[PTTEP] บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)

thanonlongtun_p
Posts: 3145
Joined: Mon Apr 17, 2023 1:05 pm

Oppday Year End 2022 บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) PTTEP


 
thanonlongtun_p
Posts: 3145
Joined: Mon Apr 17, 2023 1:05 pm

Oppday Q1/2023 บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) PTTEP



Presentation https://weblink.set.or.th/dat/registrat ... -PTTEP.pdf
 
Last edited by thanonlongtun_p on Tue May 09, 2023 5:11 pm, edited 1 time in total.
Thanonlongtun post
Posts: 377
Joined: Tue Dec 27, 2022 5:25 pm

20230508-PPTEP Q1_2023_Opportunity-Day.jpg
20230508-PPTEP Q1_2023_Opportunity-Day.jpg (601.73 KiB) Viewed 2716 times
20230508-PPTEP Q1_2023_Opportunity-Day.jpg
20230508-PPTEP Q1_2023_Opportunity-Day.jpg (601.73 KiB) Viewed 2716 times

ถอดเทป “Oppday Q1/2023 บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) PTTEP”⁣

ธนัตถ์: สวัสดีครับ ครับสวัสดีท่านนักลงทุนทุกท่านนะครับ ⁣

ในวันนี้ก็เป็นการสรุปผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1 ปี 2566 ของปตท.สผ. นะครับ ผมธนัตถ์ จากหน่วยงานนักลงทุนสัมพันธ์นะครับ แล้วก็คุณอรชร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการเงิน เป็นผู้นำเสนอในวันนี้ครับ ⁣

สำหรับในไตรมาส 1 นะครับ บริษัทยังคงมีผลการดำเนินงานที่ดีต่อเนื่องนะครับ ซึ่งเป็นผลจากการควบคุมต้นทุนของบริษัท ถึงแม้ปริมาณการขายจะลดลงนะครับ โดยหลักเนี่ยจากโครงการในต่างประเทศและราคาขายเฉลี่ยปิโตรเลียมก็ลดลงเช่นกัน ตามราคาตลาดโลกนะครับ ⁣

สำหรับในช่วงแรกนะครับผมขอเรียนเชิญคุณอรชร นะครับ นำเสนอสถานการณ์ล่าสุดของการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานให้ท่านนักลงทุนได้รับทราบก่อนนะครับ เชิญครับ⁣

----------

อรชร: ค่ะ ก็ขอสวัสดีท่านนักลงทุนทุกท่านอีกครั้งนะครับ ก็เป็นการพบปะกันประจำรายไตรมาสนะคะ สำหรับไตรมาสนี้ก็เป็นไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ค่ะ แล้วเช่นเคยค่ะก่อนที่จะเข้าพูดคุยกันถึงเรื่องผลการดำเนินงานของบริษัทก็จะขอพูดถึงเรื่องการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของโลกในปัจจุบันนะคะ ⁣

จากสถานการณ์ความขัดแย้งของประเทศรัสเซียและยูเครน ที่ส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานเป็นอย่างมากนะคะ ทำให้เกิดการกักตุนน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในหลายประเทศ ส่งผลให้ราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาน้ำมัน ทำให้หลายประเทศโดยเฉพาะประเทศในกลุ่มแขกยุโรป เอเชีย เริ่มหันกลับมาให้ความสำคัญกับเรื่องความมั่นคงทางด้านพลังงานเป็นอันดับแรกค่ะ ประกอบกับความต้องการการใช้น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และก็ถ่านหิน ในโลกที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมากทำให้ตลาดปรับการคาดการณ์ว่าพลังงานฟอซซิลยังคงเป็นแหล่งพลังงานของโลกต่อไปอีกหลายศตวรรษนะคะ และการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาดก็จะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปมากขึ้นค่ะ ⁣

นอกจากนี้บริษัทพลังงานชั้นนำของโลกก็ได้เริ่มกลับมาลงทุนพัฒนาผลิตแหล่งผลิตน้ำมันต่างๆ และก๊าซธรรมชาติมากขึ้นนะคะ หลังจากที่ได้ลดการลงทุนไปก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มแอฟริกา และเอเชียค่ะ ทั้งนี้ในภาคของพลังงานแห่งอนาคตในขณะที่ก็คาดว่าจะเป็นพลังงานไฮโดรเจน พลังงานหมุนเวียนรวมถึงพลังงานจากนิวเครียร์นะคะ และจากมุมมองสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปดังกล่าว ประกอบกับความไม่แน่นอนของสถานการณ์ต่างๆในโลก การใช้พลังงานฟอสซิล เช่น พลังงานน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติก็ยังมีความสำคัญต่อไปอีกระยะหนึ่งค่ะ โดยระหว่างการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาดนั้นนะคะ การทำให้น้ำมันและก๊าซธรรมชาติมีความสะอาดมากขึ้น จึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก เช่น การทำ Carbon Capture Storage หรือที่เรียกกันว่า CCS จึงมีบทบาทสำคัญมากขึ้นค่ะ ⁣

ปตท.สผ. ได้มีกลยุทธ์สอดคล้องกับสถานการณ์ดังกล่าว นั่นก็คือ Drive Value Decarbonize แล้วก็ Diversify โดยจะเพิ่มสัดส่วนของก๊าซธรรมชาติในช่วงการเปลี่ยนผ่าน และจะใช้ CCS ตอบโจทย์ในการทำให้ก๊าซธรรมชาติมีความสะอาดมากขึ้นนะคะ เช่นเดียวกันกับ ในขณะเดียวกันนั้นนะคะ ก็ยังพยายามที่จะค่อย ๆ ปรับตัวตามกระแส Energy Transection โดยได้มีการดำเนินการพูดคุยกับภาครัฐ เพื่อช่วยส่งเสริมและสนับสนุนการทำโครงการ CCS As-A-Service รวมไปถึงพลังงานในอนาคตอื่นๆ เช่น ไฮโดรเจนด้วยค่ะ ⁣

ถัดไปก็จะขอเรียนเชิญคุณธนัตถ์ มาพูดคุยให้ฟังในเรื่อง Highlight ของไตรมาสแรกและความคืบหน้าของโครงการต่างๆ เรียนเชิญค่ะ⁣

