Oppday Q1/2024 TOG บมจ. ไทยออพติคอล กรุ๊ป
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://listed-company-presentation.set ... h/vdo/7409
[ TOG ] บริษัท ไทยออพติคอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
-
- Posts: 3145
- Joined: Mon Apr 17, 2023 1:05 pm
สรุปคลิป Oppday Q1/2024 TOG บมจ. ไทยออพติคอล กรุ๊ป
ภาพรวมธุรกิจ TOG
- เป็นผู้ผลิตเลนส์อิสระชั้นนํา ที่มีประวัติทางธุรกิจยาวนานกว่า 70 ปี และมีโรงงานผลิตอยู่ที่ประเทศไทยทั้งหมด 2 แห่งด้วยกัน
- ประเทศไทยถือว่าเป็นศูนย์กลางการผลิตเลนส์ในภูมิภาคนี้และมีบทบาทสําคัญในธุรกิจเลนส์ระดับโลก
- TOG นําเสนอสินค้าและบริการให้กับลูกค้าในประเทศและต่างประเทศมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก
- นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าในต่างประเทศทั้งหมดสองแห่งได้แก่ TOG USA/ TOG EUROPE
- การจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้านี้ เป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและเพิ่มประสิทธิภาพการจัดส่งสินค้าให้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีบริษัทร่วมทุนคือบริษัท Vina Vista ซึ่งเป็นบริษัทจัดจำหน่ายแว่นตาในประเทศเวียดนาม ซึ่งTOGมีสัดส่วนถือหุ้นอยู่ประมาณ 33%
- ต้องการเป็นผู้นําการผลิตเลนส์อิสระชั้นนํา ที่มีความยั่งยืนและได้รับการยอมรับในระดับสากล ทั้งในด้านการให้บริการที่เป็นเลิศอย่างสม่ำเสมอ ความสะดวกสบายในการทําธุรกิจร่วมกัน ความคุ้มค่าของสินค้าและการให้บริการที่ตรงต่อเวลาทุกครั้ง ซึ่งมีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง จากนโยบายการปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกําไรสุทธิของงบการเงินรวมหลังหักเงินต่าง ๆ ที่บริษัทได้กําหนดไว้
- ในปีที่ผ่านมา TOG ได้จ่ายเงินปันผลเป็นจํานวน 0.65 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลที่สูงที่สุดในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา
- TOG เป็นผู้ผลิตเล่นแว่นตาที่มีนวัตกรรม ราคาประหยัด และมีความน่าเชื่อถือในวงการธุรกิจนี้ ซึ่งผลิตทั้งเลนส์แว่นตาแบบหล่อขึ้นรูปและเลนส์แว่นตาแบบพิเศษเฉพาะบุคคลหรือที่เรียกว่าเลนส์ Rx
- จุดเด่นของธุรกิจ มีคุณภาพสินค้าในระดับสูง แล้วเป็นที่ยอมรับในระดับสากล มีความคุ้มค่าในด้านราคาเมื่อเปรียบเทียบในส่วนของผู้ผลิตจีนสินค้าถือว่าไม่ได้เป็นเป็นที่ราคาถูกที่สุด แต่มีคุณภาพที่ดีและบริการที่เป็นเลิศ
- และทีมงานให้บริการและช่วยเหลือลูกค้าด้วยความจริงใจใส่ใจทุกรายละเอียด เพื่อให้ลูกค้าของได้รับความพึงพอใจสูงที่สุด
- ในส่วนของเรื่องความยั่งยืน ให้ความสําคัญในส่วนนี้อย่างยิ่งในทางด้านสิ่งแวดล้อมสังคมและด้านธรรมาภิบาล โดยเฉพาะเรื่องสิ่งแวดล้อมที่ให้ความสําคัญเพื่อลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมให้ได้มากที่สุด
