้นมาประมาณ 20 กว่าบาท นะครับ ก็อันนี้เกิดจากการที่เรามีการปรับราคาขายเพิ่มขึ้นนะครับเพื่อให้ Cover กับต้นทุนพลังงานนะครับ แต่ก็ต้องยอมรับว่านะครับว่าราคาขายที่เราปรับเพิ่มขึ้นเนี่ยอาจจะยังไม่ Cover ทั้งหมดนะครับ ⁣

ถ้ามาดูภาพรวมของปริมาณขายของไตรมาสที่ 1 นะครับท่านนักลงทุนจะเห็นว่าปริมาณสารมันลดลง 10% นะครับโดยหลักๆเนี่ยปริมาณขายมันจะลดลงจากตลาด Export นะครับ เนื่องจากว่าในตลาดเพื่อนบ้าน CLM มันมีสถานการณ์นะครับที่ไม่แน่นอนนะครับทำให้ตัว Volume เนี่ยของเราในตลาด Export เนี่ยลดลงนะครับค่อนข้างเยอะนะครับ ⁣

ถ้ามาดูแท่งกราฟสีส้มนะครับก็จะเห็นว่า Portions เนี่ยปริมาณขายจะลดลงจาก 25% เนี่ย 18% ในตลาด Export นะครับ แต่ถ้าตลาดในประเทศนะครับก็ยังถือว่ารักษาระดับได้นะครับก็จะลดลงเล็กน้อยนะครับ ทำให้ภาพรวมของ Volume ของไตรมาส 1 ปีนี้เนี่ยก็จะลดไปประมาณ 10% นะครับ ⁣

ถัดมาจะเป็นปริมาณขายนะครับ by segment นะครับก็จากที่ได้เรียนนะครับตลาดชาวบ้านเนี่ยมันชะลอตัวนะครับทำให้ตัว portions ของสินค้าของเราในกลุ่มของ Mass-Medium เนี่ยก็เปอร์เซ็นต์เนี่ยลดลงจาก 84% เหลือ 83% นะครับ ⁣

ในขณะเดียวกันนะครับสินค้า Medium-High นะครับก็ขยับเพิ่มขึ้นอันนี้มาจากงานโครงการนะครับที่ได้อนิสงค์จากภาคการท่องเที่ยวที่เปิดประเทศด้วยนะครับ ในหัวเมืองต่าง ๆ ก็มีการเรียกใช้ต่อเนื่อง รวมถึงในโครงการเนี่ยก็มีการเรียกใช้ตัวสินค้า Medium-High เพิ่มขึ้นทำให้ตัวพอชั่นของสินค้า Medium-High เนี่ยขยับจาก 16% เป็น 17% ในไตรมาส 1 ปีนี้นะครับ⁣

ถัดมาเป็นปริมาณขายรายภาคนะครับ สำหรับปริมาณขายรายภาคนะครับ จะเห็นว่าในส่วนของภาคเหนือภาคอีสานเนี่ย ตัวปริมาณขายจะลดลงค่อนข้างเยอะนะครับ อันนี้เกิดจากกำลังซื้อของผู้บริโภคเนี่ยชะลอตัวนะครับ ก็จะลบ 16% นะครับ ส่วนภาคกลางแล้วก็กรุงเทพฯและปริมณฑลนะครับก็จะบวกนะครับ 7% และ 8% ตามลำดับนะครับ  อันนี้ก็ได้จากภาคการท่องเที่ยวนะครับ พวกงานโครงการภาครัฐและเอกชนเนี่ยมีการเรียกสินค้าเข้าอย่างต่อเนื่องนะครับ  ส่วนภาคใต้ก็จะลดลงเล็กน้อยนะครับประมาณ 3% นะครับจากกำลังซื้อนะครับ⁣

ถัดมานะครับจะเป็นภาพของยอดขายนะครับในไตรมาสที่ 1 นะครับ ไตรมาส 1 ปีนี้เราทำได้ 3,457 ล้านบาทนะครับก็จะเพิ่มขึ้น 7% นะครับ y-o-y นะครับ และ 10% q-o-q นะครับ โดยในส่วนนี้เองนะครับ ยอดขายของเราเนี่ย เพิ่มขึ้นมาจากการปรับราคาขายเพิ่มขึ้นบางรายการนะครับ เพื่อลดผลกระทบจากต้นทุนพลังงานที่ยังอยู่ในระดับสูงอยู่นะครับ ⁣

นอกจากนี้เรามีรายการที่เป็นรายการขายที่ดิน เป็นรายได้จากการขายที่ดินเข้ามาอีก 1 รายการนะครับทำให้ตัวยอดขายปีนี้เนี่ยเราบวก 7% นะครับ เทียบ y-o-y นะครับ ⁣
ถ้ามาดูในแท่งด้านขวามือนะครับก็จะเห็นว่าสัดส่วนของสีส้มนะครับที่เป็นยอดขายของตลาด Export เนี่ยก็จะลดลงนะครับเดิมอยู่ที่ 21 % ก็ลดลง 15% อันนี้จาก Volume ขึ้นมาลดลงตามที่ได้เรียนนะครับส่วนตลาดต่างประเทศ ส่วนตลาดในประเทศนะครับก็จะเพิ่มขึ้นจากราคาขายที่เราปรับเพิ่มขึ้นนะครับ ⁣

ถัดมาในส่วนของตัว EBITDA นะครับ EBITDA ไตรมาส1 ปีนี้เติบโตนะครับ 9% y-o-y นะครับ อยู่ที่ 457ล้านบาทนะครับ ก็หลัก ๆ ก็ตามที่ได้เรียนนะครับ มาจากการลดต้นทุนนะครับ รวมถึงการปรับราคาบางส่วนนะครับ แล้วก็มีรายได้จากการขายที่ดินเพิ่มนะครับ⁣

โดย EBITDA Margin นะครับ ในไตรมาส1 ปีนี้อยู่ที่ 13.2% นะครับ ก็จะเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 ปีที่แล้วนะครับที่อยู่ที่ 13% นะครับ ภาพรวม EBITDA ก็เติบโต 9% นะครับก็เติบโตจาก 420 ล้านบาทเป็น 457 ล้านบาทนะครับ⁣

ถัดมาจะเป็นในส่วนของกำไรของบริษัทนะครับ กำไรของบริษัทไตรมาสนี้นะครับก็ทำได้อยู่ที่ 260 ล้านบาทนะครับ ก็จะเติบโต 23% y-o-y นะครับ ทั้งนี้ก็มาจากผลกระทบนะครับที่ต้นทุนที่มันเพิ่มสูงขึ้นเราก็มีการดันราคาเพื่อให้ Cover ต้นทุนนะครับ แล้วก็ชดเชย Volume ที่หายไปนะครับ แล้วก็มีการมีรายได้จากการขายที่ดินเข้ามาทำให้กำไรของบริษัทไตรมาส 1 ปีนี้เนี่ยอยู่ที่ 260 ล้านบาทนะครับ เติบโต 23% นะครับ⁣

แต่หากเราหักตัวรายการ Non-Recurring ออกนะครับ จากกำไรจากการขายที่ดิน กำไรของไตรมาส 1 ปีของเราอยู่ที่ 233 ล้านบาทนะครับ ซึ่งก็ยังเติบโตอยู่ประมาณ 10% นะครับแม้ว่าต้นทุนพลังงานในไตรมาส 1 ปีนี้จะสูงกว่าไตรมาส 1 ปีที่แล้วก็ตามนะครับ⁣

ถัดมาจะเป็นตัว VC นะครับ VC ถ้าดูภาพรวมนะครับไตรมาส 1 ปีนี้ก็ยังถือว่ายังยังสูงอยู่นะครับเมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปีที่แล้วนะครับ ก็เกิดจากตัวราคาพลังงานนะครับ รวมถึงค่าไฟที่มาเป็นตัว Drive ทำให้ตัวต้นทุนของเราเนี่ยเพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกันนะครับ⁣