----------

ธนัตถ์: ขอบคุณครับ ในส่วนถัดไปขอเสนอผลการดำเนินงานของไตรมาส 1 นะครับ ⁣
ในส่วนของความคืบหน้าของธุรกิจ E&P และก็ Beyond E&P นะครับ อันดับแรกเรามาดูกันที่โครงการ G1/61 Erawan นะครับ ซึ่งโครงการนั้นยังอยู่ระหว่างการเตรียมการเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตนะครับเป็น 400 ล้านลูกบาศก์ฟุต ภายในกลางปีนี้ แล้วก็เป็น 600 ล้านลูกบาศก์ฟุตในปลายปีครับ โดยบริษัทตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องนี้ครับ เพราะว่า **คลิปค้างไป 25 วินาที (7:01)** ใหม่ที่บริษัทได้รับจากการชนะการประมูลรอบที่ 14 ในประเทศไทยนะครับ โดยบริษัทถือสัดส่วน 100% ทั้ง 2 โครงการครับ บนพื้นที่รวมกว่า 20,000 ตารางกิโลเมตร และเนื่องจากทั้ง 2 แปลง ตั้งอยู่ใกล้กับพื้นที่โครงการ G1/61 และ G2/61 จึงเชื่อว่าน่าจะมีศักยภาพทั้งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ และมีโอกาสที่จะพัฒนาได้อย่างรวดเร็วจากการใช้สิ่งติดตั้งร่วมกันได้ โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนเตรียมการ เพื่อลงนามในสัญญาแบ่งปันผลผลิตต่อไปครับ ⁣

สำหรับโครงการ SK410B Lang Lebah ที่ประเทศมาเลเซียนะครับ เรายังคงเดินหน้าการทำการออกแบบทางวิศวกรรมเบื้องต้นเพื่อรองรับการตัดสินใจลงทุนต่อไปครับ และโครงการ SK325 นะครับเป็นโครงการใหม่เช่นกัน ซึ่งบริษัทได้รับจากการชนะการประมูลรอบปี 2022 จากประเทศมาเลเซียนะครับ โดยบริษัทถือสัดส่วน 32.5% มีพื้นที่รวมกว่า 3,600 ตารางกิโลเมตร และตั้งอยู่ใกล้กับพื้นที่โครงการ SK309311 และ SK410B ที่บริษัทดำเนินการอยู่นะครับ จึงเชื่อว่าน่าจะมีศักยภาพทั้งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเช่นเดียวกัน โดยได้ลงนามสัญญาแบ่งปันผลผลิตแล้ว เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาครับ อันนี้จึงถือเป็นการต่อยอดการเติบโตในประเทศมาเลเซียของบริษัทต่อไปนะครับ ⁣

นอกจากนั้นยังมีโครงการ UAE Offshore 2  ในประเทศ UAE ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษา และวางแผนการเร่งพัฒนานะครับ สำหรับโครงการ Mozambique LNG นะครับ ยังอยู่ระหว่างการหาลือแผนการกลับเข้าพื้นที่เพื่อดำเนินการก่อสร้างโครงการต่อนะครับ สำหรับโครงการ Algeria HBR นะครับในปัจจุบันผลิตอยู่ที่ประมาณ 14,000 BPD นะครับ และกำลังศึกษาแนวทางเพื่อเพิ่มการ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 17,000 BPD ในประมาณปลายปีนี้ครับ ⁣

ในด้านธุรกิจใหม่นะครับมีโครงการ Green e-methanol นะครับซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนตั้งโรงงานผลิต Methanol โดยคาดว่าจะทราบผลการศึกษาในช่วงกลางปีนี้นะครับ และโครงการ CCS As-A-Service นะครับอย่างที่คุณอรชรได้เรียนไปนะครับ อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการบริหารจัดการและก็ให้บริการการดักจับและกักเก็บ Carbon dioxide ในพื้นที่รอบๆ อ่าวไทยนะครับให้กับบริษัทต่างๆ ทั้งในเครือ ปตท. และบริษัทเอกชนทั่วไปครับ ⁣

ส่วนสุดท้ายเป็นของ AI And Robotic ครับ ขอยกตัวอย่างบริษัท Varuna นะครับ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ ARV นะครับ เราได้เริ่มโครงการนำร่องคาร์บอนในภาคเกษตรกรรม หรือที่เรียกว่า Carbon Farming นะครับ เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและส่งเสริมเกษตรยั่งยืนครับ สำหรับกิจกรรมด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกนะครับ ณ สิ้นไตรมาส 1 นี้ บริษัทได้ทำการหลีกเลี่ยงและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสะสมได้กว่า 1.7 ล้านตันนะครับ เทียบจากปีฐานปี 2020 นะครับ ⁣

สำหรับโครงการ CCS ที่ Arthit นะครับมีการเดินหน้าความพร้อมในด้านต่างๆ นะครับเพื่อทำการตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้ายต่อไป โดยตัวโครงการนั้นมีกำลังการกักเก็บ Carbon dioxide สูงสุดอยู่ที่ประมาณ 1,000,000 ตันต่อปีนะครับ และอีกโครงการหนึ่งคือโครงการ Solar S1 นะครับ เป็นการดำเนินการก่อสร้าง Solor Farm ขนาดประมาณ 10 เมกะวัต นะครับที่โครงการ S1 โดยคาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องได้ในไตรมาส 2 นี้นะครับ โดยจะนำพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้ไปใช้ในโครงการครับ ด้านการดำเนินงานโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่างๆ บริษัทยังคงทำอย่างต่อเนื่องนะครับ

อย่างเช่น การนำก๊าซส่วนเกินและก๊าซที่เผาทิ้งกลับมาเข้าระบบกระบวนการผลิต หรือนำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่นะครับ นอกจากนั้นยังมีการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในด้านต่างๆ การดำเนินการศึกษาการนำขาแท่นผลิตหลุมกลับมาใช้ใหม่ และการดำเนินการด้านการชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือ Offset Portfolio ผ่านโครงการปลูกป่าบนบกและป่าชายเลน และโครงการดูดซับ Carbon dioxide โดยมหาสมุทรและระบบนิเวศชายฝั่งอีกด้วยครับ ⁣

ในส่วนถัดไปนะครับผมขอให้ภาพสถานการณ์ราคาตลาดของน้ำมันและก๊าซธรรมชาตินะครับ ⁣

โดยทางด้านซ้ายมือนะครับในส่วนของราคาน้ำมันนะครับ ในไตรมาสที่ผ่านมาราคาน้ำมันดูไบเฉลี่ยนะครับในไตรมาส 1 อยู่ที่ประมาณ 80.2 เหรียญต่อบาร์เรลนะครับ ปรับตัวลดลงจากไตรมาส 4 ปีก่อนจากความกังวลต่อสภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยในช่วงต้นไตรมาสนะครับราคาน้ำมันดิบมีการฟื้นตัวจากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากอุปสงค์ที่ปรับเพิ่มขึ้นนะครับหลังจากจีนกลับมาเปิดประเทศ และตัวเลขการเดินทางในสหรัฐและยุโรปปรับตัวสูงขึ้นนะครับ