- ผลิตเลนส์ส่งออกเป็นส่วนใหญ่มากถึง 97% ในปีที่ผ่านมา ในส่วนของเลนส์หล่อขึ้นรูปใช้เวลาผลิตประมาณ 30 - 45 วัน หลังจากได้รับคําสั่งซื้อของลูกค้าและในส่วนของเลนส์ Rxใช้ภาใช้เวลาผลิตแล้วจัดส่งประมาณ 3-5 วัน ซึ่งในส่วนของ Rx เองเป็นเครื่องจักรที่ผลิตเลนส์อัตโนมัติซึ่งเปิดตลอด 7 วัน 24 ชั่วโมงเพื่อรองรับออเดอร์ลูกค้าแบบเรียลไทม์
- ซึ่งการจัดจําหน่ายมีอยู่ 3 ลักษณะด้วยกัน
- เลนส์แคสติ้ง มีตัวแทนจําหน่ายเลนส์ที่นําเข้าสินค้าของTOGโดยตรงจากประเทศไทยไปจําหน่ายในต่างประเทศ
- จัดจําหน่ายเลนส์ผ่านสูตรกระจายสินค้า TOG Europe และ TOG USA เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าขนาดเล็กที่ไม่มีความสามารถในการนําเข้าสินค้าได้เอง และต้องการสินค้าในปริมาณที่น้อยทําให้ลูกค้าไม่ต้องลงทุนในส่วนนี้สูงแล้วได้รับความสะดวกสบายรวมถึงความรวดเร็วในการสั่งสินค้าด้วย
- เลนส์ Rx จะเป็นในกลุ่มของลูกค้าเชนร้านแว่นตา ห้องแลปศูนย์เลนส์ Rx ร้านค้าแว่นตาออนไลน์ซึ่งจะสั่งสินค้าผ่านระบบแพลตฟอร์มออนไลน์ของหน้าร้านเชื่อมต่อกับระบบออเดอร์ของสายการผลิตของเรา
- มีกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายเพื่อแก้ไขปัญหาสายตาที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นสายตาสั้น ยาว เอียง รวมถึงสายตายาวตามอายุ
- ซึ่งจะแบ่งได้ 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์ด้วยกัน
- กลุ่มที่หนึ่ง เลนส์มาตรฐานซึ่งเป็นวัสดุเลนส์ขึ้นรูปที่มีค่าดัชนีหักเหอยู่ที่ 1.50
- กลุ่มที่สอง กลุ่มเลนส์มูลค่าเพิ่ม เป็นกลุ่มวัสดุเลนส์หล่อขึ้นรูป ที่มีค่าดัชนีหักเหแสงสูง
- กลุ่มที่สาม เลนส์ Rx ซึ่งจะนำเลนส์ในกลุ่มที่หนึ่งและสอง มาเจียระไนด้านหลังเลนส์ตามค่าสายตาเฉพาะบุคคลของแต่ละลูกค้า
- กลุ่มที่สี่ กลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการอื่น ๆ อย่างเช่น เลนส์ที่ซื้อมาจําหน่ายต่อห รือการให้บริการที่เกี่ยวข้อง เช่นการประกอบเลนส์ เข้ากรอบแว่นตา
- ซึ่งแบรนด์ที่อยู่ภายใต้ TOG มีมากกว่า 10 แบรนด์สินค้าด้วยกัน ทั้งในกลุ่มเลนส์แคสติ้งและเลนส์ Rx
- ในส่วนนี้มีกลยุทธ์ธุรกิจในด้านการขยายกลุ่มลูกค้าไปยังทุกภูมิภาคทั่วโลก
- สนับสนุนศูนย์กระจายสินค้าทั้งในอเมริกา ยุโรป เพื่อ Supply ความต้องการสินค้าให้รวดเร็วยิ่งขึ้นด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายมากขึ้น
- เพิ่มประสิทธิภาพทุกกระบวนการทํางาน ปรับปรุงกระบวนการผลิตให้เป็นระบบอัตโนมัติมากขึ้นร่วมกับการขยายกําลังการผลิตและใช้ประโยชน์จากศูนย์ข้อมูลเพื่อหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ
- ขยายสายการผลิตเลนส์เฉพาะบุคคลที่ที่บริษัทย่อย เพื่อรองรับโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ
- พัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าและหา Solution การทํางานใหม่ ๆ เพื่อลดความซับซ้อนของงาน ในด้านส่วนของผลิตเลนส์แลtบริการต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้าของได้บริหารต้นทุนที่ดียิ่งขึ้นและบริษัทจะได้รับผลประโยชน์ในส่วนนี้มากขึ้น
- ใช้หลักการบริหารงานด้านความยั่งยืนเป็นรากฐานสําคัญในการดําเนินธุรกิจของ TOG
- จากแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจ เลนส์ Rx อย่างต่อเนื่องในต่างประเทศในช่วงสองถึงสามปีที่ผ่านมาส่งผลให้เมื่อปีที่ผ่านมา เราได้ลงทุนขยายกําลังการผลิต เลนส์ Rx ด้วยงบลงทุนประมาณ 530 ล้านบาท เพื่อเพิ่มกําลังการผลิตเลนส์ 5,000 ชิ้นต่อวัน เริ่มเดินเครื่องจักรผลิตอย่างเป็นทางการเมื่อมกราคมที่ผ่านมา
- จํานวนประชากร หนึ่งในสามในภูมิภาคยุโรปและอเมริกา และ 75% ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกประสบปัญหาการมองเห็นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องอายุและการใช้เวลาบนหน้าจอดิจิตอลที่ยาวนาน ส่งผลให้มีปัญหาสายตามากขึ้น ผู้คนส่วนใหญ่ได้รับปริมาณแสงสีฟ้าจากการใช้หน้าจอดิจิตอลและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ติดต่อสะสมเป็นเวลายาวนาน ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพสายตา
- ส่งผลเชิงบวกต่อรายได้บริษัทคือเนื่องจากเลนส์สายตาเป็นตัวเลือกในการแก้ไขปัญหาสายตาที่ง่าย ราคาถูก ไม่มีผลกระทบต่อดวงตา เมื่อเทียบกับการทําเลสิก และการใส่คอนแทคเลนส์
- TOG ได้รับผลกระทบจากความผันผวนด้านเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลต่อกําลังซื้อสินค้าที่ลดลงของกลุ่มผู้บริโภคทั้งในทุกภูมิภาค
- ความผันผวนด้านอัตราแลกเปลี่ยนเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อรายได้และต้นทุนการนําเข้าวัตถุดิบหลักของบริษัท
- ความท้าทายด้านภูมิรัฐศาสตร์จากสงครามระหว่างอิสราเอล ฮามาส สงครามรัสเซีย ยูเครน การแข่งขันเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างจีนและอเมริกา ความขัดแย้งระหว่างจีนไต้หวัน ซึ่งหากความขัดแย้งดังกล่าวมีความรุนแรงยิ่งขึ้นจะส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานอย่างมาก
- ค่าแรงขั้นต่ำ ที่มีแนวโน้มจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากนโยบายภาครัฐในปีนี้ อาจส่งผลกระทบต่อต้นทุนบริษัททําให้ทางฝ่ายบริหารของกลุ่มบริษัทTOGต้องติดตามความคืบหน้าของปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
Financial Performance
- สรุปภาพรวม บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 835 ล้านบาท เติบโตขึ้น 17.3% YoY
- Gross Profit 171 ล้านบาท ลดลง 21.1% YoY
- กำไรสุทธิ 112 ล้านบาทลดลง 1% YoY
- EBIT 133 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.7% YoY