และขณะที่ราคา Row Mat นะครับก็ก็เพิ่มขึ้นนะครับ Assign Cost พวกค่าซ่อม Maintenance ก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกันนะครับ ทำให้ภาพรวม VC เนี่ยไตรมาส 1 ปีนี้ยังอยู่ในระดับสูงอยู่นะครับ⁣

ถ้ามาดูตัวงบลงทุนนะครับ งบลงทุนในไตรมาส 1 ปีนี้เราใช้เงินไปทั้งหมด 236 ล้านบาทนะครับก็หลัก ๆ เลยก็จะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพนะครับร วมถึงการเน้นการลดต้นทุนนะครับเพิ่ม⁣
ประสิทธิภาพเครื่องจักรลดต้นทุนนะครับ การใช้พลังงานนะครับ พวก Cost saving, Energy saving ต่างๆ อันนี้เราเน้นอย่างต่อเนื่องนะครับ เพื่อลดผลกระทบจากต้นทุนพลังงานที่ส่งผลกับเราเมื่อปีที่แล้วนะครับร วมถึงการขยายคลังเซรามิกส์เนี่ยเราก็ยังมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกันนะครับ ถ้าภาพรวมทั้งปีเนี่ยเราคิดว่าน่าจะใช้เงินประมาณ 450 -500 ล้านบาทนะครับ ⁣

ถัดมาจะเป็นตัวดอกเบี้ยนะครับก็อยู่ที่ 1.4 ล้านบาทนะครับ ก็จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยนะครับเมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปีที่แล้ว ที่อยู่ที่ประมาณ 9 แสนนะครับ หลัก ๆ ก็มาจากตัว TFRS 16 นะครับหนี้สินสัญญาเช่านะครับ⁣

ถัดมาจะเป็นในส่วนของ Net Debt นะครับ Net Debt ในไตรมาส 1 ปีนี้ก็ไม่มีนะครับ ถ้ามาดู EBITDA on Assets นะครับก็อยู่ที่ 15.5% นะครับ ก็เพิ่มขึ้นนะครับจากไตรมาส 1 ปีที่แล้วนะครับ ก็เกิดจากตัว EBITDA ที่เราได้เพิ่มสูงขึ้นนะครับ EBITDA Margin ก็อยู่ที่ 13.2%⁣


เดี๋ยวถัดไปจะเป็นเรื่อง Strategy Update ก่อนนะครับ⁣

—-------⁣

III. Strategy Update & Sustainability ⁣

—-------⁣

วงศ์นรินทร์ แก้วชัยเจริญกิจ: เล่ากลยุทธ์ต่าง ๆ ที่เราทำนะครับ รวมถึงเราจะมีการออกสินค้าใหม่อะไรได้เดี๋ยวผมจะอัพเดทให้ท่านผู้ถือหุ้นฟังนะครับ⁣

โดยเรื่องแรกจะเป็นตัวสินค้า HVA นะครับกลุ่มหลักๆของเราก็จะมีอยู่ 3 กลุ่มนะครับตามที่ได้เรียนแจ้งไว้นะครับ ⁣

ก็จะมีกลุ่ม Health & Hygiene นะครับ สินค้าที่ชูโรงนะครับ คือ กระเบื้อง Air ion ซึ่งในไตรมาส 1 ปีนี้ ก็ได้รับการตอบรับยังดีต่อเนื่องนะครับ เนื่องจากว่าฝุ่นเนี่ยค่อนข้างเยอะนะครับทางลูกค้าก็มีการเลือกใช้สินค้า Cotto Air ion เนี่ยค่อนข้างเยอะนะครับไม่ว่าจะเป็นรีโนเวทหรือว่าสร้างใหม่นะครับ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับผู้บริโภคที่ต้องการสร้างบ้านหรือว่าต่อเติมบ้านนะครับ⁣

อีกตัวก็จะเป็นกระเบื้อง Hygienic นะครับก็เทรนด์ในการรักสุขภาพก็ยังคงอยู่นะครับการดูแลปกป้องนะครับเชื้อโรคหรือแบคทีเรียเนี่ยก็มีการเรียกใช้สินค้าตัวนี้เข้าไปนะครับ⁣

ถัดมาจะเป็นตัว Mosaic Collection นะครับ ในส่วนนี้เองก็จะเป็น จากเดิมเนี่ยตามที่ผมได้เรียนนะครับ กลุ่มสระว่ายน้ำนะครับ โรงแรมเนี่ย มีการเลือกโมเสคไปใช้นะครับนอกจากนี้จะเป็นกลุ่มพวกคาเฟ่ก็มีการเอาไปตกแต่ง Decorate ร้านเช่นเดียวกันนะครับ โดยล่าสุดนะครับก็จะเป็นร้านอาหารนะครับเป็นร้าน Izakaya Hotei ที่มีการนำตัวกระเบื้องโมเสคเนี่ยไปตัดไปแต่งร้านนะครับ ให้ดูสวยงามนะครับก็จะเห็นว่าสร้างความแตกต่างได้ดีนะครับ ก็ถือว่าเป็นภาพลักษณ์ของร้านด้วยเช่นกันนะครับ⁣

สุดท้ายก็เป็นกระเบื้องนำเข้า Italia Espana นะครับส่วนนี้ก็มีการเรียกสินค้านำเข้าอย่างต่อเนื่องนะ⁣
ครับมีการเรียกเข้าเพราะว่าโครงการเนี่ยมันเริ่มฟื้นตัวมาต่อเนื่องจาก q4 เมื่อปีที่แล้วนะครับแต่ ส่วนตัวกระเบื้องอิตาลีแล้วก็สเปนเนี่ยก็มีการใช้อย่างต่อเนื่องจากเช่นเดียวกันทำให้สัดส่วนตัวสินค้า HVA ในไตรมาส 1 ปีนี้เนี่ยจะอยู่ในกรอบของเราที่เราวางแผนที่เราวางไว้คือ 30 – 35% นะครับ ⁣

ถัดมาจะเป็นตัวคลังเซรามิกส์นะครับ ก็เป็นการร่วมมือกับผู้แทนจำหน่ายนะครับก็ยังมีการเปิดอย่างต่อเนื่องนะครับโดยในไตรมาส 1 ปีนี้ เราเปิดเพิ่ม 4 สาขานะครับ ก็อยู่ที่ 104 สาขาทั่วประเทศนะครับยอดขายก็เติบโตขึ้น 8% นะครับ⁣

ถัดไปจะเป็นตัว Cotton Life นะครับเราเป็นเน้นตัวกลุ่ม Medium High นะครับ ก็จะมีอยู่ทั้งหมด 3 สาขานะครับ Cotton Life เชียงใหม่นะครับ หรือว่าผู้ถือหุ้นอยู่ขอนแก่นก็ไปที่ Cotton Life ขอนแก่นก็ได้นะครับ ในกรุงเทพฯก็จะมีอยู่ที่ CDC ที่เลียบด่วนรามอินทรานะครับ ⁣

ถ้ามาดู Sale Revenue Trend ด้านขวามือล่างนะครับ ก็จะเห็นว่าระดับยอดขายของเราเนี่ยก็ยังอยู่ในระดับที่อยู่ในระดับสูงนะครับยังไปได้ดีนะครับ Same Store Sales Growth อยู่ที่ประมาณ 1% นะครับ⁣

ถัดมาจะเป็นกลุ่มของตัว New-growth Business นะครับก็หลัก ๆ นะครับตัว LT นะครับเราก็ออก⁣
คอลเลคชั่นเป็น Petmily นะครับหรือว่า Pet lover นะครับตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการอยู่อาศัยกับสัตว์เลี้ยงนะครับเราก็เป็นสินค้าตัว Soft+ Floor นะครับ ตัวนี้ก็ได้รับการตอบรับค่อนข้างดีนะครับเนื่องจากว่าเราเห็นเทรนด์ในส่วนนี้นะครับเราก็มีการโปรโมทสินค้าตัวนี้อย่างต่อเนื่องนะครับซึ่งในงาน ASA เราก็มีไปโชว์ตัวนี้เช่นเดียวกันนะครับ⁣