อย่างไรก็ตามในเดือนมีนาคมนะครับ ธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกาได้ส่งสัญญาณการคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูง ประกอบกับปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐเอง ก็ยังคงปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องนะครับรวมถึงความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตกาลของภาคธนาคารในสหรัฐและยุโรปนะครับ ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงในไตรมาส ทั้งนี้นะครับตลาดคาดการณ์ในช่วงปี 2566 ราคาน่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 70-90 เหรียญต่อบาร์เรล ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองของบริษัทครับ ⁣

ในด้านของความต้องการใช้น้ำมันนะครับ ความต้องการใช้น้ำมันมีแนวโน้มลดลง โดยช่วงไตรมาส 2 นะครับ จากความกังวลในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางในหลายประเทศ ตามที่กล่าวไปนะครับ โดยคาดว่าความต้องการใช้น้ำมันดิบน่าจะฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้นะครับ เนื่องจากเข้าสู่ฤดูท่องเที่ยวของทางสหรัฐและยุโรปนะครับ ⁣

สำหรับปริมาณน้ำมันในตลาดนะครับในปีนี้เราคาดว่าจะมี Supply ส่วนเกินเล็กน้อยนะครับ ซึ่งจากการที่ยุโรปยุติการนำเข้าน้ำมันดิบ รวมถึงการกำหนดเพดานราคาซื้อน้ำมันดิบจากประเทศรัสเซียในปีที่ผ่านมาไม่ได้ส่งผลกระทบมากนักต่อปริมาณการผลิตน้ำมันดิบเฉลี่ยของรัสเซียนะครับ เนื่องจากว่าประเทศรัสเซียเองยังคงจำหน่ายน้ำมันดิบได้ในภูมิภาคอื่นๆของโลกอยู่นะครับ ในขณะที่ OPEC Plus ก็มีแผนปรับลดกำลังการผลิตลงกว่า 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวันนะครับ สำหรับปี 2566 เพื่อสร้างสเถียรภาพราคาให้อยู่ในระดับสูงต่อไปนะครับ ⁣

ดังนั้นปัจจัยที่ยังคงต้องจับตามองต่อไปนะครับ ได้แก่ ความกังวลในเรื่องของเศรษฐกิจโลกชะลอตัว การปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลาง และการใช้น้ำมันจากคลังสำรองน้ำมันดิบทางยุทธศาสตร์ รวมถึงสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนนะครับ ⁣

ในด้านของก๊าซธรรมชาตินะครับในไตรมาส 1 ราคาเฉลี่ย Asian Spot LNG ปรับตัวลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าอย่างมากนะครับ โดยมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 16.4 เหรียญต่อ MMBTU นะครับ จากความต้องการใช้ LNG ลดลงนะครับ เนื่องจากสภาพอากาศที่มีอุณหภูมิสูงขึ้นในภูมิภาคยุโรปและทางด้านเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือนะครับ ส่งผลให้ระดับก๊าซธรรมชาติคงคลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ⁣

ทั้งนี้ความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับปี 2566 นะครับ คาดการณ์ว่าความต้องการ LNG น่าจะอยู่ที่ประมาณ 412 ล้านตันต่อปี โดยในช่วงครึ่งปีแรกยุโรปจะเข้าสู่ฤดูร้อนนะครับ จะส่งผลให้ความต้องการใช้ LNG ลดลงแต่ในครึ่งปีหลังความต้องการใช้ LNG น่าจะเพิ่มขึ้นได้นะครับ ทั้งจากการเปิดเสรีการค้าในประเทศต่างๆ ของภูมิภาคเอเชีย การกักตุน LNG สำหรับฤดูหนาวในยุโรป และรวมถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนด้วยครับ ⁣

ในด้านปริมาณก๊าซธรรมชาติในตลาดนะครับในปี 2566 เราคาดการณ์ว่าสถานการณ์ LNG ในตลาดโลกน่าจะยังคงอยู่ในภาวะล้นตลาดอยู่นะครับ โดยกำลังการผลิตรวมจากโครงการเดิมและโครงการใหม่ที่เพิ่มขึ้นหลัก ๆ น่าจะมาจากประเทศอินโดนีเซีย สหรัฐอเมริกา และรัสเซีย นะครับ ดังนั้นมุมมองของ ปตท.สผ. เองเรามองว่าราคา LNG นะครับ น่าจะอยู่ในช่วง 14-26 เหรียญต่อ MMBTU นะครับ ⁣

ในส่วนถัดไป บริษัทขอนำเสนอภาพรวมการลงทุนนะครับในภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ของบริษัทแห่งหนึ่งนะครับ ⁣

ในภูมิภาคตะวันออกกลางนะครับ ปัจจุบัน ปตท.สผ. เน้นการลงทุนใน 2 ประเทศ คือ โอมาน และ UAE ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีต้นทุนการดำเนินงานที่ต่างกัน โดยการเติบโตจะเน้นการลงทุนร่วมกับผู้ร่วมทุนชั้นนำที่มีประสบการณ์นะครับ และมีโอกาสเติบโตในทั้งธุรกิจสำรวจและผลิต และธุรกิจใหม่ครับ ปัจจุบันสัดส่วนปริมาณการขายจากประเทศโอมานและ UAE นะครับ คิดเป็นประมาณ 12% และหากโครงการต่างๆที่จะทำการพัฒนาขึ้นในอนาคตสำเร็จ ภูมิภาคนี้ก็จะมีความสำคัญต่อการเติบโตของบริษัทในอนาคตมากขึ้นนะครับ ⁣

ในปัจจุบันนะครับประเทศโอมาน บริษัทมีโครงการในระยะสำรวจ  1 โครงการ ได้แก่ โครงการ Block12 นะครับ และมีโครงการที่ผลิตแล้ว 3 โครงการ ได้แก่ โครงการ Block61, Block53 และ PDO Block6 ซึ่งทุกโครงการยังผลิตได้ตามแผนงานนะครับ และมีโอกาสเพิ่มกำลังการผลิตได้อีกนะครับ และเรายังมีโครงการในส่วนของ Midstream ตัว LNG นะครับได้แก่ โครงการ Oman LNG ซึ่งบริษัทมีสัดส่วนลงทุนอยู่ด้วยนะครับ ⁣