- EBITDA 188 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.2% YoY
- ธุรกิจ TOG มีรายได้จากการขายด้วยการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ยกเว้นปี 2020 ที่เกิดวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด
- ซึ่งใน Q1 ปีนี้มีรายได้เพิ่มขึ้น QoQ และ YoY เนื่องจากได้รับคําสั่งซื้ออย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นช่วง High Season ของธุรกิจเลนส์ ในต่างประเทศ
- จะเห็นได้ชัดเจนว่า Q1ปีนี้ทํายอดขายได้สูงสุด
- อเมริกามีอัตราเติบโตของรายได้สูง เมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น ๆ จากปริมาณคําสั่งซื้อของลูกค้ารายใหม่ในประเทศสหรัฐอเมริกา
- เอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลางและแอฟริกามีรายได้เติบโตเช่นกัน
- ภูมิภาคยุโรป ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์มีรายได้การขายเลนส์ใกล้เคียงกับ Q1 ปีก่อน
- อเมริกามีสัดส่วนยอดขายสูงที่สุดอยู่ที่ 28%
- รองลงมาจะเป็นภูมิภาคออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ 26%
- ตามมาด้วยยุโรป 25% สุดท้ายคือ เอเชียและแอฟริกาที่ 22%
- เลนส์ Rx 45%
- รองลงมาจะเป็นเลนส์มูลค่าเพิ่ม 25%
- ตามด้วยเลนส์พลาสติกธรรมดา 22%
- แล้วผลิตภัณฑ์และบริการอื่น ๆ 8%
- รังสรรค์ความใส่ใจผ่านพลังการมองเห็นด้วยผลิตภัณฑ์เลนส์ที่มีคุณภาพดี เพื่อช่วยเหลือให้ผู้คนทั่วโลกมีสุขภาพดวงตาที่ดี
- ทั้งนี้ยังให้ความสําคัญต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งในส่วนของพนักงาน คู่ค้าธุรกิจ ลูกค้า ผู้บริโภคตลอดจนชุมชนรอบสถานประกอบการและสิ่งแวดล้อม
- หัวใจสําคัญในการบริหารงาน รังสรรค์ด้วยความใส่ใจ
- ใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อมโดยการใช้ทรัพยากรอย่างรับผิดชอบให้เกิดประสิทธิภาพสูงที่สุดการการกําจัดของเสียอย่างเหมาะสมเพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม
- ใส่ใจผู้คน เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่เข้มแข็งและยั่งยืนระหว่างหน่วยงานภายนอกและภายใน
- ใส่ใจด้านประสิทธิภาพการทํางาน มุ่งมั่นปรับปรุงมาตรฐานคุณภาพสินค้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง
- ใส่ใจด้านความร่วมมือของคู่ค้าธุรกิจลูกค้า ทุกภาคส่วนเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกที่ยั่งยืน
- มีการปรับบรรจุภัณฑ์เลนส์ใหม่ เพื่อเป็นการลดการใช้พลาสติกครั้งเดียว บรรจุภัณฑ์นี้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการกําจัดขยะ
- มีแผนลงทุนด้านพลังงานหมุนเวียนของพลังงานแสงอาทิตย์ Solar Cell บนหลังคา ได้ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ผลิตกระแสไฟฟ้ารวมทั้งหมดประมาณ 2.56 เมกะวัตต์ เทียบเท่าการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่บรรยากาศประมาณ 961 ตัน