นอกจากนี้ตัว LT เนี่ยก็มีอีกคอลเลคชั่นนึงนะครับเป็น Smart Flexible Tiles ที่เป็นตัว V-class นะครับซึ่งเป็นตัวพรีเมี่ยมเลยอันนี้ก็ถือว่าตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการพื้นลายไม้สวย ๆ นะครับแล้วก็ไม่มีปลวก กันปลวกนะครับอันนี้ก็ตอบโจทย์เช่นเดียวกันนะครับ ⁣

แต่หากท่านท่านผู้บริโภคต้องการติดตั้งด้วยตัวเองนะครับก็เป็นอีก Collection หนึ่งเป็น Peel & Place นะครับก็เป็นตัวกระเบื้องเซรามิกส์นะครับเป็น smart Flexible tiles นะครับเป็นลอกกาวแล้วก็แปะได้เลยนะครับ ก็สามารถติดตั้งได้ด้วยตัวเองนะครับ ⁣

ถัดมาจะเป็นตัว Cotto Tile & Grout นะครับก็เป็นพวกปูนกาวยาแนวนะครับ เรามีการโปรโมทตัวนี้อย่างต่อเนื่องนะครับเรียกว่าเป็นตัวตึงประจำบ้านนะครับไม่ว่าจะเป็นในห้องน้ำนะครับลานจอดรถหรือว่าสระว่ายน้ำนะครับแล้วก็มีตัวการออกสินค้าเพื่อตอบโจทย์ในส่วนนี้เช่นเดียวกันพวกช่างก็มีการใช้สินค้าของเราอย่างต่อเนื่องนะครับ หากต้องการติดตั้งนะครับแล้วก็มีตัวตึงเรื่องการติดตั้งเรื่อง C’ TIS นะครับ แล้วก็มีตัว C’ TIS ที่ได้ Certificate นะครับ Cotto Standard แล้วก็มีช่างต่างๆนะครับ ณ ปัจจุบันก็มีช่างที่เพิ่มมากขึ้นนะครับเราสามารถใช้บริการส่วนนี้ได้นะครับ ⁣

ถัดมาเรื่องสุดท้ายจะเป็นตัวสุขภัณฑ์ SOSUCO เป็นตลาดล่างนะครับตลาดกลางล่างอันนี้ก็ได้รับการตอบรับค่อนข้างดีเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกันนะครับภาพรวมกลุ่ม New-growth ก็ถือว่าไปได้ดีนะครับ⁣

ถัดมาจะเป็นเรื่อง Sustainability นะครับเรื่อง Go Green นะครับก็ยอดขายตั้งเป้าของเรานะครับก็อยู่ที่ 80% นะครับ ไตรมาส 1 ปีนี้ทำได้ 75% ก็ลดลงจากปีที่แล้วเล็กน้อยนะครับประมาณ 1% นะครับโดยในกลุ่มสินค้า Green choice ของเรานะครับก็พอดีเราไปโชว์ในงาน ASA นะครับงานสถาปนิกเราก็ได้รางวัลมา 2 รางวัลนะครับก็จะเป็นตัว Cotto Eco Collection นะครับแล้วก็ตัวSoft+ Floor Collection ของ LT นะครับอันนี้เราก็ได้รางวัลมา 2 รางวัลนะครับที่ผ่านมานะครับ ⁣

อันนี้จะเป็นเรื่องมาขออัพเดทนะครับก็เราไปออกงาน ASA มาก็ให้ท่านผู้ถือหุ้นเห็นภาพรวมนะครับว่าบริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ ของเราเนี่ยมีการออกสินค้าใหม่ ๆ นะครับ เพื่อตอบรับเทรนด์ต่าง ๆ นะครับนะครับถ้าถ้าในสไลด์ก็จะมีโซน Freedom spectrum นะครับก็เป็นโลกเสมือนจริงนะครับ รวมถึงเป็นโซน Retro Future นะครับก็เป็นการออกแบบในก้าวสู่อนาคตพร้อมกับความสุขในอดีต อันนี้ก็เป็นธีมของในโซนนี้นะครับ รวมถึง Basic Organic สมดุลเราสมดุลโลกก็เป็นการออกแบบโดยใช้ก๊อกน้ำนะครับ รวมถึงตัวกระเบื้องมาปรับให้มันดูเข้ากันนะครับ สุดท้ายก็เป็น Youtopia ก็เป็นโลกใบเดิมที่ดีขึ้นกว่าเดิมนะครับ  ก็เป็นการออกคอลแลคชั่นใหม่ๆ นะครับก็อันนี้สามารถดูได้นะครับเราสามารถเลือกสั่งสินค้าต่าง ๆ ก็ในช่องทางของเรานะครับ อันนี้เราจัดไปแล้วเมื่อวันที่ 25 เมษายนถึง 30 เมษายนที่ผ่านมานี่เองนะครับก็ถือว่าตอบรับได้ค่อนข้างดีนะครับทางมีผู้บริโภคและสถาปนิกสนใจค่อนข้างเยอะนะครับ ⁣

ก็ทั้งหมดจะเป็นการอัพเดทนะครับตัวกลยุทธ์แล้วก็ตัวผลประกอบการ⁣

ถัดไปจะเป็นตัว Market Outlook แล้วก็ Company Update นะครับ เดี๋ยวเรียนเชิญคุณนำพล นะครับ⁣

—-------⁣

นำพล มลิชัย: ครับก็กลับมาช่วงท้ายนะครับเป็นตัว Market Outlook นะครับ ในไตรมาสที่ 2 นะครับ เรามองว่าในไตรมาสที่ 2 เนี่ยเราคิดว่าอ่าตลาดเนี่ย โดยภาพรวมน่าจะกระเตื้องขึ้นเล็กน้อยนะครับ อันนี้คือว่าจากการเปิดประเทศอย่างอย่างสมบูรณ์นะครับ ก็คือถ้าเราทราบข่าวก็นักท่องเที่ยวเข้ามาค่อนข้างเยอะ แล้วก็อ่าในพื้นที่ที่เป็นอ่าทำธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวเนี่ยก็จะมีกำลังซื้อเนี่ยเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนนะครับ⁣

ในขณะที่ตลาดอ่าที่เป็นแนวราบนะครับการพัฒนาของ Developer ในแนวราบเนี่ยก็ยังคงมีโมเมนตั้มโตต่อเนื่องทั้งในกรุงเทพฯ แล้วก็อ่าปริมณฑลรวมถึงต่างจังหวัดด้วยนะครับ ในขณะที่ตลาดชาวบ้านเองนะครับก็ยังถือว่ากำลังซื้อเนี่ยยังคงชะลอตัวนะครับต่อเนื่องมาจากภาวะเงินเฟ้อต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีที่แล้วนะครับ เราก็เห็นสัญญาณซื้อชะลอตัวต่อเนื่องมาไตรมาส 1 และเชื่อว่ายังคงต่อไปในไตรมาสที่ 2 ด้วยนะครับ ⁣

ราคาพลังงานเองใน Q2 คิดว่าน่าจะทรงตัวจาก Q1 นะครับน่าจะอยู่ในภาวะที่จะน่าจะน่าจะเป็นตัวที่สูงสุดและเราน่าจะเห็นต้นทุนพลังงานที่ลดลงเนี่ยใน H2 ของปีนี้ สำหรับตลาดส่งออกเองนะครับก็ยังคิดว่ายังมีการชะลอตัวอย่างต่อเนื่องนะครับก็คือว่าจากความไม่แน่นอนในประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะพม่าแล้วก็เรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนนะครับ ในทั้ง 3 ประเทศ ทั้งพม่า ลาว และก็ที่เขมร ก็ยังเห็นสภาพการชะลอตัวอยู่นะครับ ⁣