สำหรับในประเทศ UAE นะครับ เรามีโครงการในระยะสำรวจ 5 โครงการ ได้แก่ โครงการ Offshore 1,2,3 และ Sharjah A และ Sharjah C โดยคาดว่าบางโครงการนั้นน่าจะสามารถเร่งการผลิต เร่งการพัฒนานะครับได้เร็วขึ้น เช่น โครงการ Offshore 2 นะครับ หลังจากที่บริษัทได้มีการค้นพบแหล่งปิโตรเลียมไปก่อนหน้านี้นะครับ ประกอบกับผู้ร่วมทุนในโครงการเองก็มีความชำนาญในการพัฒนาโครงการในพื้นที่ดีอยู่นะครับ นอกจากนี้ก็ยังมีโครงการ Midstream LNG ในประเทศ UAE เช่นเดียวกันนะครับ ก็คือ โครงการ ADNOC Gas Processing หรือ AGP นะครับ ซึ่งบริษัทมีสัดส่วนอยู่ ⁣

ก่อนที่จะไปเรื่องผลการดำเนินงานนะครับ ผมขอเสนอความคืบหน้าในด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามแผนงานของ ปตท.สผ. นะครับ ⁣

บริษัทดำเนินงานด้าน Decarbonization นะครับ ผ่านแนวคิดที่เรียกว่า EP Net Zero นะครับ E ก็คือ การ Exploring for Lower Carbon E&P Portfolio นะครับ ก็จะเน้นการเป็นพันธมิตรกับบริษัทที่มีแนวทางการลดก๊าซเรือนกระจกที่สอดคล้องกับ Pathway ของบริษัท นอกจากนั้นยังนำเกณฑ์พิจารณาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมาปรับใช้กับทั้งวงจรธุรกิจ E&P ในการลงทุนนะครับ พร้อมทั้งสร้างสมดุลกลยุทธ์นะครับระหว่างการผลิตและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อให้ก๊าซ เพื่อให้เกิดการลดก๊าซเรือนกระจกได้อย่างต่อเนื่องนะครับ ตัว P ก็คือ Production and Planet in Balance แบ่งเป็น 2 หมวดงาน ได้แก่ การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามกระบวนการผลิตนะครับ เช่น การตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการผลิตปิโตรเลียมให้เป็นศูนย์ สำหรับโครงการใหม่ๆในอนาคตนะครับ การลงทุนในเทคโนโลยีการดักจับและใช้ประโยชน์จากการกักเก็บก๊าซ CO2 นะครับ หรือ CUS นะครับ

การนำเทคโนโลยีดิจิตอลมาประยุกต์ใช้ในพื้นที่การปฏิบัติการ และการเพิ่มการใช้พลังงานหมุนเวียน รวมถึงการสรรหาโอกาสการนำพลังงานสะอาดรูปแบบใหม่ในอนาคตมาใช้ในพื้นที่ของบริษัทนะครับ ในส่วนของ Planet in Balance การชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยการสร้างสมดุลในการปลูกป่าบนบก และโครงการ Blue Carbon เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์นะครับ เรามีการบริหารจัดการก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่โปร่งใส เพื่อลดประเด็นความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงบริษัท พร้อมทั้งเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เป็นศูนย์ในทุกประเทศที่ ปตท.สผ. เป็นผู้ดำเนินการด้วยครับ อีกทั้งยังมองหาโอกาสในการพัฒนาโครงการชดเชยก๊าซเรือนกระจกที่มีศักยภาพในอนาคตมาเสริม ⁣

สำหรับเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย Net Zero ในปี 2050 นะครับ ในด้านความคืบหน้าการลด  Greenhouse Gases นั้น ณ สิ้นไตรมาส  1 อย่างที่เรียนไปนะครับ นับจากปีฐาน 2020 บริษัทสามารถหลีกเลี่ยงและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสะสมรวมทั้งสิ้นแล้วกว่า 1.7 ล้านตัน CO2 นะครับ ดังนั้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายลดความเข้มข้นหรือ Intensity นะครับ ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ในปี 2030 นะครับ บริษัทจะต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากโครงการต่างๆ สะสมรวมประมาณ 22 ล้านตันนะครับ และลดสะสมให้ได้ 58 ล้านต้น สำหรับเป้าหมายการลดความเข้มการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ในปี 2040 นะครับ ⁣

ทั้งนี้บริษัทคาดว่าจะสามารถหลีกเลี่ยงและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสะสมได้รวม 125 ล้านตันนะครับได้ในปี 2050 เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย Net Zero ที่บริษัทได้กำหนดไว้ โดยคาดว่าสัดส่วนจากการ โครงการในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกนะครับ จะประกอบด้วย โครงการที่เกี่ยวข้องกับโครงการ CCS ครับ ประมาณร้อยละ 48 โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและโครงการพลังงานหมุนเวียนประมาณ ร้อยละ 33 และจากการปรับปรุงกระบวนการผลิตประมาณ ร้อยละ 19 ครับ ⁣

ในส่วนของการสะสม Carbon Credit ของบริษัทนะครับ บริษัทได้เริ่มดำเนินการสะสม Carbon Credit นะครับจากโครงการชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตั้งแต่ปี 2021 อย่างต่อเนื่องนะครับ เพื่อช่วยให้บรรลุเป้าหมาย Net Zero ซึ่งทำการชดเชยนี้มาใช้นะครับในปี 2050 เป็นต้นไป หากมีการใช้ Carbon Credit ระหว่างปีนะครับ เพื่อตอบสนองต่อการบังคับใช้กฎหมายหรือภาษี Carbon ในประเทศที่บริษัทไปปฏิบัติการอยู่ ซึ่งคาดว่าจะเหลือ Carbon Credit สะสมในปี 2050 อยู่ที่ประมาณ 4 ล้านตัน Co2 นะครับ ประกอบด้วย การซื้อก๊าซ Carbon Credit จาก Platform ต่างๆ ประมาณร้อยละ 49 จากโครงการ Blue Carbon ประมาณร้อยละ 35 และจากการนำเทคโนโลยีเพื่อการดักจับคาร์บอนไดออกไซด์จากชั้นบรรยากาศและนำไปกักเก็บประมาณ ร้อยละ 10 และส่วนที่เหลือจากการโครงการปลูกและบำรุงรักษาป่าบกประมาณร้อยละ 6 ครับ ⁣