- ได้รับการประเมินและตรวจติดตามการดําเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรมและมีความรับผิดชอบในฐานะแหล่ง supply แว่นตาเฉพาะบุคคลที่เชื่อถือได้จากหน่วยงานภายนอก ซึ่งครอบคลุมทั้ง 4 ด้านได้แก่มาตรฐานแรงงาน สุขภาพและความปลอดภัย สิ่งแวดล้อมและจริยธรรมธุรกิจ
- มีการรวบรวมข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จากเรื่องนโยบายองค์กรและกิจกรรมในด้านต่าง ๆ ที่มุ่งมั่นในการปล่อยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
- การกําจัดขยะ ปี 2023 ของเสียที่เกิดระหว่างการดําเนินงาน 35% จะถูกนําไปกําจัดด้วยวิธีรีไซเคิลที่เหมาะสม
Q&A
Gross Profit Marginในไตรมาสที่หนึ่งตำ่กว่า 20% เกิดจากสาเหตุใด เป็นปัจจัยชั่วคราวหรือไม่
- ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของกลยุทธ์ของบริษัทที่ต้องการที่จะสร้างยอดขายเพิ่มขึ้น ดังนั้นการขายจะต้องกลับไปโฟกัสในสินค้าที่มีที่มี GPM ต่ำกว่า เพื่อจะสร้าง Volume เพราะสําคัญต่อการขยาย Capacity
- ในไตรมาสที่สองประเมินว่าU Rate จะอยู่ที่ประมาณ 90-95% และแนวโน้มคาดว่าสิ่งที่ลงทุนไปน่าจะเต็ม เป็นแผนที่กําลังจะเร่งขยาย Capacity อีกครั้งหนึ่งในปีนี้ ตั้งเป้าที่จะแล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคมเพื่อรองรับ Peak Demand ในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้
- ส่วนใหญ่ของจะมุ่งเน้นไปในเรื่องของการส่งออกประมาณ 95%
- ปกติลักษณะการขาย เราเจรจาสำหรับทั้งปี แล้วในการสั่งคําสั่งซื้อ ถ้าเป็นกลุ่มแคสติ้งทําอยู่ประมาณ 2 เดือน ถ้ากลุ่ม Rx อยู่ประมาณ 3-5 วัน
- ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 0.78
- บริษัทเองคาดว่าเนื่องจากเราโอกาสเติบโต เราจะเร่งในการที่จะขยายการผลิตผ่านการกู้ยืม ซึ่งสิ่งที่ตั้งไว้คือจะพยายามรักษา D / E ไว้ไม่เกิน 1.0
- โดยรวมคือในส่วนของ GPM สินค้าที่มีพรีเมี่ยมในอดีต ยังคงจะรักษาสัดส่วน Gross Margin ได้ แต่ว่าตัวที่เราต้องเพิ่มยอดขายเพื่อสร้าง Volume จะมี GPM ต่ำกว่า เพราะฉะนั้นโดยรวม จะเห็นว่ายอดขายเพิ่มขึ้น แต่ว่าGPM ปรับลงเล็กน้อย แต่เชื่อว่าท้ายที่สุด การที่มี Volume จํานวนที่สูง จะมีประโยชน์ในการกระจายต้นทุนโดยรวมของบริษัท ทําให้ท้ายที่สุด NP จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ถ้าหากว่าเบรกพื้นที่ตรงนั้นได้ จะทําให้ U Rate โดยรวมของเรา หลังจากที่ขยายกําลังการผลิตปลายปี เราตั้ง Target ไว้ที่ ประมาณ 85-88% ซึ่งการขยายกําลังการผลิตในปีนี้นะจะเป็นการขยายกําลังการผลิตอีก 5,000 ชิ้นต่อวัน ทําให้กําลังการผลิตโดยรวมอยู่ที่ 25,000 ชิ้นต่อวันตั้งเป้ากําลังการผลิตที่จะขยายต้องแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนตุลาคม เพื่อที่จะเตรียมพร้อมกับ Paek Season