ทั้งหมดนี้ก็จะเป็นตัว Market Outlook ในไตรมาสที่ 2 ปีนี้นะครับ คือในประเทศน่าจะพอไปได้นะ และก็ต่างประเทศน่าจะชะลอตัว export โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ CLM นะครับ⁣

สำหรับ Company Update นะครับผมขอเรียนให้ทางผู้ถือหุ้นและนักลงทุนได้ทราบ เป็น Company Update ในเรื่องของการปรับโครงสร้างนะครับ⁣

โดยในวันที่ 29 นะครับมีนาคมที่ผ่านมานะครับ COTTO ก็ได้รับจากหนังสือนะเป็น Tender offer นะครับในราคาที่ 2.40 บาทต่อหุ้นนะครับ จากบริษัท SCG Decor นะครับ ซึ่งจะมีการทำ Tender offer หุ้น 2.4 บาทนะฮะ แล้วก็จ่ายค่าตอบแทนเป็นหุ้นนะครับของบริษัท SCG Decor นะครับ⁣

เดี๋ยวผมมีรายละเอียดจะเกี่ยวกับ SCG Decor ในสไลด์ถัดไปให้ท่านผู้ถือหุ้นได้รับทราบเพิ่มเติมนะครับ⁣

โดยวันที่ 30 นะครับอ่า COTTO ก็จะมีการประชุมบอร์ดนะครับแล้วก็มีการพิจารณารายละเอียดเกี่ยวกับ Restructuring Plan ของทาง SCG Decor นะครับแล้วก็มีการอนุมัติให้นำเสนอนะครับต่อผู้ถือหุ้นนะครับในการเพิกถอนหุ้น COTTO ออกจากตลาดหลักทรัพย์นะครับในราคา 2.4 บาทครับตามข้อ1ที่ผมเรียนนะครับ ⁣

ซึ่งกำหนดของที่บอร์ดออกมาก็เราจะมีการกำหนดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นครั้งพิเศษเนี่ยนะครับในวันที่ 23 พฤษภาคมนี้นะครับเวลา 9 โมงนะครับที่โรงแรม Swissôtel นะครับ ก็จะเป็นการอ่าเป็นแบบ Physical นะครับก็เชิญมาประชุมนะครับเพื่อให้ผู้ถือหุ้นทุกท่านเนี่ยได้ตัดสินใจนะครับแล้วก็ approved นะครับการอ่า Delist นะครับ COTTO  ออกจากตลาดนะครับแล้วก็ให้เป็นไปตามแผนงานของตัว Restructuring Plan ของ SCG Decor ในลำดับถัดไปนะครับ⁣

ภาพถัดไป ผมขออธิบายนะครับ ให้ผู้ถือหุ้นเข้าใจว่า SCG Decor ที่มาทำ Tender offer ของ COTTO เนี่ยเป็นใครนะครับ แล้วก็จะมีแผนการนะครับเป็นการก่อนและหลังการปรับโครงสร้างเนี่ยภาพการถือหุ้นอาจจะเป็นอย่างไรนะครับ⁣

โดย SCG Decor เนี่ยจะเป็นบริษัทหนึ่งภายใต้ของกลุ่มบริษัทของ SCG นะครับ โดยถ้าเปรียบเทียบคือในตลาดหลักทรัพย์ตอนนี้เนี่ยจะมี SCGP หรือ SCG Packaging ครับซึ่งอยู่ในตลาดหลักทรัพย์อยู่แล้วนะครับ แล้วก็ SCG Chemical เนี่ยซึ่งกำลังจะเข้าตลาดนะครับ ⁣

SCG Decor ก็จะเป็นอีกบริษัทหนึ่งที่ SCG เนี่ยจะให้เป็นบริษัทที่เป็นแกนหลักนะครับในการที่จะรวมบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเซรามิกส์นะครับแล้วก็สุขภัณฑ์นะครับหรือว่าวัสดุตกแต่งพื้นผิวนะครับสุขภัณฑ์ธุรกิจสุขภัณฑ์หรือว่า Bathroom Business ในภูมิภาคอาเซียนหรือว่าทั้งหมดใน SCG ที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องอันนี้เนี่ยนะครับ มาอยู่ใต้บริษัท SCG Decor ทั้งหมดนะครับ แล้วก็ใช้จะให้บริษัท SCG Decor เนี่ยเป็นบริษัทแกนนำที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เพียงบริษัทเดียวนะครับ แทนบริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ ⁣


โดยโครงสร้างเนี่ยนะฮะในบริษัท SCG Decor เนี่ยจะประกอบด้วยบริษัทหลัก ๆ เนี่ยอยู่ 5 บริษัทนะครับ⁣


บริษัทแรกก็คือ เอสซีจี เซรามิกส์ ที่ท่านผู้ถือหุ้นนะครับแล้วก็นักลงทุนทุกท่านรับฟังขณะนี้นะครับ และอยู่ในตลาดหลักทรัพย์นะครับ ซึ่งเราเป็นผู้ผลิตแล้วก็จำหน่ายนะครับธุรกิจเป็นเซรามิกส์ Business นะครับแล้วก็ scope อยู่ในเมืองไทย เรามี Market Share อันดับหนึ่งจากตามข้อมูลที่บริษัทยูโรมอนิเตอร์ เข้ามาทำการสำรวจนะครับ เรามี Market Share อยู่ที่ 33% โดยที่ population เมืองไทยตลาดหลักก็อยู่ประมาณ 70 ล้านคนนะครับ ⁣


บริษัทที่ 2 ที่อยู่ภายใต้ SCG Decor ก็จะเป็นตัว Siam Sanitary Ware Group นะครับ โดยกลุ่มบริษัทนี้เนี่ยทำธุรกิจเกี่ยวกับผลิตนะครับแล้วก็จำหน่ายนะครับสุขภัณฑ์แล้วก็ก๊อกน้ำนะครับภายใต้แบรนด์หลักที่ชื่อแบรนด์ว่า COTTO นะครับซึ่งเราใช้แบรนด์เดียวกับทาง เอสซีจี เซรามิกส์ นะครับ มี market share เป็นอันดับ 1 เช่นเดียวกันนะครับ ซึ่งในเมืองไทยในกลุ่มนี้ก็มี Market Share อยู่ที่ 33% เช่นเดียวกันนะครับเพราะฉะนั้น 2 ตลาดถือว่าการรวมกันของเซรามิกส์และสุขภัณฑ์ทำให้ Scope ของทั้ง 2 บริษัทเนี่ยขยายขึ้นนะครับ ⁣


บริษัทที่ 3 นะครับเป็นบริษัท Prime Group นะครับอันนี้เนี่ยจะเป็นบริษัทที่ผลิตและก็จำหน่ายครับธุรกิจเซรามิกครับอยู่ที่ประเทศเวียดนามนะครับแล้วก็มี Market Share เป็นอันดับ 1 ในประเทศเวียดนามนะครับมี Market Share อยู่ที่ 26.4 นะครับแล้วก็ในมุมของ population เวียดนามอยู่ที่ประมาณซักเกือบ 100 ล้านคนนะครับก็ถือว่าตลาด จำนวน Population เนี่ยใหญ่กว่าของไทยนะครับ ⁣


บริษัทถัดไปก็จะเป็นบริษัท Mariwasa-siam Ceramics นะครับอันนี้อยู่ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งทำธุรกิจเซรามิกส์นะครับในประเทศฟิลิปปินส์นะครับผลิตแล้วก็จำหน่ายนะครับอันนี้เนี่ยมี Market Share เป็นอันดับ 1 เช่นเดียวกันนะครับอยู่ประมาณซัก 17% นะฮะที่ประเทศฟิลิปปินส์นะครับ⁣