ถัดไปนะครับขอนำเสนอในส่วนสุดท้ายนะครับ ก็คือเป็นในเรื่องของผลประกอบการของไตรมาสที่ผ่านมานะครับ ⁣
โดยสรุปในภาพรวมนะครับในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา กำไรสุทธิของบริษัทอยู่ที่ 569 ล้านดอลล่าสหรัฐ เพิ่มขึ้น 152 ล้านนะครับ หรือประมาณ 36% จากไตรมาสก่อนหน้านะครับ โดยกำไรที่มาจากการดำเนินงานปกตินั้นลดลงประมาณ 131 ล้านดอลล่านะครับ โดยหลักเนื่องจากปริมาณการขายเฉลี่ยต่อวันลดลงประมาณ 8% ราคาขายเฉลี่ยเองก็ลดลงประมาณ 5% นะครับ โดยสุทธิกับต้นทุนต่อหน่วยเป็นที่ลดลงประมาณ 11% นะครับ ⁣

ปัจจัยที่ทำให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นนะครับจะเป็นในส่วนของรายการที่ไม่ใช่จากการดำเนินงานปกตินะครับ เนื่องจากในไตรมาส 1 ปีนี้นะครับ รายงานผลขาดทุนน้อยลงนะครับ ประมาณ 283 ล้านดอลล่านะครับ เนื่องจากไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมาบริษัทมีผลขาดทุนจากรายการที่ไม่ใช่การดำเนินงานปกติ หลายรายการนะครับ โดยหลักก็มาจากการขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ จำนวน 205 ล้านดอลล่า จากโครงการโมซัมบิกครับ 190 ล้าน และจากโครงการ 17/06 ในแองโกล่าอีก 15 ล้านดอลล่าครับ และได้มีการรับรู้ประมาณการหนี้สินนะครับสำหรับการระงับการดำเนินการคดีแบบกลุ่ม จากเหตุการณ์แหล่งมอนทารา นะครับ จำนวน 129 ล้านดอลล่า และมีการปรับปรุงรายการหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นของโครงการ Oman แปลง 61 จำนวน 71 ล้านดอลล่านะครับ ในขณะที่ไตรมาส 1 นี้ไม่มีรายการดังกล่าวนะครับ ⁣

ในส่วนของผลประกอบการกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้น 79% นะครับมาอยู่ที่ 569 ล้านดอลล่านะครับ เป็นส่วนของกำไรจากการดำเนินงานปกตินะครับ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยประมาณ 22 ล้านดอลล่านะครับ เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมานะครับ ซึ่งเป็นผลจากปริมาณการขายเฉลี่ยต่อวัน เพิ่มขึ้น 8% นะครับ ในขณะที่ต้นทุนต่อหน่วยลดลงเล็กน้อยที่ 2% และราคาขายเฉลี่ยลดลงประมาณ 3% ครับ ⁣

ในส่วนของรายการที่ไม่ได้ที่ไม่ใช่การดำเนินงานตามปกตินะครับ เป็นผลขาดทุนที่ลดลงอย่างมากนะครับจากการขาดทุน 252 ล้านดอลล่านะครับในไตรมาส 4 นะครับมาเป็นขาดทุน 3 ล้านดอลล่าในไตรมาส 1 นะครับ ซึ่งในไตรมาสก่อนหน้านั้นเป็นผลจากการขาดทุนนะครับ จากการประกันความเสี่ยงราคาน้ำมันนะครับ ⁣

ถัดไปนะครับในส่วนของปริมาณการขายเฉลี่ยต่อวันนะครับ ในไตรมาสนี้นะครับลดลงประมาณ 39,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวันนะครับ มาอยู่ที่ 460,000 บาร์เรล เทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวันนะครับ ซึ่งโดยหลักป็นผลจากการรับรู้ปริมาณขายลดลงของโครงการ Oman แปลง 61 นะครับ ซึ่งก็เป็นไปตามเงื่อนไขของสัญญาแบ่งปันผลผลิตนะครับ รวมถึงการหยุดผลิตชั่วคราวในไตรมาส 1 โครงการมาเลเซียซาร่าS เนื่องจากเรือของผู้รับซื้อก๊าซมีปัญหานะครับ และผู้ซื้อเรียกรับก๊าซธรรมชาติจากโครงการอาทิตย์ลดลงด้วยนะครับ ⁣

สัดส่วนการขายของบริษัทในไตรมาสที่ผ่านมานะครับ โดยประมาณอยู่ที่ก๊าซธรรมชาติ 72% และน้ำมัน 28% นะครับ ⁣

ในด้านของราคาขายเฉลี่ยนะครับลดลง 5% เทียบกับไตรมาสก่อนนะครับมาอยู่ที่ประมาณ 50 เหรียญต่อ BOE นะครับ โดยหลักมาจากราคาน้ำมันและราคาคอนเดนเซท (Condensate) ที่ลดลงนะครับ โดยไตรมาส โดยราคาที่ลดลงก็เป็นตามราคาในตลาดโลกนะครับ ⁣

ในส่วนถัดไปเป็นในเรื่องของต้นทุนต่อหน่วยนะครับในไตรมาส 1 นี้ ก็ลดลง 3.25 เหรียญต่อ BOE นะครับ จากไตรมาสก่อนที่อยู่ที่ 29.32 เหรียญต่อ BOE นะครับ ไตรมาสนี้ก็อยู่ที่ 26.07 เหรียญต่อ BOE นะครับ โดยราคาเสื่อม โดยค่าเสื่อมและราคาต่อหน่วยนะครับ ต่อหน่วยและ G&A นะครับ ลดลงนะครับสุทธิกับต้นทุนทางการเงินนะครับที่สูงขึ้นน้อยนะครับ จากสถานการณ์อัตราดอกเบี้ยตามตลาดนะครับ โดยค่าเสื่อมราคาต่อหน่วยที่ลดลงก็มาจากการปรับรายการหนี้สินค่ารื้อถอนของสมการบงกชออกจากบัญชีนะครับ ทำให้มีการรับรู้ค่าเสื่อมน้อยลงประมาณ 100 ล้านดอลล่าสหรัฐนะครับ ⁣

ในด้านกระแสเงินสดและด้านฐานะการเงินของบริษัทนะครับในภาพรวมโดยสรุปนะครับ บริษัทยังคงมีฐานะการเงินที่เข้มแข็งนะครับมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนภาษีในไตรมาส 1 นะครับ ประมาณ 1.7 พันล้านดอลล่าสหรัฐนะครับ และมีการจ่ายภาษีเงินลงทุนและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ประมาณ 1,000 ล้านเหรียญนะครับ ทำให้ ณ สิ้นไตรมาส 1 บริษัทมีเงินสดเพิ่มขึ้นจาก 3.5 พันล้านดอลล่า ณ สิ้นปี 2565 นะครับมาอยู่ที่ 4.2 พันล้าน ณ สิ้นไตรมาสนะครับ ในส่วนอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนนะครับ ก็ลดลงเหลือ 0.27 และต้นทุนทางการเงินยังคงที่อยู่ที่ 3.99%  นะครับ ⁣