- ขอรอให้ออกมาสองไตรมาสก่อน เราถึงจะทําปรับเป้า ซึ่งคิดว่าจะปรับเป้าแน่ ๆ แต่ว่าขอดูในไตรมาสที่สองให้แล้วเสร็จก่อน
- ได้รับเหมือนกับคนอื่น แพงเท่ากัน ข้อดีคือ มันยุติธรรมทุกคน โดนหมด ยังจะทําให้สามารถในการแข่งขันคงสภาพเดิม
- 90-93%
- สิ่งที่ได้เตรียมตัวไว้คือจะลดจํานวนพนักงานตามสัดส่วนค่าแรงที่เพิ่มขึ้น โดยที่บริษัทจะมุ่งเน้นไปที่ระบบออโตโมชั่นมากขึ้นเพื่อที่จะทดแทนจํานวนคนเหล่านั้น ซึ่งในสองปีที่ผ่านมา เป็นโครงการที่บริษัทได้ดําเนินการอย่างต่อเนื่อง แล้วสามารถที่จะสร้างพัฒนาด้า Automeationโดยเฉพาะในกลุ่มแคสติ้งได้ดีมาก แล้วเชื่อมั่นว่าจะทําได้สัมฤทธิ์ผลแน่ ๆ
- คือปกติแล้วราคาของวัตถุดิบเราจะทำสัญญากับซัพพลายเออร์เป็นรายปี เพราะฉะนั้นลักษณะของการควบคุมต้นทุนจะถูกล้อคไว้แ
- ยังมียังมีอยู่ ยังได้อีก ปีนี้จะทํา 5,000 แต่ยังได้อีกหมื่นต่อวัน
- ในแง่กลยุทธ์แไม่ผิด ต้องคํานึงอีกประเด็นหนึ่งคือว่าการแข่งขันเกิดขึ้นอยู่
โดยเฉพาะช่วงที่ได้ opportunity ในการ gain moment สิ่งที่คู่แข่งได้ทําคือมีการทําให้เกิด price collation ขึ้น ทําให้ตัวราคาและจะต้องปรับระดับ - แต่อย่างไรตามเชื่อว่าทิศทางที่วางไว้แหละพยายามรักษาตัว GPM ที่สูง บน Premium Profuct และการเติมตัว Volume มาจากตัวที่มี GPM ต่ำ
- ท้ายที่สุดจะได้ประโยชน์จาก Economy of Scale
- โดยภาพรวมผู้ผลิตเลนส์แว่นตายังคงโฟกัสกันอยู่ที่ 3 ประเทศหลักคือจีน ไทย เม็กซิโกโดยที่กลุ่มประเทศที่เป็นผู้ซื้อหลักยังคงเป็น สหรัฐอเมริกา และ ยุโรป
- ดังนั้นสิ่งที่กําลังดําเนินอยู่ในช่วงนี้ เป็นเรื่องของ Geopolictic โดยเฉพาะการที่บทบาทของสหรัฐมีต่อสินค้าประเทศจีนอย่างไร คงจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจเลนส์แว่นตาด้วยเช่นกัน
- ส่วนการปรับตัวของผู้ผลิตที่มาจากจีนเค้าจําเป็นที่จะต้องปรับตัวแน่ ๆ เพราะว่าไม่งั้นจะไม่สามารถดํารงอยู่ได้
- ซึ่งในการประเมินของเรา เข้าใจว่าทางจีนผู้ผลิตจีนเอง อาจจําเป็นที่จะต้องย้ายฐานการผลิตออกจากประเทศจีน เพื่อที่จะลดระดับความรุนแรงของ Trade war ที่เกิดขึ้น ระหว่างประเทศจีนกับประเทศสหรัฐฯ
- ในแง่ของผู้ผลิตที่อยู่ในประเทศไทย มองว่าตรงนี้คือโอกาสที่เราต้องคว้าไว้ให้ได้
คู่แข่งที่ US ส่วนใหญ่มาจากประเทศใด และเรามีจุดแข็งอะไร
- ส่วนใหญ่ US นำเข้าจากเม็กซิโก เพราะว่ามีเรื่องของ NAFTA แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้น เดิมที่สองคือประเทศจีน แต่ว่าประเทศจีนได้รับผลกระทบจาก Trade War ทําให้กลุ่มของประเทศไทยเริ่มมีตัวเลขที่มีนัยยะสําคัญเพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ
- ยังไม่ได้มีแผนงานตรงนั้น แต่ว่าจะรับไว้พิจารณาเป็นส่วนหนึ่งของแผนกลยุทธ์ช่วง 5 ปีของบริษัท