⁣แล้วก็จะมีอีกบริษัทนึงก็คืออยู่ที่ประเทศอินโดนีเซียนะครับหรือว่าเรียกว่า PT Keramika Indonesia นะครับ ภายใต้การผลิตแล้วก็จำหน่ายเซรามิกส์นะครับภายใต้แบรนด์ KIA นะครับ ซึ่งเป็นบริษัทที่เป็นแบรนด์ที่ได้รับการตอบรับของประเทศอินโดนีเซียนะครับ ค่อนข้างดีนะครับ แต่ที่นู่นเนี่ยเนื่องจากมีประชากรค่อนข้างเยอะแล้วก็ตลาดใหญ่นะครับแล้วก็จำนวน Capacity ที่เรามีอยู่เนี่ย ประมาณซัก 4 % นะครับแล้ว นอกจากนั้นก็ยังมีเป็นพวก Investment อยู่ครับเล็กน้อยนะครับ เราถือหุ้นในบริษัทวี.เจ.วี. อยู่เล็กน้อย ประมาณซัก 10% นะครับ ⁣

แต่ที่จะสรุปให้เห็นว่า 5 บริษัทที่เป็นแกนหลักที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับวัสดุตกแต่งพื้นผิวแล้วก็สุขภัณฑ์เนี่ยนะครับ ล้วนแต่เป็นบริษัทชั้นนำแล้วก็เป็นเบอร์ 1 ใน 4 ประเทศนะครับ แล้วก็อยู่ในตลาดเนี่ยค่อนข้างจะใหญ่นะครับ⁣

⁣โดยภาพรวมนะเดี๋ยวผมจะให้เห็นภาพกันไปว่าจาก COTTO เดิมนะครับเมื่อเทียบไซส์กับ SCG Decor เนี่ยนะครับก็จะเห็นว่าตั้งแต่สินค้าเนี่ยนะครับก็คือจากที่ COTTO โฟกัสในตลาดไทยแล้วก็เป็นวัสดุตกแต่งพื้นผิวก็จะเป็นสินค้าที่เราจะขยายเพิ่มขึ้นก็จะกลายเป็นวัสดุตกแต่งพื้นผิวแล้วก็ธุรกิจสุขภัณฑ์เข้าด้วยกันในอาเซียน ประเทศที่ประกอบธุรกิจเนี่ยคือจากเมืองไทยเป็นหลักเขาจะเข้าไป 4 ประเทศที่เรามี Operation อยู่นะครับเพราะฉะนั้นเนี่ย Size ของ Population หรือว่าตลาดเนี่ยมันจะขยายไปประมาณสัก 7.8 เท่าจาก 72 ล้านคนไปเป็นซัก 560 ล้านคนนะครับ อันนี้ก็ถือว่ามีโอกาสที่จะเข้าไปได้เยอะนะครับ⁣

⁣ในมุมด้านยอดขายก็จะเห็นว่าจากยอดขายของ COTTOกับปีที่แล้วเนี่ย อยู่ประมาณซัก 13,000 นะครับก็ถ้ารวมเป็น SCG Decor ก็จะขึ้นไปแตะที่ประมาณสัก 30,000 นะครับ ก็เพิ่มขึ้นประมาณสักประมาณ 2-3 เท่านะครับ ⁣

ในมุม EBITDA ก็เช่นเดียวกันนะครับจากประมาณสัก 1,200 ของ COTTO เนี่ยก็จะขยายขึ้นประมาณสักไปเป็น 3,700 ก็เพิ่มขึ้น 3 เท่านะครับกว่านะครับแล้วก็ตัว EBITDA Margin ก็เช่นเดียวกันนะจาก 8.9% ก็ขึ้นไปเป็น 12% ⁣

⁣นั่นหมายถึงว่าธุรกิจที่เอามารวมกันทั้งสุขภัณฑ์ในเมืองไทย แล้วก็ธุรกิจเซรามิกส์ในต่างประเทศเนี่ยก็จะช่วยทำให้ผลประกอบการโดยภาพรวมดีขึ้นนะครับ⁣

⁣สินทรัพย์โดยรวมทั้งหมดเนี่ยอยู่ประมาณซัก 11,000 ของ COTTO  ขึ้นไปเป็นประมาณสัก 40,000 นะครับ กำลังการผลิตเองจาก 80 ล้านตารางเมตรในมุมเซรามิกส์ ก็จะกลายเป็น 190 ล้านนะครับแล้วก็รวมจากธุรกิจสุขภัณฑ์และก๊อกน้ำมาอีก 43 ล้านชิ้นต่อปีนะครับ⁣

⁣นอกจากนั้นเองเครือข่ายการจัดจำหน่ายจะขยายค่อนข้างเยอะนะครับ จากของเรามีอยู่ 1,200 ร้านค้าในเมืองไทยถ้ารวมทั้งหมดเนี่ยเราจะมีมากกว่า 10,000 ร้านค้านะครับ อันนี้ก็ขยายขึ้นไปอีกประมาณ 9 เท่า ⁣

⁣นอกจากนั้นจำนวนร้านค้าปลีกในเมืองไทยที่เราเดินหน้าอย่างต่อเนื่องที่ร่วมมือกับทางร้านเพื่อจะจำหน่ายนะครับในต่างประเทศเราก็มีทำเช่นเดียวกันแล้วก็อยู่ในการขยายตัวนะครับ จาก 103 จะเป็น 142 ร้านค้านะครับ อันนี้ก็จะเห็นว่า Size ของตัว Decor เนี่ยก็จะเป็น Size ที่ Scale ใหญ่กว่าแล้วก็ตลาดที่เราไป Capture เนี่ยก็จะใหญ่กว่าด้วยนะครับในภูมิภาคอาเซียนนะครับซึ่งในแต่ละประเทศในภูมิภาคอาเซียนเนี่ยก็จะเห็นว่าทั้งเวียดนามฟิลิปปินส์อินโดนีเซียมีอัตราการเติบโตในมุมของ GDP เนี่ยเติบโตมากกว่าคนไทยนะครับ ทั้งในแง่ของการเติบโตของทั้งประชากรก็เยอะกว่าแล้วก็ GDP ก็เติบโตมากกว่าด้วยนะครับ ⁣
⁣⁣
ภาพก่อนและหลังปรับโครงสร้างนะครับ วันนี้เนี่ยนะครับ COTTO เนี่ยนะครับจะมีผู้ถือหุ้นทั่วไปนะครับอยู่ประมาณซัก 17.3% แล้วก็ SCG Decor เนี่ยนะครับทำ Tender offer อยู่ที่ 2 บาท 40 สตางค์นะครับ ⁣

⁣ก็ถ้าวันที่ 23 นี้นะผู้ถือหุ้นทุกท่านเนี่ยคือลงมติให้จะย้ายไปอยู่ในบริษัท SCG Decor นะครับเพื่อไป Capture ตลาดในอาเซียนร่วมกันเนี่ยก็จะทำให้ผู้ถือหุ้น COTTO ทั้งหมดเนี่ยนะครับขึ้นไปเป็นผู้ถือหุ้นทั่วไปนะครับหลังปรับโครงสร้าง จะไปเป็นแบบผู้ถือหุ้นทั่วไปนะครับของ SCG Decor และก็ SCG Decor ก็จะมีการออก IPO ขายหุ้นให้กับนักลงทุนที่สนใจด้วยนะครับ เป็นครั้งแรกอีกด้วยนะครับในจังหวะเดียวกันกับการที่ทำเรื่องของตัว Tender offer หรือ Swap หุ้น ของผู้ถือหุ้นทั่วไปของ COTTO นะครับ ⁣