สำหรับการคาดการณ์ผลประกอบการนะครับ ในด้านปริมาณการขายคาดว่าจะลดลงเล็กน้อยนะครับ จากปัญหาทางด้านการผลิตบางโครงการในประเทศมาเลเซียนะครับ ซึ่งอยู่ระหว่างการแก้ไขโดยคาดว่าในไตรมาส 2 นะครับปริมาณการขายจะอยู่ที่ปริมาณ 437,000 บาร์เรล และทั้งปีน่าจะปรับลดลงเช่นกัน มาอยู่ที่ประมาณ 456,000 บาร์เรลต่อวันนะครับ ในด้านราคาก๊าซน่าจะปรับลดลงเช่นเดียวกันนะครับตามราคาน้ำมันในตลาดโลกนะครับ คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 5.9 เหรียญต่อ MMBTU ในไตรมาสหน้านะครับ และทั้งปีน่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 6 เหรียญต่อ MMBTU นะครับ ในส่วนของต้นทุนน่าจะยังคงอยู่ในกรอบ 27-28 เหรียญต่อ BOE นะครับ และอัตราการทำกำไรขั้นต้นน่าจะไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ในช่วง 70-75% ครับ ⁣

ทั้งหมดเป็นการนำเสนอของบริษัทนะครับ และทางบริษัทยินดีตอบคำถามจากนักลงทุนทุกท่านนะครับ ขอเชิญเลยครับ ⁣

----------

อรชร: ค่ะ ก็มีคำถามแรกมาแล้วนะคะ จากผู้รับชมทางบ้านนะคะ ก็ถามว่า เราได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตปีนี้เป็นอย่างไรบ้าง? ⁣

ก็อย่างที่คุณธนัตถ์เรียนไปนะคะ เรามีเป้าหมายปริมาณการขายเฉลี่ยปีนี้ทั้งปีอยู่ที่ 456,000 บาร์เรลต่อวันนะคะ ซึ่งก็อาจจะลดลงเล็กน้อยจากสาเหตุปริมาณการขายของต่างประเทศตามที่คุณธนัตถ์กล่าวมานะคะ อย่างไรก็ตามเราก็อยู่ระหว่างการเร่งกำลังการผลิตของโครงการ G1/61 หรือ Erawan นะคะ และคาดว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตได้ในกลางปีนี้ และสามารถคิดว่าสามารถจะผลิตได้เต็มกำลัง 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันในเดือนเมษายนของปี 2567 ค่ะ ซึ่งเราก็จะคาดว่าปริมาณการขายตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไปเนี่ยก็จะอยู่ที่ระดับมากกว่า 500,000 บาร์เรลต่อวันนะคะ แต่อย่างไรก็ตามเราคาดว่าปีนี้เนี่ยค่ะ เราจะสามารถรักษาระดับ Margin ได้อยู่ที่ EBITDA Margin ของเราอยู่ที่ 70-75% ค่ะ ขอบคุณค่ะ⁣

----------

ธนัตถ์: ครับ มีคำถามที่ 2 นะครับถามว่า การผลิตก๊าซจากแหล่ง Erawan นะครับ หากไม่เป็นไปตามแผนทางบริษัทต้องเสียค่าปรับหรือไม่ และตอนนี้ได้ทำการติดตั้งแท่งผลิต Erawan ไปกี่แท่นแล้ว? ⁣

นะครับ ในส่วนของคำตอบ เนื่องจากว่าในกรณีนี้นะครับ การผลิตไม่ได้ตามสัญญาแบ่งปันผลผลิตเนี่ยเกิดจากการที่บริษัท ปตท.สผ. ไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้เพื่อไปเตรียมการได้ล่วงหน้านะครับ ทำให้ปริมาณการผลิตลดลงนะครับ เพราะฉะนั้นจริงๆแล้วก็ไม่ได้มีสาเหตุจากบริษัทผู้รับสัญญา ดังนั้นบริษัทยังคงเชื่อมั่นว่าจะไม่มีค่าปรับในส่วนนี้นะครับ ในส่วนของการติดตั้งแท่งผลิต ก็ติดตั้งไปแล้วรวม 8 แท่นนะครับ และก็มีการเจาะหลุมผลิตเพิ่มเติมแล้วอีกกว่า 100 หลุมนะครับ และในปีนี้ก็จะทำอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตต่อไปครับ⁣

----------

อรชร: สำหรับคำถามถัดไปนะคะ ก็ถามว่ามีการประเมินแนวโน้มไตรมาส 2 จะเติบโตมากกว่าไตรมาสแรกหรือเปล่า? ⁣

ก็อย่างที่คุณธนัตถ์เรียนไปนะคะว่า จริงๆแล้วไตรมาส 2 จะปรับลดลงมากกว่าไตรมาสแรกมาอยู่ที่ระดับ 437,000 บาร์เรลต่อวันนะคะ โดยจริงๆ ก็หลักการก็มาจากการที่เราเปลี่ยนระบบจากที่เป็นสัมประทานเข้าสู่ระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิตนะคะ นั้นก็คือโครงการ G2/61 หรือบงกช ซึ่งปริมาณการขายที่จะรายงานได้นี้ค่ะต้องสุทธิแล้วจากส่วนแบ่งผลผลิตที่ทางรัฐได้รับไปแล้วนะคะ จึงทำให้ปริมาณขายของบงกชจะถูกรายงานลดลงนะคะ แล้วก็จะมีประเด็นเรื่องปริมาณการขายของโครงการต่างประเทศในเรื่องการผลิตของโครงการต่างประเทศบางโครงการด้วยนะคะ อย่างไรก็ตามเราก็อย่างที่ได้เรียนไปนะคะ คาดว่าตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไปเนี่ย เราก็คิดว่าเราจะทำปริมาณการขายได้สูงกว่า 500,000 บาร์เรลต่อวันค่ะ ขอบคุณค่ะ⁣

----------

ธนัตถ์: เอ่อ คำถามถัดไปนะครับเกี่ยวกับราคาน้ำมันซึ่งปรับตัวลดลงต่อเนื่องนะครับ จะทำให้บริษัทขาดทุนจาก Stock น้ำมันหรือไม่นะครับในไตรมาสหน้า และก็ขอสอบถามเกี่ยวกับประเด็นเรื่องการจ่ายเงินค่าผิดสัญญาให้กับทาง กกพ. 4,000 ล้านบาท ตามที่เป็นข่าวนะครับ? ⁣