- เป็นโมเดลที่วางไว้ตั้งแต่การลงทุนในปี 2023แล้วว่าถ้าเกิดมีโอกาสที่จะลงทุนเพิ่มเติมอีกครั้งนึงมันจะเป็นโมเดล block ตัว infrastructure ทำให้สายการผลิตจะรวดเร็วมาก ประเมินว่าใช้เวลาประมาณหนึ่งเดือน
- ซึ่งปัจจุบันวางแผนว่า สมมุติถ้าเครื่องจักรเข้ามาตามแผนที่วางไว้ การติดตั้งและ Test Run น่าจะแล้วเสร็จประมาณต้นเดือนตุลาคม เพื่อให้พร้อมขายในเดือนพฤศจิกายน ส่วนลูกค้า มีทั้งลูกค้ารายเดิมและลูกค้ารายใหม่ แ
- ลูกค้าเดิมสั่งเพิ่ม ประมาณ 65% ลูกค้าใหม่ 35% แต่ว่าสัดส่วนนี้กําลังจะเปลี่ยนในไตรมาสที่สอง ซึ่งลูกค้าเดิมที่สั่งเพิ่มอาจจะมีสัดส่วนน้อยลงและลูกค้าใหม่ที่จะสั่งเพิ่มจะมีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น
- ทำให้การเมืองนิ่ง ๆ และประเทศอยู่ใน place เดียวกับการแข่งขันนานาชาติได้ไม่ว่าจะเป็นในด้านของความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ความมั่นคงทางด้านเทคโนโลยีและIT รวมถึงการทางด้าน แอปพลิเคชันใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็น AI หรืออะไรต่างต่าง ขอให้ปรากฏอยู่บนชาร์ตของประเทศที่มีความสามารถทางการแข่งขัน
- ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า ถ้าเป็นกลุ่มแคสติ้งส่วนใหญ่จะเป็นตู้คอนเทนเนอร์เพราะว่าตัว profit margin จะตำ่ ต้องมี Saving สูง แต่ถ้าเป็น Rx จะเน้นไม่ทันอากาศ
- โดยรวมคือว่า Geopolitical ทําให้เรามีโอกาส เมื่อมีโอกาสเราสามารถคว้าโอกาสแล้วแสดงให้เห็นถึงความสามารถได้
- การสั่ง Rx เป็นการสั่งเลนส์สายตาเฉพาะรายบุคคล เพราะฉะนั้นจะไม่สามารถทําสต๊อกขึ้นมาได้ สิ่งที่เกิดขึ้นคือเป็น Demand ที่เกิดขึ้นจริง ซึ่ง Demand ของการใช้เลนส์บนโลกมันค่อนข้าง Constant เนื่องจากในยุโรปมีเรื่องของประกันเข้ามาช่วยถูกควบคุมทําให้ปริมาณในค่อนข้างเสถียรและอาจมีการจัดโปรโมชั่นบางช่วงที่จะรู้ล่วงหน้า
- ลักษณะของการทํา Rx แพทเทิร์นมันจะค่อนข้างไม่ได้เกี่ยวโยงกับ inventory ของฝั่งลูกค้าเลย ขึ้นอยู่ลักษณะการขายที่ไปถึงตัวคอนซูเมอร์มากกว่า ถามว่ากังวลเรื่อง Geopolitic หรือไม่ ปัจจุบันถือว่านั่นคือโอกาสของเรา
- ยังไม่ถึง 10 อันดับแรกของโลก แต่ขยับตัวเข้าไปใกล้
- ณ ปัจจุบันตามแพลนที่เห็นตอนนี้ ยังไม่มีความจําเป็นต้องเพิ่มทุน
- หลังจากที่เพิ่มพลังการผลิตแล้วจะอยู่ที่ 25,000 ชิ้นต่อวัน Operation จะเดินที่ประมาณ 360 วันต่อปี อันนั้นคือ Maximum ถามว่าเยอะไหม มันไม่เยอะ เพราะรายการสินค้าเฉพาะบุคคล มันคือจํานวน Consumer ที่วิ่งเข้าไปในร้านจริง ๆ
-
- Posts: 3145
- Joined: Mon Apr 17, 2023 1:05 pm
Oppday Q2/2024 TOG บมจ. ไทยออพติคอล กรุ๊ป
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://www.set.or.th/th/market/product ... y-snapshot
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการบรรยาย
https://www.set.or.th/th/market/product ... y-snapshot