⁣ภาพรวมก็จะเป็น SCG ถือหุ้นเป็นหลัก แล้วก็จะมีผู้ถือหุ้นทั่วไป แล้วก็จะมีนักลงทุนใหม่เข้ามานะครับร่วมเป็นผู้ถือหุ้นของ SCG Decor หลังการปรับโครงสร้างนะครับ⁣

⁣ซึ่งท่านผู้ถือหุ้นทุกท่านเนี่ยพอขึ้นไปเป็นถือที่ Decor แล้ว ก็ยังเปรียบเสมือนได้เป็นผู้ถือหุ้นทางอ้อมของทาง COTTO เดิมนะฮะที่ท่านผู้ถือหุ้นอยู่แล้วก็ทางธุรกิจอื่น ๆ ที่ผมได้นำเรียนนะครับในภูมิภาคอาเซียน ⁣
⁣⁣
ก็การรวมครั้งนี้เนี่ยจะทำให้เราเนี่ยมีความเข้มแข็ง แล้วก็มีความได้เปรียบนะครับในด้านต่าง ๆ ที่จะไป Capture ตลาดในภูมิภาคอาเซียนซึ่งมีการขยายตัวนะครับในในลองรันแล้วยังขยายตัวได้อีกมากนะครับเราก็จะมีการย้าย COTTO ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ณ ปัจจุบันเนี่ยขึ้นไปเป็น SCG Decor เข้าไปจดทะเบียนแทน⁣


หน้าถัดไปผมจะมีไทม์ไลน์ครับให้ท่านผู้ถือหุ้นของ COTTO เส้นสีแดงเนี่ยจะเป็นไทม์ไลน์ของที่เกี่ยวข้องกับทางผู้ถือหุ้นของ COTTO นะครับแล้วก็เส้นด้านล่างนะครับที่เป็นสีเทาเข้มนะครับก็จะเป็นเป็น Process ของทาง SCG Decor นะครับ⁣

ก็วันที่ 30 นะครับที่ผ่านมานะครับก็มีการบอร์ดของ  COTTO นะครับดาวแรกนะครับ ด้านบนซ้ายมือ บอร์ด  COTTO ก็ approve นะครับให้นำเสนอให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นให้ผู้ถือหุ้นได้ตัดสินใจครับdelist หรือว่ารับคำเสนอซื้อหรือ Tender offer ของทาง COTTO  นะที่จะไปยานลำใหญ่ขึ้นคือ SCG Decor นะครับ⁣

โดยวันที่ 23 ที่จะถึงนี้ก็จะเป็นการลงมตินะครับที่จะเพิกถอนหุ้น  COTTO ออกจากตลาดหลักทรัพย์หลังจาก process วันที่ 23 ปั๊บเนี่ยทาง SCG Decor ทางด้านดาวด้านที่ 3 ด้านล่างนะครับ SCG Decor ก็จะทำการรวมใบสมัครข้อมูลทั้งหมดเนี่ย Submit ให้กับทางตลาดหลักทรัพย์เพื่อพิจารณานะครับก็จะเป็น process ของการพิจารณาว่าขออนุมัติ IPO ของหุ้น SCG Decor นะครับก็จะเป็นช่วงเวลาหนึ่งที่ทาง กลต.กำหนด ⁣

ถ้าทุกอย่างทำเสร็จเรียบร้อยแล้วเนี่ยก็จะมีการประกาศนะครับก็จะมีการทำ tender offer นะครับในหุ้นของทาง Cotto อยู่ช่วงหนึ่งประมาณ 20 - 25 วัน ช่วงนี้นะครับ จนไปถึงวันที่ทาง process ของทาง SCG Decor ก็จะมีการทำ Final IPO Price Range นะครับผ่านการ Book Build นะครับให้ทางผู้ถือหุ้นแล้วก็นักลงทุนทำวิเคราะห์เป็นตัวราคาที่เหมาะสมออกมาแล้วก็จะมีกำหนดวันที่จะประกาศว่าเป็น Final เรื่องของการ Swap Ratio นะครับผู้ถือหุ้นก็จะมีการย้ายนะครับจาก COTTO  ทั่วไปขึ้นไปเป็นที่ Dcor นะครับ ⁣

โดย Process  ทั้งหมดเนี่ยคร่าวๆ หลัก ๆ ก็อยู่ประมาณนี้นะครับซึ่งจะใช้เวลาถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผนก็อาจจะได้เห็นภายในสิ้นปีนี้ แต่นี้ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขทั้งหมดว่าเป็นไปตามที่ทางตลาดหลักทรัพย์กำหนดหรือไม่นะครับ ⁣

⁣ก็อันนี้จะเป็นข้อมูลหลัก ๆ ที่ผมนำเรียนนะครับ เป็น Company Update นะครับ แล้วก็หวังว่าผู้ถือหุ้นทุกท่านในวันที่ 23 ก็เรียนเชิญมาประชุม แล้วก็จะย้ายครับย้ายยานนะครับจากยานในเมืองไทยไปยานในอาเซียนร่วมกันนะครับไป Capture Operaty ร่วมกันนะครับ ⁣

⁣ทั้งหมดก็จะเป็นรายงานนะครับของผลประกอบการ เอสซีจี เซรามิกส์ ในไตรมาสที่ 1 นะครับแล้วก็เป็นเขาเรียกว่าเป็นผลของความคืบหน้านะครับของการทำ Tender offer นะครับ ตามที่ผมได้นำเรียนทั้งหมดให้ท่านผู้ถือหุ้นได้รับทราบนะครับ ⁣

⁣ต่อไปก็จะมาเข้าสู่โหมดคำถามนะครับ⁣

⁣เดี๋ยวผมขอดูคำถามแล้วก็จะไล่ไปนะครั บเป็นคำถามที่สำคัญๆ น ะครับ ให้ท่านผู้ถือหุ้นได้รับทราบนะครับ สักครู่นะครับ⁣

—-------⁣

พิธีกร: ก็คำถามก็ค่อนข้างมาก ก็ขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ให้ความสนใจนะคะ ⁣

⁣เดี๋ยวมาเริ่มที่คำถามแรกนะคะ ก็เริ่มด้วยคำถามแนวโน้มธุรกิจในช่วง เม.ย. และ พ.ค. ปี 66 เนี่ยมีทิศทางเป็นอย่างไรบ้างค่ะ ⁣

⁣แล้วก็เกิดจากปัจจัยอะไรบ้าง แล้วก็อีกคำถามนึงนะคะ ความคืบหน้าในการปรับราคาจำหน่ายสินค้า แล้วก็แนวโน้มต้นทุนวัตถุดิบ ต้นทุนการผลิต ต้นทุนพลังงาน และราคาก๊าซธรรมชาติในไตรมาส 2 เป็นอย่างไรค่ะ⁣

—-------⁣

นำพล มลิชัย: ครับ ก็ถ้าดูแล้วในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ก็ตลาดนี่ถือว่ายังใกล้เคียงกับภาพรวมและใกล้เคียงกับไตรมาสที่ 1 นะครับ แต่อย่างไรก็ตาม ก็แนวโน้มกราบต้นทุนก็ยังเป็นเขาเรียกว่าเป็นสิ่งที่เราต้องจับตามองอย่างต่อเนื่องนะครับ ทั้งต้นทุนค่าพลังงาน ทั้งไฟฟ้าและก็ค่าแก๊สนะครับ⁣


ถ้าถามว่าราคานะครับก็คือว่าเรามีการปรับราคาขึ้นมาอย่างต่อเนื่องนะครับในไตรมาสที่ 1 ก็อยู่ที่ 178 บาทต่อตารางเมตรนะครับ แล้วก็อาจจะมีปรับขึ้นได้อีกบ้างเล็กน้อยนะครับตามตาม Portion ของตัวProduct ที่เราพยายามดันตัว HVA ให้เพิ่มมากขึ้นหรือว่ากลุ่มสินค้าที่มีราคาหรือว่ามี Margin เนี่ยสูงนะครับอย่างต่อเนื่องนะครับ⁣