ในส่วนแรกนะครับจริงๆ บริษัทไม่ได้มี Stock น้ำมันนะครับ เพราะฉะนั้นเราจะไม่ได้มีผลกระทบในเรื่องนี้นะครับ สำหรับในส่วนที่สอง ประเด็นเกี่ยวกับเรื่องการจ่ายเงินค่าผิดสัญญานั้น จริงๆแล้วตามข่าว เป็นการเรียกร้องตาม กกพ. ไปที่ตัว ปตท.นะครับ ก็อันนี้บริษัทคงไม่สามารถให้ความเห็นได้ อันนี้ต้องสอบถามไปยังทางคู่กรณีนะครับ ขอบคุณครับ ⁣

หากนักลงทุนยังมีคำถามสามารถพิมพ์คำถามมาได้เลยนะครับ ⁣

ครับ ถ้าหากไม่มีคำถามแล้วนะครับ ในวันนี้ทางบริษัท ปตท.สผ.ขอขอบคุณนักลงทุนที่ให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟัง ⁣
การบรรยายสรุปในวันนี้นะครับ และหากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อกับหน่วยงานนักลงทุนสัมพันธ์ได้นะครับ ขอบคุณมากครับ สวัสดีครับ⁣

 
thanonlongtun_p
Posts: 3145
Joined: Mon Apr 17, 2023 1:05 pm

Oppday Q2/2023 PTTEP บมจ. ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม


Presentation https://weblink.set.or.th/dat/registrat ... -PTTEP.pdf 
thanonlongtun_p
Posts: 3145
Joined: Mon Apr 17, 2023 1:05 pm

ผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ปี 2566 หุ้น PTTEP 
 
Image

ที่มา: บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด 
 
thanonlongtun_p
Posts: 3145
Joined: Mon Apr 17, 2023 1:05 pm

Oppday Q3/2023 PTTEP บมจ. ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม


ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://listed-company-presentation.set ... h/vdo/6176
thanonlongtun_p
Posts: 3145
Joined: Mon Apr 17, 2023 1:05 pm

ผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2566 หุ้น PTTEPImageที่มา: Globlex Research
thanonlongtun_p
Posts: 3145
Joined: Mon Apr 17, 2023 1:05 pm

Oppday year-end 2023 PTTEP บมจ. ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม



ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://listed-company-presentation.set ... h/vdo/7276
thanonlongtun_p
Posts: 3145
Joined: Mon Apr 17, 2023 1:05 pm

Oppday Q1/2024 PTTEP บมจ. ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม

ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://listed-company-presentation.set ... h/vdo/7278
thanonlongtun_p
Posts: 3145
Joined: Mon Apr 17, 2023 1:05 pm

20240507 PTTEP-01.jpg
20240507 PTTEP-01.jpg (305.28 KiB) Viewed 2486 times
20240507 PTTEP-01.jpg
20240507 PTTEP-01.jpg (305.28 KiB) Viewed 2486 times

สรุปคลิป Oppday Q1/2024 PTTEP บมจ. ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม 

Company Overview 
  • PTT ถือหุ้น 64%  นักลงทุนสถาบัน 20%  นักลงทุนตางชาติ 13% นักลงทุนรายย่อย 3% 
  • มูลค่าตลาด 1.7 หมื่นล้านเหรียญ หรือประมาณ 6 แสนล้านบาท 
  • 2566 มีรายได้รวม 9 พันล้านเหรียญ หรือประมาณ 3 แสนล้านบาท 
  • การผลิตในปีที่ผ่านมา มีการผลิตแก๊ซธรรมชาติ น้ำมันดิบ และ คอนเดนเสท รวมทั้งหมด 6.3 แสนบาร์เรลต่อวัน 
  • อนุมัติจ่ายปันผล ปี 2566 ที่ 9.50 บาทต่อหุ้น  คิดเป็น 49% ของกำไรสุทธิ Dividend Yield 6.35% 
 กลยุทธ์ของ PTTEP  
  • Drive Value -> เพิ่มมูลค่าทางธุรกิจ เพิ่มกำลังการผลิต เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ดูแลต้นทุน สำรวจและผลิตก๊าซธรรมชาติ 
  • Decarbonize ->ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตั้งเป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ปี 2050 
  • Diversify -> ดำเนินการในธุรกิจในด้านพลังงานแห่งอนาคตและเทคโนโลยีชั้นสูง ได้แก่ ARV บริษัทที่ให้บริการเรื่อง AI และ หุ่นยนต์ / ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน คือธุรกิจลมนอกชายฝั่งที่สกอตแลนด์ คาดถือหุ้นสัดส่วน 25% / CCSUS การบริการกักเก็บคาร์บอนได้ออกไซด์และพลังงานไฮโดรเจน 
2024 Focus Areas  