—-------⁣

พิธีกร: ค่ะ คำถามถัดมานะคะ เป้าหมายการเติบโตของยอดขายหรือว่ารายได้ทั้งปี 66 เนี่ย วางไว้ที่กี่ % จากปีก่อนคะ⁣

—-------⁣

นำพล มลิชัย: คือในไตรมาสแรกเนี่ยนะครับ เราก็มีอัตราการเติบโตนะครับ ถึงแม้ว่า Volume เนี่ยจะลดลงนะครับ ถ้าดูจาก Volume ที่ลดลงเนี่ย เห็นว่าลดลงจากหลัก ๆ มาจากตลาด Export นะครับในเมืองไทยเนี่ยถือว่าใกล้เคียงกับกับปีที่แล้วนะครับ⁣


เราก็เชื่อว่าเรายังมีการโอกาสที่จะเติบโตในปีนี้เลยนะครับอยู่ในช่วง 5-10% นะครับจากราคาที่เราปรับขึ้นเพิ่มขึ้นมา เพื่อให้สะท้อนกับต้นทุนที่แท้จริงนะครับก็อยู่ประมาณนี้ครับ⁣

—-------⁣

พิธีกร: ถัดมานะคะ แผนการลงทุนในปี 66 ไตรมาส 1 มีการลงทุนอะไรไปแล้วบ้างนะคะ แล้วก็แผนในไตรมาส 2 เนี่ย จะมีแผนจะลงทุนอะไรเพิ่มเติมอีก⁣

—-------⁣

นำพล มลิชัย:  ก็การลงทุนหลัก ๆ ของเราเนี่ยนะครับก็จะมีการลงทุนที่เกี่ยวกับที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของพวก Energy Saving ที่ใช้เงินไปก็ตามภาพนะครับอยู่ที่ 200 กว่าล้านนะครับ⁣


แล้วก็มีตัวการขยายพวกพวก Retail Outlet แล้วก็ Channel Expantion ต่างๆนะครับก็นอกจากนั้นเองในโรงงานก็มีการอัพเกรด Machine ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นนะครับ หลัก ๆ ก็จะเป็นตามนี้นะครับ เพื่อให้ต้นทุนเนี่ยคือใช้ต้นทุนใช้พลังงานเนี่ยลดลง โดยเฉพาะเรื่องพลังงานเนี่ยเราให้ความสำคัญอย่างมากในช่วงที่ผ่านมานะครับ⁣

—-------⁣

พิธีกร: ปัจจุบันบริษัทมีคลังเซรามิกส์รวมกี่แห่งคะ ในไตรมาสที่ 1 เปิดไปแล้วกี่แห่งนะคะ แล้วก็คาดว่าไตรมาส 2 และ 3 ในปีนี้จะเปิดอีกไตรมาสละกี่สาขาคะ⁣

—-------⁣

นำพล มลิชัย: คือเราเองก็มีการขยายอย่างต่อเนื่องนะครับ อันนี้เป็นโมเดลที่เราร่วมมือกับร้านผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศนะครับ แล้วก็ปรับมาเป็นคลังเซรามิกส์ Family นะครับ ⁣


ณ สิ้นไตรมาสที่1 เราอยู่ที่ 104 สาขา ซึ่งการขยายเองก็คงยังยังเดินหน้าต่อเนื่องแล้วก็ดูในพื้นที่ที่สินค้าเรากระจายไปไม่ถึงนะครับ ก็คงจะทำต่อเนื่อง แต่จำนวนเนี่ยนะครับที่เราวางไว้ตอนแรก 100 สาขานะครับ เราคิดว่าเราขยับต่อนะครับตามตามจุดที่เราคิดว่าเหมาะสมนะครับ แล้วก็ถือว่าเป็นโอกาสที่เราจะเอา Product เราเข้าไปในพื้นที่นะครับ⁣


เพราะฉะนั้นเป้าหมายก็คงไม่ได้ Agressive เหมือนในช่วงอ่า 2-3 ปีที่ผ่านมาแต่คิดว่ายังมีความต่อเนื่องนะครับอาจจะอยู่ในระดับ 10-15 สาขาในปีนี้นะครับ ขึ้นอยู่กับอ่าพื้นที่ในแต่ละพื้นที่ด้วยนะครับ⁣

—-------⁣

พิธีกร: รายได้จากธุรกิจ Solar นะคะ ในไตรมาส 1 เป็นอย่างไรบ้าง ในไตรมาส 2 จะมีทิศทางเป็นอย่างไร⁣

—-------⁣

นำพล มลิชัย: ไตรมาสที่ 1 ของโซล่าเนี่ยอยู่ประมาณสัก 160 กว่าล้านบาทนะครับ ยอดขายก็ถือว่าเติบโตจากปีที่แล้วค่อนข้างเยอะนะครับ แล้วก็เราอันนี้เนี่ยเป็นออเดอร์ที่เรารับมาตั้งแต่ปีที่แล้วนะครับ ปีนี้เนี่ยเนื่องจากต้นทุนพลังงานโดยเฉพาะค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นเนี่ยเราก็จะมีออเดอร์เข้ามานะครับ อยู่ระดับหนึ่ง ก็เรียกได้ว่าเต็ม Capacity ที่เราทำนะครับ แล้วก็คิดว่าจะมีการเติบโตกว่าปีที่แล้วแน่นอนนะครับก็ไม่ต่ำกว่า 2 Digit นะครับเป็นปีนี้นะครับ⁣

—-------⁣

พิธีกร: ราคาขายเฉลี่ยในประเทศช่วงไตรมาส 1 อยู่ที่กี่บาทต่อตารางเมตร⁣

—-------⁣

นำพล มลิชัย: อันนี้ได้นำเรียนนะครับไปแล้วนะ อยู่ที่ 178 บาทต่อตารางเมตรครับ⁣

—-------⁣

พิธีกร: คำถามถัดมา ประเมินภาพรวมผลประกอบการในงวดไตรมาส 2 ไว้อย่างไร⁣

—-------⁣

นำพล มลิชัย: คือไตรมาสที่ 2 เนี่ยนะครับ ต้องดูว่าคือไตรมาสที่ 1 นี้เป็นหน้าขาย สินค้าที่เราขายส่วนใหญ่จะเป็นสินค้ากลุ่ม High Margin นะครับค่อนข้างเยอะนะครับไตรมาสที่ 2 เนื่องจากว่าน่าขายก็จะชะลอลงนะครับเพราะเราดูว่าตัวกำไรเนี่ยจะเป็นประมาณไหนก็ขึ้นอยู่กับตัว Product Mix ข้างในนะครับ แต่คิดว่าสถานการณ์โดยภาพรวม ๆ แล้วเนี่ยน่าจะยอดขายนะครับน่าจะใกล้เคียงกับไตรมาสที่1 กำไรก็อาจจะมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงบ้างจากต้นทุนพลังงานที่เราพิจารณาอยู่ตอนนี้นะครับ เพราะว่า Volume ไตรมาสที่ 2 อาจจะลดลงกว่าไตรมาสที่ 1 นะครับ⁣

—-------⁣

พิธีกร: คำถามถัดมานะคะ ที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมหนองแค ยังมีเหลืออีกกี่ไร่คะ แล้วประเมินเป็น Gross Margin ในการขายที่ดินส่วนที่เหลือเท่าไหร่ค่ะ⁣

—-------⁣

นำพล มลิชัย: ที่ดินตอนนี้เรามีพร้อมขายอยู่ประมาณสัก 40 - 41 ไร่ ช่วงนี้นะครับ ยังมีอยู่นะครับ แล้วก็พื้นที่นอกนิคมเราก็มีแผนที่จะพัฒนา ซึ่งถ้ามีความคืบหน้าจะนำเรียนให้ทางผู้ถือหุ้นทราบนะครับ⁣