Drive Value  -> งบลงทุน 5 ปี  31.5 พันล้านเหรียญ​ หรือประมาณ 1.1 ล้านล้านบาท  
  • โครงการ G1/61 หรือโครงการเอราวัณ เมื่อ 20 มี.ค. 2024 สามารถผลิตก๊าซธรรมชาติได้ ที่ระดับ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน 
  • มีการต่อสัญญาโครงการ Yadana ในพม่า และ Contract 4 ในอ่าวไทย และรักษาปริมาณการผลิตในพม่า 
  • โครงการที่อยู่ระหว่างการสำรวจ เช่น  SK405B ในประเทศมาเลเซีย / Abu Dhabi Offshore 
 Decarbonize -> งบลงทุน 5 ปี  500 ล้านเหรียญ​ หรือประมาณ  1.8 หมื่นล้านบาท  
  • โครงการ EP Net Zero 2050 
  • โครงการ Arthit CCS 
  • โครงการทะเลเพื่อชีวิต 
Diversify -> งบลงทุน 5 ปี  600 ล้านเหรียญ​ หรือประมาณ 2.2  หมื่นล้านบาท  
  • และมีการจัดสรรรงบสำรองไว้ให้ที่ 2 พันล้านเหรียญ หรือ 7.2 หมื่นล้านบาท
Key Takeaway Q1/2024  
  • กำไรเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 514 ล้านเหรียญ -> มาอยู่ที่ 524 ล้านเหรียญ เนื่องจากรายการที่ไม่ใช่การดำเนินงานปกติ เพราะไตรมาสที่แล้วมีการบันทึกขาดทุนจากการด้อยค่าโครงการ 
  • สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 17.7% จากปี 2563 มาได้เกินครึ่งแล้ว เพราะเป้าหมายคือลดได้ 30% ในปี 2030 
  • โครงการ G1/61 สามารถเพิ่มกำลังการผลิตก๊าซธรรมชาติได้ไปที่ระดับ 800 ลูกบาศก์ฟุตต่อวัน 
  • โดยรวมโครงการในอ่าวไทย สามารถผลิตและส่งก๊าซธรรมชาติเพื่อใช้ในประเทศ ได้ถึง 2,408 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน หรือ 81% ของความต้องการของประเทศ
  • โครงการจากเมียนมา 2 โครงการหลักคือ Yadana และ Zawika สามารถผลิตและส่งก๊าซมาที่ประเทศไทยได้ที่ 600 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน 
 สัดส่วนรายได้ 
  • ดำเนินงาน 50 โครงการใน 12 ประเทศ  พื้นที่ดำเนินงานหลักได้แก่ ประเทศไทย เมียนมา มาเลเซีย โอมาน UAE  
    • 68% Thailand -> 2 โครงการหลักในไทย  ได้แก่ G1/61 และ G2/61 ผลิตรวมกันมากกว่า 1,500 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เป็นกำลังสำคัญของก๊าซธรรมชาติให้กับประเทศไทย 
    • 19% Southeast Asia -> โครงการในเมียนมา 2 โครงการ ก๊าซที่ผลิตได้ 25% จะถูกส่งถ่ายในเมียนมา 75% นำเข้ามาใช้ในประเทศไทย  และ โครงการในมาเลเซีย 
    • 11% Middle East -> โครงการในประเทศโอมาน และ UAE 
    • 2% Africa 
  • จัดสรรงบลงทุน 10% ใน ธุรกิจ Beyond E&P  -> ธุรกิจใหม่ของบริษัท เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ได้แก่ ในไทยมีธุรกิจ AI / Solar Farm  ในตะวันออกกลางเราได้รับสิทธิโครงการสัมปทานในโครงการไฮโดรเจนสีเขียวในโอมาน  ใน ยุโรป คือโครงการพลังงานลมนอกช่ายฝั่งในประเทศสกอตแลนด์ 
 การเติบโตที่สำคัญของบริษัท  
  • โครงการ LANG LEBAH ในประเทศมาเลเซีย เริ่มผลิตก๊าซได้ภายในปี 2028 
  • โครงการ MOZAMBIQUE 
  • โครงการที่อยู่ระหว่างสำรวจ ใน UAE แหล่ง Waset และ มาเลเซียอีกหลายแหล่ง 
คาดการณ์ราคาก๊าซธรรมชาติและราคาน้ำมัน 2024 
  • ราคาน้ำมันดิบดูไบ -> คาดจะอยู่ในระดับ 70-90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ระดับใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ปัจจัยหลักได้แก่ แนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจ สหรัฐฯ จีน อินเดีย / จับตามองนโยบายลดกำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC+ / ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐาศาสตร์ 
  • ราคาก๊าซ - คาดจะอยู่ในระดับ 9-13 เหรียญ ต่อ MMBTU ปรับลงจากปีก่อนจาก Supply ที่เข้าสู่ตลาดมากขึ้น 
ผลการดำเนินงาน Q1/2024  
  • กำไรบริษัทเพิ่มขึ้น 10 ล้านเหรียญ จาก Q4/2023 และ ลดลงเล็กน้อยจากเทียบกับ Q1/2023 จากราคาขายที่ลดลงและต้นทุนต่อหน่วยที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ปริมาณขายผลิตได้เพิ่มขึ้น 
  • ปริมาณขาย 473,048 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน  
  • ราคา Gas  5.90 เหรียญ/MMBTT ปรับสูงขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน 
  • ราคา Liquid 79.36 เหรียญ/BBL อยู่ระดับใกล้เคียงกับดูไบ ปรับตัวลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน 
  • Unit Cost 28.96 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน 
  • ฐานะการเงินแข็งแกร่ง สิ้นไตรมาส 1 มีเงินสดคงเหลือ 5,000 ล้านเหรียญ กระแสเงินสดสุทธิเป็นบวกที่ 600 ล้านเหรียญ 
  • EBITDA Margin 74% 
  • D/E Ratio 0.24 เท่า (ต่ำกว่ากรอบที่ 0.5 เท่า) 
  • อัตราดอกเบี้ยถัวเฉลี่ย 3.94% ต่อปี หนี้ทั้งหมดเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ 
Outlook 2024  
  • Q2/2024 คาดการณ์ปริมาณขายเพิ่มขึ้น เป็น 514,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน  หรือ +9% QoQ  จากโครงการ G1/61 ที่จะผลิตเต็มกำลัง 800 ล้านลูกบาศก์ฟุต 
  • FY 2024 คาดการณ์ปริมาณขาย 509,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน 
  • ราคาก๊าซเฉลี่ยทั้งปี 5.9 เหรียญ ลดลงจากปีก่อนหน้า 
  • Unit Cost รักษาได้ที่ระดับ 28-29 เหรียญ 
  • รักษา EBITDA Margin ที่แข็งแกร่งที่ 70-75% 
Q&A  

ผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในเมียนมา  
  • ไม่มีผลกระทบกับเราเพราะแหล่งการผลิตค่อนข้างไกล และเป็นแหล่ง support  ก๊าซธรรมชาติให้เมียนมา 
 เหตุการณ์โรลส์ รอยซ์ มีผลกระทบอย่างไร  
  • เหตุการณ์เกิดขึ้นมานานแล้ว ความผิดส่วนบุคคล กระบวนการศาลยังไม่สิ้นสุด กำลังอยู่ในขั้นตอน 
  • บุคคลนี้ไม่ได้เป็นผู้บริหาร กรรมการ พนักงานของ PTTEP แล้ว 
 การรับสัดส่วนเพิ่มในโครงการ Yadana มีผลกระทบปริมาณขายอย่างไร  
  • เพิ่มปริมาณการผลิตของ PTTEP 4,000 บาร์เรลต่อวัน 
 งบลงทุน 5 ปี 
  • รวมทั้งหมด 32,600 ล้านเหรียญ 
  • งบปี 2024 อยู่ที่ 6,700 ล้านเหรียญ 
  • ปัจจุบันยังเป็นไปตามแพลน 
 นโยบายการจ่ายเงินปันผล เงินสดเหลือเยอะ  
  • จ่ายไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิแต่ละปี 
  • เรามีพิจารณาการใช้จ่ายเพื่อลงทุน และ จ่ายคืนหนี้ด้วย  
  • ที่ผ่านมาเราจ่ายปันผลประมาณ 50% ของกำไรสุทธิ 
ที่มา: https://www.youtube.com/watch?v=MyJAF4lJkSE  
 
 
 
 
Post Reply