—-------⁣

พิธีกร: คำถามถัดมานะคะ ยอดขายในไตรมาส 1 ถือว่าเข้าสู่ระดับ Pre-covid Level แล้วหรือยังคะ⁣

—-------⁣

นำพล มลิชัย: จริง ๆ ยอดขายในไตรมาสที่ 1 จริงๆเราสูงกว่าในช่วงก่อนโควิดนะครับตั้งแต่ปีที่แล้วนะครับแล้วก็ต่อเนื่องหลังปีนี้ถึงแม้จะลดลงบ้างแต่ว่ายอดขายยังถือว่าสูงกว่านะครับสูงกว่าแล้วนะครับ ⁣

—-------⁣

พิธีกร: คำถามถัดมา ในช่วงเลือกตั้งที่จะถึงเนี่ยนะคะ แนวโน้มในไตรมาส 2 มีการชะลอตัวหรือไม่คะ⁣

—-------⁣

นำพล มลิชัย: เชื่อว่าการเลือกตั้งเนี่ยก็จะมีผลทำให้ ถ้าเลือกตั้งแล้วมีการจัดตั้งรัฐบาลได้น่าจะเป็นผลบวกนะครับ ซึ่งอาจจะมองเห็นผลบวกนี้ในไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 4 เพราะเชื่อว่าไม่ว่าใครขึ้นมาเป็นรัฐบาลก็จะต้องมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจนะครับ ก็มองว่าเป็นบวกนะครับ ถ้ามีการจัดตั้งรัฐบาลได้เร็วนะครับ งั้นไตรมาสที่ 2 อาจจะไม่ได้มีส่งผลอะไรมากนักนะครับ⁣

—-------⁣

พิธีกร: คำถามถัดมานะคะ ความคืบหน้าในการแลกหุ้นระหว่าง COTTO กับ SCG Dcor ค่ะแล้วก็จากการที่จะเพิกถอนหุ้น Cotto เพื่อแทนด้วยหุ้นใหม่ของ SCG Dcor มีโอกาสที่ราคาซื้อคืนหุ้น COTTO จะเพิ่มจาก 2.4 บาทต่อหุ้น ไปเป็น 2.5 บาทต่อหุ้นหรือมากกว่า 2.5 บาทต่อหุ้นหรือเปล่าค่ะ⁣

—-------⁣

นำพล มลิชัย: เรื่องราคาหุ้นนี่ ผมขอเรียนว่าน่าจะเป็นไปตามกลไกตลาดนะครับ แต่อย่างไรก็ตามถ้าไปดูตามไทม์ไลน์เนี่ยนะครับก็จะเห็นว่าตัวหุ้น COTTO เองถึงแม้ว่าจะมีการ เค้าเรียกว่าอนุมัตินะครับ ⁣

ให้เพิกถอนแล้วเนี่ย ไม่ได้แปลว่าหุ้นเนี่ยจะทำการซื้อขายไม่ได้นะครับ หุ้น COTTO เองเนี่ยจะทำการซื้อขายได้ตลอดระยะเวลาไปจนถึงวันที่วันสุดท้ายที่จะ Swap Ratio นะครับ คือคือถ้าผู้ถือหุ้นอนุมัติไปปั๊บพอวันที่เปลี่ยนจะขายซื้อขายหุ้น COTTO ได้เนี่ยไปตลอดนะระยะเวลาที่หุ้นยังอยู่ในตลาดนะครับจนวันที่หุ้นอ่าวันถัดไปที่หุ้น SCG Dcor เข้าตลาดนะครับวันนั้นผู้ถือหุ้นที่อยู่กับ COTTO เดิมก็จะกลายเป็นผู้ถือหุ้น SCG Decor ซึ่งก็ยังทำการซื้อขายนะครับผ่าน SCG Decorได้ต่อไป เพราะฉะนั้นเนี่ยจะมีความต่อเนื่องนะครับ ผมเรียนอย่างนี้ครับ⁣


ส่วนเรื่องราคาก็เป็นไปตามกลไกตลาดนะครับแล้วก็ราคา Swap เนี่ยก็ขึ้นอยู่กับ Book Build นะครับกับการที่นักลงทุนและนักวิเคราะห์ต่างๆให้ให้ค่าซึ่งถือว่าเป็น Fare price นะครับรวมจะเป็นตัว IPO price นะครับ ⁣

—-------⁣

พิธีกร: ส่วนคำถามสุดท้ายนะคะ ขอทราบความคืบหน้าการนำ COTTO ออกจากตลาดหลักทรัพย์นะคะ ตามแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจร่วมกับ SCG Decor นะคะ แล้วก็น่าจะได้เห็นความชัดเจนภายในปีนี้หรือเปล่าคะ⁣

—-------⁣

นำพล มลิชัย: ตามที่ผมเรียนนะครับ ก็คือว่า คือเราเองจะทำทุกอย่างให้เป็นไปได้รวดเร็วที่สุดนะครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเนี่ย ก็คือว่าขึ้นอยู่กับการพิจารณาของทางตลาดหลักทรัพย์นะครับ ถ้าทุกอย่างเนี่ยเป็นไปตามแผนไม่มีอะไรติดขัดก็คิดว่าอาจจะได้เห็นในปีนี้นะครับ ก็ขึ้นอยู่กับทุก ๆ ขั้นตอนครับ ถ้าทุกอย่างผ่านไปโดย Smooth นะครับก็อาจจะได้เห็นนะครับ ⁣

ครับทั้งหมดก็จะเป็นการตอบคำถามของท่านผู้ถือหุ้นทุกท่านนะครับ ขอบคุณที่มารับฟังวันนี้นะครับแล้วก็ส่งคำถามมาค่อนข้างเยอะนะครับรอบนี้ นะฮะใช้เวลาไปอย่างเต็มที่นะครับ ⁣

อย่างไรก็ตามนะครับ ถ้าท่านผู้ถือหุ้นยังมีข้อซักถามนะฮะหรือว่าต้องการข้อมูลเพิ่มเติมนะครับก็โทรเข้ามาที่นักลงทุนสัมพันธ์ของ COTTO ได้ตลอดเวลานะครับ ⁣

ทั้งนี้เนี่ยคือข้อมูลต่าง ๆ ที่จะใช้ในวันที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 23 นี้นะครับได้ถูกส่งออกไปยังผู้ถือหุ้นทุกท่านน่าจะเรียบร้อยแล้วนะครับ ก็น่าจะบางท่านก็ได้รับแล้วนะครับ บางท่านก็อยู่ในระหว่างเดินทางนะครับ แล้วก็พิจารณาข้อมูลจากตรงนั้นแล้วก็มาเจอกันวันที่ 23 เพื่อมาช่วยกันโหวตให้บริษัท SCG Decor เนี่ยเดินหน้าขับเคลื่อนเรื่องปรับโครงสร้างนะครับของของธุรกิจแล้วก็ไป Capture นะครับไปร่วมกันครับจับโอกาสที่เติบโตนะครับในอาเซียนร่วมกันนะครับ ⁣

ทั้งหมดนี้ก็จะเป็นข้อมูลของ เอสซีจี เซรามิกส์ ในไตรมาสนี้นะครับ ขอบพระคุณทุกท่านอีกครั้งหนึ่งนะครับแล้วก็เจอกันใหม่ในครั้งหน้านะครับ ขอบคุณครับ⁣

—-------⁣

วงศ์นรินทร์ แก้วชัยเจริญกิจ : ขอบคุณครับ 
thanonlongtun_p
Posts: 3145
Joined: Mon Apr 17, 2023 1:05 pm

ผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ปี 2566 หุ้น COTTO  

Image

ที่มา: บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด 
 
thanonlongtun_p
Posts: 3145
Joined: Mon Apr 17, 2023 1:05 pm

ผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2566 หุ้น COTTOImageที่มา: Globlex Research
Post Reply